เครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดขึ้นราคาเมนูอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยอ้างปัจจัยหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนวัตถุดิบ, การขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ที่ถูกยกขึ้นมาทำให้ลูกค้าร้านฟาสต์ฟู้ดบางรายกำลังลดจำนวนลง และเลือกที่จะรับประทานอาหารที่บ้านแทน ซึ่งถูกว่ามีความคุ้มค่ามากกว่า โดย Sara Senatore นักวิเคราะห์ร้านอาหารของ Bank of America กล่าวกับ Business Insider ว่าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดในอดีตขึ้นราคาเมนูอาหารประมาณ 2% ต่อปี ขณะที่ร้านอาหารบางแห่งปรับขึ้นสองหลักในปี 2022 และปี 2023

เมื่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง Senatore คาดหวังว่าผู้บริโภคจะ “อดทนน้อยลง” ต่อการเพิ่มขึ้นของราคาในอุตสาหกรรมร้านอาหาร แต่อาหารจานด่วนที่ราคาถูกลงก็อาจไม่ได้ช่วยมากนัก เนื่องจากค่าแรงขั้นต่ำใหม่ของรัฐแคลิฟอร์เนีย 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับพนักงานร้านอาหารที่จะเริ่มในเดือนนี้ ส่งผลให้เมนูต่าง ๆ ทั่วทั้งรัฐขึ้นราคา

“อาจส่งผลกระทบต่อค่าจ้างในอุตสาหกรรมฟาสต์ฟู้ดทั่วประเทศ ซึ่งหมายความว่าร้านอาหารโปรดของคุณอาจมีเมนูที่ราคาแพงขึ้น” Senatore กล่าว

เหล่านี้นำมาสู่ลูกค้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ลดจำนวนลง แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะมีความภักดีต่อแบรนด์ก็ตาม โดยผู้บริโภคจำนวนหนึ่งบอกว่าเครือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่ชื่นชอบมีราคาแพงขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น McDonald's, Dunkin', Subway และ Chipotle

ตัวอย่างผู้บริโภครายหนึ่งชื่อว่า Warren Colehour บอกว่าเขาเคยไป Dunkin' เกือบทุกเช้าเพื่อกินแซนด์วิช และกาแฟเป็นอาหารเช้า แต่ต้องปรับเป็นเหลือสัปดาห์ละ 4 วันต่อสัปดาห์ เพราะราคาที่ไม่สามารถจ่ายเงินเพิ่มขึ้นได้

เช่นเดียวกับ Chad Frye นักเขียนการ์ตูน และนักวาดภาพประกอบในแคลิฟอร์เนีย ผู้ที่ชื่นชอบอาหารฟาสต์ฟู้ด บอกว่าตนลดนิสัยการกินฟาสต์ฟู้ดจาก 4-5 ครั้งต่อสัปดาห์ เหลือเพียง 2 ครั้ง เพราะสังเกตเห็นราคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

“คุณสามารถเข้าไปร้านแมคโดนัลด์ได้ และจะมีตัวเลือกมากมายในเมนูสุดคุ้ม และพวกเขาเคยเรียกมันว่าเมนูดอลลาร์ และคุณไม่สามารถได้อะไรด้วยเงิน 1 ดอลลาร์อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม แมคโดนัลด์สหรัฐฯ กล่าวว่าราคาเมนูถูกกำหนดโดยแฟรนไชส์ท้องถิ่น และมีความแตกต่างกันไปตามร้านอาหาร โดยแมคโดนัลด์มุ่งมั่นที่รักษาความสมดุลระหว่างความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

นอกจากนี้ ยังมีผู้บริโภคบางรายบอกว่ามองว่าคุณภาพของอาหารจานด่วนไม่ได้คุ้มค่ากับราคาอีกต่อไป

ที่มา: businessinsider