บ้านซับตะกั่ว หมู่ 1 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เป็นพื้นที่ภูเขา มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทำให้มีชาวบ้านทยอยอพยพมาอยู่อาศัยและหาพื้นที่ทำกิน เมื่อปี พ.ศ. 2513 จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน ผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้คยเป็นที่พักแรมของเหล่านายพรานป่า มีสัตว์จำพวกเลียงผา เก้ง กวาง และหมูป่ามากมาย

ชื่อตำบลนิยมชัยน่าจะมาจากชื่อ “ส.ส.นิยม วรปัญญา” มาตั้งชื่อตำบล เนื่องจากพื้นที่ของหมู่บ้านส่วนใหญ่รวมทั้งที่ตั้ง ที่ว่าการอำเภอสระโบสถ์ปัจจุบันเป็นที่ดินของ ส.ส.นิยม วรปัญญา มอบให้ พื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติ ประมาณ 80% เป็นพื้นที่ราบสูงและภูเขาจึงไม่มีพื้นที่แปลงใหญ่ที่เหมาะสมต่อการตั้งกลุ่มบ้านขนาดใหญ่ ประชากรปัจจุบันเป็นกลุ่มที่อพยพมาจากต่างพื้นที่มาทำไร่และแผ้วถางป่า

ไม้ไผ่ เป็นพื้นเศรษฐกิจของคนในชุมชน ลำต้นไม้ไผ่ทำเครื่องเรือน ส่วนหน่อไม้นิยมมาปรุงเป็นอาหาร ช่วงเดือน กรกฎาคม - กันยายน เป็นช่วงที่ให้หน่อได้มาก เนื่องจากพื้นที่บ้านซับตะกั่วเป็นดินร่วนปนทรายจึงทำให้หน่อไม้ขึ้นดี ลุงบุญมั่นและป้าจำปา ขันทอง สองสามีภรรยา ขันแข็ง ริเริ่มมาทำหน่อไม้อัดปี๊บมาได้ 10 กว่าปี

ลุงบุญมั่นและป้าจำปาเล่าว่า “เรามีสวนไผ่ประมาณ 10 ไร่ ทุกวันพอแดดแจ้งก็เข้าสวน กลับมาก็ 11โมง ตัดหน่อไม้ได้ครั้งละ 200 – 300 กิโล”

การทำหน่อไม้อัดปี๊บ เป็นถนอมอาหารวิธีแบบภูมิปัญญาดั้งเดิม สร้างรายได้ให้ชาวบ้านซับตะกั่วอย่างมาก กรรมวิธีในการทำไม่ซับซ้อน หลังจากขุดหน่อไม้มาเต็มคันรถ ก็เริ่มต้มต้มทั้งเปลือก ล้างให้สะอาดแล้วปอกเปลือก เพื่อนำไปบรรจุใส่ปี๊บ เทน้ำใส่ปี๊บให้เต็มพอท่วมหน่อไม้ นำขึ้นตั้งไฟรอน้ำเดือด ต้มทั้งปี๊บ พักไว้ให้เย็นก็ปิดฝาปี๊บ

การเก็บหน่อไม้ใส่ปี๊บ สามารถเก็บได้เป็นปี สมัยก่อนลุงบุญมั่นและป้าจำปาเคยทำหน่อไม้เปรี้ยว แป๊บเดียว หน่อไม้ก็บินหนีหมด (หมายถึงหน่อไม้บูดเน่าง่าย)
ปัจจุบันคุณลุงบุญมั่น ทำหน่อไม้อัดปี๊บขายส่งปี๊บละ 400 บาท ให้กับตลาดค้าส่งลำนารายณ์ ในหนึ่งปี๊บได้เนื้อหน่อไม้ 14 กิโลกรัม เมื่อถึงตลาดสด ราคาขายปลีกตกกิโลละ 60 บาท ลุงบุญมั่น ขันทอง โทร. 082 230 0552

กิจกรรมที่ชาวบ้านทำเกือบทุกวัน คือการเดินทางไปป่าไผ่กันแต่เช้ามืด ไปพร้อมอาวุธคู่กายจอบเสียมค้อนและตะกร้าหรือถุงปุ๋ย ตะลุยขุดหน่อกัน ขนกลับมาเพื่อเริ่มภารกิจทำหน่อไม้อัดปี๊บ วิธีดูว่าจะมีหน่อไม้งอกตรงไหนให้สังเกตุจากลำไผ่มีฝ้าขาวนวล กิ่งไผ่หันทางไหน หน่อใต้ดินก็หันไปทิศนั้น หากเป็นฤดูฝนจะเก็บหน่อไม้ได้มากก็จริงแต่ก็ยังไม่พอขาย

เขาฟ้าแลบ ถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายนักผจญภัยชาวออฟโรด นักท่องเที่ยวมักนำรถ 4W หรือ รถจักรยานยนต์วิบากคู่ใจไปผจญภัยลุยบุกป่า ตั้งแคมป์กันอย่างสนุก ชมธรรมชาติระหว่างทาง เป้าหมายไปพิชิตยอดเขาชมวิวสูง เส้นทางสมบุกสมบันเป็นบททดสอบอันหฤโหด ที่บอกต่อกันยิ่งชวนให้นักท่องเที่ยวไปท้าพิสูจน์ด้วยตัวเอง

เส้นทางเขาฟ้าแลบ มีให้เลือกได้หลายเส้นทาง ทั้งวิ่งลัดเลาะลงลำธารหรือไต่เตาะแตะไปตามโขดหิน ถนนแคบๆ ไล่ชันขึ้นไป บ้างเป็นร่องน้ำและเนินสูงตัดขึ้นสู่ยอดเขาสูง ยิ่งขับขึ้นสูงก็ยิ่งเห็นวิวทิวทัศน์รอบด้าน สวยประทับใจเป็นการเดินทางผจญภัยที่เหล่าออฟโรดหัวใจเหล็กใฝ่ฝัน

สำหรับเมนูถิ่น นอกจากแกงเปรอะหน่อไม้เห็ดโคนแล้ว ยังมีเมนูหน่อไม้อื่นๆ เช่น ผัดหน่อไม้สามฤดูใส่ไข่ วัตถุดิบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เลือกหน่อไม้สดสามฤดูของบ้านซับตะกั่ว หั่นเป็นเส้น ๆ ต้มเทน้ำสัก 1-2 รอบสะเด็ดน้ำรอแห้ง เพิ่มความหอมอร่อยใส่กระเทียมเจียวให้เหลือง ใส่หน่อไม้ลงไปผัดไฟแรง เพิ่มความพิเศษใส่หมูสับไปหน่อย ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย เหยาะน้ำปลา ตอกไข่ไก่เกลี่ยให้ทั่วรอสุกถึงจะผักคลุกเคล้ากับหน่อไม้ ปิดไฟตักใส่จาน

หรือจะเป็นผัดคั่วหน่อไม้ดองใส่หมู หน่อไม้ดองธรรมชาติไม่ใส่สารกันบูดให้รสชาติเปรี้ยวพอเหมาะ หั่น นำมาคั่วแห้งกับหมูสับ และเครื่องพริกแกง เติมกระเพรา ใบมะกรูดเพิ่มความหอมอร่อย เป็นอาหารจานเผ็ดร้อนแซบถูกใจ ไปจนถึงน้ำพริกกะปิรสจัดจ้าน และผักเคียง ผักสด ลวก ต้ม กลายเป็นเครื่องเคียงแกล้มน้ำพริกถ้วยโปรดที่ขาดไม่ได้ หน่อไม้ลวก