หัวหน้ามือใหม่ทุกคนมักจะมีนิสัยเสียบางอย่างติดตัวมา โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งนิสัยเสียเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่กับคุณคนเดียวเท่านั้น แต่ส่งผลเสียเป็นวงกว้างต่อระบบองค์กรด้วย และในระยะยาวยังอาจทำให้สุขภาพร่างกาย และสภาวะจิตใจของคุณต้องพังลงอย่างไม่รู้ตัว เพราะการกดดันตัวเองในหน้าที่การงานที่คุณต้องรับผิดชอบหนักกว่าคนอื่นเหล่านี้ อาจทับถมจนคุณไม่มีแม้เวลาพักผ่อน ซึ่งถ้ายังทำ 5 นิสัยเสียเหล่านี้อยู่ คุณต้องเลิกด่วน!
1. ต้องทำเองทุกอย่าง ถึงจะสบายใจ
หัวหน้ามือใหม่ส่วนใหญ่จะไม่กล้าปล่อยงานให้ลูกน้องทำ เพราะมีความรู้สึกว่า ลูกน้องจะทำได้ไม่ดีเท่าตัวเอง นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณไม่มีเวลาพักผ่อนที่เพียงพอ และเกิดความเครียดสะสมยิ่งกว่าคนอื่น ซึ่งจะส่งผลเสียในระยะยาวอย่างแน่นอนกับสุขภาพร่างกายของคุณ
ซึ่งปัญหานี้เกิดจากการที่คุณไม่ไว้วางใจในลูกน้องให้ทำงานแทนคุณนั่นเอง ดังนั้นเริ่มจากปรับที่ความคิดคุณเป็นอันดับแรก หันมาสอนงานให้น้องๆ ในทีมสามารถทำมันแทนคุณได้ อาจจะค่อยๆ สอนวันละนิด ปรับวันละหน่อย เมื่อเขาเหล่านั้นทำงานเป็น ทำงานได้ คุณจะไม่ต้องเหนื่อยเหมือนอย่างที่ผ่านมา และคุณเองก็จะมีเวลาในการพัฒนาสิ่งต่างๆ ได้แทน
2. สั่งลูกน้องไว้ แต่ตัวเองยังไม่ปล่อยวาง
การเช็กงานลูกน้องอยู่ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึงความรอบคอบของคนเป็นหัวหน้า แต่การที่คุณเช็กถี่มาก ไม่เว้นแต่ละวัน นอกจากจะทำให้คุณไม่เป็นอันทำงานแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจของพนักงานที่โดนทวงถามอีกด้วย มีแต่จะสร้างความสัมพันธ์ร้าวฉานให้เกิดขึ้นระหว่างคุณกับเขา
การเป็นหัวหน้าที่ดี ควรจะปล่อยให้ลูกน้องได้ทำงานของตัวเองไป คุณมีหน้าที่สอดส่องอยู่ห่างๆ บอกเขาเสมอว่าถ้ามีปัญหาอะไรให้ปรึกษาคุณได้ทันที สร้างความสบายใจให้เขาทำงานออกมาอย่างเต็มที่แบบไม่กดดัน การรับรู้ว่ามีคุณอยู่ข้างๆ และเข้าใจเดดไลน์ที่ต้องส่ง จะทำให้เขารับมือกับมันได้อย่างอุ่นใจ และทำให้คุณไม่ต้องคอยย้ำคิดย้ำทำอยู่กับเรื่องเดิมๆ
3. คนอื่นทำช้า คุณทำคนเดียวจะดีกว่า
ถ้าคุณยังคิดว่าการแบ่งงานให้พนักงานในสังกัดทำ เป็นการเสียเวลา มือใหม่ทำงานยังไงก็ช้ากว่าคุณอยู่ดี แบบนี้คุณจะไม่มีวันก้าวไปทำหน้าที่อย่างอื่นได้เลย การเริ่มต้นมอบหมายงานให้คนอื่นทำ แม้อาจจะเสียเวลาในช่วงแรกสักหน่อยที่คุณจะต้องคอยสอนงานให้เขา แต่ในระยะยาวคุณจะมีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย
แต่ถ้าคุณเลือกเก็บงานทั้งหมดไว้ทำคนเดียว ถึงคุณจะทำได้ไวก็จริง แต่นั่นเท่ากับคุณได้สูญเสียเวลาทำงานอย่างอื่นไปแทนเช่นกัน กลายเป็นว่าตำแหน่งคุณเพิ่มขึ้น คุณเป็นหัวหน้า แต่คุณยังคงต้องมาทำงานแทนพนักงานทั่วไป ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของคุณเลย
4. ด้นสดหน้างานตลอด
เมื่อมีนัดประชุม หรือมีงานใหม่ๆ เข้ามา คุณได้เตรียมแผนการ หรือเคยวางแผนไว้หรือไม่ว่าจะส่งมอบมันให้ใคร วันนี้จะประชุมเรื่องอะไร ถ้าคุณเป็นคนประเภทด้นสดตลอด มองงานด้านเดียว เห็นพนักงานคนไหนนั่งว่างก็ส่งงานให้คนนั้นทันที แบบนี้งานที่จะออกมาดีได้ก็อาจจะต้องแย่ลง และได้รับงานที่ช้ากว่าเดิม
ระดับหัวหน้าคุณต้องมีความคิดความอ่านที่พร้อม วางแผนให้เป็น และรู้ว่าในแต่ละวันคุณต้องทำอะไร จัดการในเรื่องใด แบ่งงานให้เหมาะกับคน เข้าใจในตัวพนักงานแต่ละคนว่าเขาถนัดในเรื่องไหนและให้เขาทำในสิ่งนั้น เพื่อให้งานออกมาดี และรวดเร็วยิ่งขึ้น
5. มีข้อผิดเมื่อไหร่ โทษพนักงานทันที
การทำงานนั้น คุณอยู่ร่วมองค์กรเดียวกันก็ต้องทำงานเป็นทีม ไม่โทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเมื่อทำผิด หัวหน้าหลายคนทำทุกอย่างมาดี แต่ตกม้าตายในจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดที่ร้ายแรงที่สุด เพราะการที่คุณโทษลูกทีมของคุณ นอกจากจะทำให้คุณดูปัดความรับผิดชอบ ไม่น่านับถือแล้ว ยังทำให้ลูกทีมเกิดความไม่ไว้วางใจ ไม่อยากรับงานจากคุณอีก เพราะกลัวว่าถ้าผิดตัวเองจะโดนกล่าวโทษ
ดังนั้นห้ามเด็ดขาดในการโทษใครสักคน เมื่อเกิดข้อผิดพลาด จำไว้เสมอว่าคุณต้องร่วมรับผิดด้วยทุกครั้ง และปกป้องน้องในทีมเสมอ ถ้าจะว่าใครสักคน คุณนั่นเองที่ต้องเป็นคนผิด การรับเอาทุกความผิดไว้ ออกหน้ารับแทนอย่างจริงใจ จะทำให้ลูกน้องในทีมรักคุณ และพยายามที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำอีก