การทำงานคนเดียว ถึงแม้จะดูคล่องตัวกว่ากัน และสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จในงานใหญ่ คุณจะไม่มีวันหลีกเลี่ยงการทำงานเป็นทีมได้เลยเพราะมันจะช่วยให้คุณทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมๆ กัน
และที่สำคัญ คุณยังสามารถทำในสิ่งที่คุณเองไม่ถนัดให้ออกมาดีได้ ด้วยการมอบหมายมันให้คนที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า
แต่ในทางกลับกัน การทำงานเป็นทีมเองก็มีปัญหาจุกจิกกวนใจมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เช่น คุณต้องคอยประสานงานติดต่อกับคนมากขึ้น คุณต้องมอบหมายงานให้เป็น ดูคนให้ออก และให้ความสำคัญในรายละเอียดยิบย่อยไปพร้อมๆ กัน ซึ่งนี่คือ 5 ความลับที่จะทำให้การทำงานเป็นทีมของคุณออกมามีประสิทธิภาพ
1. รับรู้ปัญหาของทุกฝ่าย
อันดับแรก คุณต้องรับรู้ปัญหาของทุกฝ่ายก่อน เอาตัวเองไปคลุกคลีกับพวกเขาสักระยะหนึ่ง หรืออาจจะมีกำหนดการที่ตายตัวว่าจะต้องรายงานปัญหาให้คุณได้รู้ทันทีเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น เพื่อที่ว่าคุณจะได้เทคแอคชั่นได้ทัน ไม่ปล่อยให้มันเป็นเรื่องลุกลามใหญ่โต การที่คุณรู้ในทุกๆ ปัญหาขององค์กร จะทำให้ทีมเข้าใจว่าคุณให้ความสำคัญกับพวกเขา ไม่ปล่อยเขาไว้เดียวดาย
และยิ่งคุณนำปัญหาเหล่านั้นมาอภิปรายในที่ประชุม และร่วมกันระดมความคิดเห็นเป็นวาระใหญ่ได้ เมื่อนั้นแหละปัญหาทุกอย่างจะคลี่คลายด้วยความคิดเห็นจากหลายมุมมอง
2. ยอมรับในความคิดเห็นที่แตกต่าง
ปัญหาใหญ่ที่น่าหนักใจที่สุดในการทำงานเป็นทีมก็คือ การที่มีความเห็นแตกต่างกัน ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะมนุษย์เรามีความคิดและมุมมองแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม สภาพสังคมที่เจอมาในอดีตจึงจะหล่อหลอมให้กลายเป็นเราในวันนี้ ดังนั้นนี่จึงเป็นทั้งปัญหา และหนึ่งเสน่ห์ของการทำงานเป็นทีม
เพราะคุณจะได้เจอการถกเถียงกันที่มากมาย และชวนให้ปวดหัวอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นคุณเองก็จะได้รับการแก้ปัญหาในมุมมองที่ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด และเหมาะสมที่สุดจากการระดมความคิดตรงนี้เช่นกัน ดังนั้นพยายามยอมรับและเปิดใจให้กับความเห็นของทุกฝ่าย แม้จะแตกต่างกับคุณแค่ไหนก็ตาม
3. ชี้แจงให้ทุกคนเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน
หากจะเริ่มการทำงานเป็นทีมได้อย่างมีคุณภาพ คุณจะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนด้วย บอกจุดประสงค์ให้ทุกคนในทีมได้รู้ว่าองค์กรของคุณกำลังเดินหน้าไปทางไหน เป้าหมายของคุณคืออะไร และใครแต่ละคน แต่ละทีม จะต้องมีบทบาทอย่างไรในการเดินทางร่วมกันครั้งนี้
ทิศทางที่ดีและเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้ลูกทีมรู้ว่าต้องดำเนินการออกมายังไงให้ไปถึงจุดมุ่งหมายตรงนั้น แตกต่างกันกับการที่คุณแค่บอกพวกเขาว่า “เราจะทำงานอย่างเต็มที่และประสบความสำเร็จไปด้วยกัน” เพราะคำพูดนั้นมันเลื่อนลอยมากกว่ากันอย่างเห็นได้ชัดเลย
4. ให้เวลาพนักงานได้พักผ่อน
เมื่อได้ทำงานติดต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนานร่วมอาทิตย์ แน่นอนว่าพนักงานก็ต้องเหน็ดเหนื่อยและต้องการเวลาพักที่มากขึ้น สวัสดิการเล็กๆ น้อยๆ หรือรางวัลปลอบใจหลังจบโปรเจกต์ใหญ่ เช่น สั่งอาหารมาเลี้ยงพวกเขา หรือพาพวกเขาไปทำกิจกรรมที่ต้องการ รวมทั้งปิดออฟฟิศ 1 วันไปเที่ยว (สำหรับองค์กรเล็กๆ หรือทีมที่ทำงานได้สำเร็จตามเป้า)
นี่แหละเป็นการจูงใจให้พนักงานลืมความเหนื่อยล้า และรู้ว่าเขามีเป้าหมายอะไรให้พุ่งชน รวมถึงเข้าใจว่าหลังสำเร็จแล้วเขาจะได้รับอะไรตอบแทนกลับมา ซึ่งมันจะเป็นเชื้อไฟให้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี
5. ลบนิสัยแย่ๆ ออกไปจากตัว
คุณในฐานะหัวหน้าหรือคนที่ต้องคอยควบคุมทีม ต้องคอยออกคำสั่งกับคนในทีม จะเป็นเหมือนศูนย์กลางแห่งจักรวาล ถ้าคุณเป็นที่รักของพวกเขา ก็จะทำให้งานออกมาดี การให้ความร่วมมือก็จะง่าย และทุกคนก็อยากจะทำตามที่คุณเรียกร้อง เพราะฉะนั้นนิสัยแย่ๆ ทั้งหลายที่คอยกั้นขวางความสนิทของคุณและคนรอบตัว ต้องรีบตัดทิ้งให้เร็วที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นความเจ้าอารมณ์ ความโมโห เหวี่ยง วีน ความฉุนเฉียวมากเกินเหตุ ความไม่เคารพคนอื่น การไม่รับฟังความคิดเห็นคนรอบข้าง รวมถึงคนที่พูดแต่สิ่งที่ตัวเองคิด