ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
การทำธุรกิจช่วงแรกๆ ทางที่ดีคืออย่าลงทุนหรือลงเงินมากเกินไป เพราะคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าสิ่งนั้นมันจะประสบความสำเร็จกลับมามากน้อยแค่ไหน หรือเลี้ยงตัวคุณเองได้อย่างที่หวังไว้รึเปล่า ซึ่งคนส่วนใหญ่จะหลงผิดคิดว่าการทำธุรกิจให้สำเร็จ แค่โปรโมตเยอะๆ ทำการตลาดมากๆ ลงเงินตรงจุดนี้ให้มหาศาลเดี๋ยวลูกค้าก็มาใช้บริการเอง ทำให้ยิงแอด หรือสร้างแคมเปญต่างๆ ผ่านโลกออนไลน์และออฟไลน์กันมากจนเสียเงินไปแบบได้ผลตอบแทนกลับมาที่ไม่คุ้มเอาซะเลย
เพราะการทำธุรกิจจริงๆ แล้วองค์ประกอบที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการหรือซื้อสินค้าของคุณ มันไม่ใช่แค่เขาเห็นคุณเยอะเท่านั้น แต่มันมีอะไรอีกมากมายที่จะกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของเขาได้ เช่น ความน่าเชื่อถือในเพจ แบรนด์ สินค้าคุณ จุดเด่นของสินค้า ความน่าสนใจ รวมถึงภาพลักษณ์แบรนด์ของคุณก็มีส่วนด้วยเช่นกัน ยังไม่รวมกับบริการหลังการขาย ประวัติการรีวิวของลูกค้าเก่า และการตอบกลับหรือบริการของคุณที่มีต่อลูกค้า ซึ่งนี่ต่างหากที่จะช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง
ดังนั้นสำหรับคนที่เริ่มธุรกิจใหม่ และอยากให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ปิดการขายได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนด้านการตลาดอะไรให้วุ่นวายเปลืองเงิน เทคนิคทั้ง 4 ข้อนี้ช่วยคุณได้
1. ใช้โซเชียลมีเดียเข้าช่วย
คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินโปรโมตโพสต์เพื่อให้คนหันมาสนใจใช้บริการอย่างที่เคยหวังไว้ แต่โลกนี้ยังมีเครื่องมืออีกมากมายที่สามารถดึงคนได้โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เช่น โซเชียลมีเดียต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter IG หรือแม้แต่ LinkedIn ซึ่งทั้งหมดนี้นอกจากจะช่วยให้คุณได้พบเจอกับลูกค้า และกลุ่มเป้าหมายหน้าใหม่ๆ มากมาย ยังมีส่วนช่วยให้คุณเจอพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจด้วยเช่นกัน อย่าง LinkedIn เองก็จะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้คุณได้พบเจอกับคนที่มีความรู้ ความสามารถในเรื่องต่างๆ ทำให้อาจเจอคู่ค้าที่ช่วยพัฒนาธุรกิจคุณ ต่อยอดให้ไปไกล และสร้างจุดเด่นที่จะเพิ่มจุดขายให้คุณได้เช่นกัน หรืออย่าง Facebook เองก็จะเหมาะกับการขายของให้กับลูกค้าโดยตรง เพราะมีกลุ่ม มีช่องทางการโพสต์ที่หลากหลาย ที่จะช่วยให้พบเจอลูกค้าของคุณได้แบบตรงเป้า
2. บอกต่อจากลูกค้าเก่า
การบอกเล่าแบบปากต่อปาก โดยเฉพาะจากลูกค้าเก่าใช้ได้ผลดีเสมอ และเป็นการตลาดที่ช่วยจูงใจให้คนมาใช้บริการได้แบบน่าเชื่อถือที่สุด จึงไม่แปลกที่คนสมัยนี้จะเน้นการให้ลูกค้าเก่ามารีวิวเพื่อบอกต่อและดึงลูกค้าใหม่เข้ามา ซึ่งคุณสามารถทำเทคนิคได้โดยการให้ส่วนลดกับลูกค้าเก่าเมื่อเขารีวิวสินค้าหรือบริการของคุณ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ลูกค้าอยากที่จะเขียนชื่นชมคุณ โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินจ้างพวกเขาเลย แค่ให้ส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งต่อไป ซึ่งคุณอาจจะได้กำไรน้อยลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้ต้องควักเนื้อจ่ายเพิ่มเลยแม้แต่น้อย เป็นกลยุทธ์ที่เพิ่มฐานลูกค้าได้แบบไม่ต้องเสียเงิน
3. ร่วมงานต่างๆ ให้มากที่สุด
งานสัมมนา งานอีเวนต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณนั้นเป็นประโยชน์กับธุรกิจอย่างมาก และสามารถหาลูกค้าให้คุณได้ในทางอ้อมเช่นกัน เพราะในงานนั้นคุณจะได้มีการแลกนามบัตร พูดคุยกับธุรกิจที่อาจจะเป็นคู่ค้าของคุณได้ อีกทั้งคุณยังสามารถต่อยอดคอนเนคชั่นตรงนี้สู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการแบบตัวแทน ผ่านธุรกิจของคู่ค้าเหล่านั้น และเป็นคอนเนคชั่นที่อยู่ด้วยกันไปในระยะยาว และสร้างยอดขายให้คุณได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งในงานอีเวนต์เหล่านี้จะมีธุรกิจในเครือที่คุณควรทำความรู้จักเอาไว้มารวมกันอยู่เยอะมาก และต่อให้มันไม่ได้ตอบโจทย์ด้านลูกค้าให้คุณเลยก็ตาม มันก็ยังสร้างสิ่งที่วิเศษอีกมากมาย ให้ธุรกิจคุณได้อยู่ดี
4. ทำ SEO ให้ถูกหลัก
หากไม่อยากเสียเงินมาก แต่อยากได้ลูกค้ากลับมาเยอะๆ เทคนิคสำคัญที่ควรทำเลยก็คือ เรื่องของ SEO เพราะมันเป็นเครื่องมือออนไลน์ที่สร้างมาเพื่อให้คนได้พบ ได้เห็น ได้รู้จักคุณมากกว่าปกติอยู่แล้ว ถ้าหากคุณทำได้ถูกหลักตามที่มันควรจะเป็น ก็จะส่งผลให้เว็บ หรือเพจคุณมีผู้คนเข้าใช้บริการต่อเดือนหลายหมื่นหลายแสนคนโดยไม่ต้องทำการตลาดใดๆ เข้าช่วยเลย ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คุณจะเห็นว่าการทำธุรกิจส่วนใหญ่จะจ้างคนที่ทำ SEO เป็น หรือเชี่ยวชาญด้านนี้เป็นอย่างดี เพราะมันช่วยธุรกิจได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะฉะนั้นจำเป็นอย่างที่สุดที่คุณจะต้องศึกษาเกี่ยวกับระบบ Search Engine ให้รอบคอบ เข้าใจทุกองค์ประกอบ และลงมือทำคอนเทนต์ที่ตอบสนองเรื่อง SEO ได้ นี่แหละวิธีการหาลูกค้าใหม่ด้วยงบ 0 บาทที่แท้จริง และช่วยให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน
