บางครั้งการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ก็จำเป็นต้องเลือก “ลูกค้า” แล้วแบบไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง


สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก่อน นั่นก็คือ ลูกค้า มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำธุรกิจ ลูกค้าเป็นท่อน้ำเลี้ยง เป็นผู้มีพระคุณ ทำให้บริษัทอยู่รอด แต่ไม่ใช่ลูกค้าทุกคน คุณไม่จำเป็นต้องเสนอขายให้กับลูกค้าทุกคน เพราะทุกครั้งที่มีการเสนอขายไม่ได้แปลว่าลูกค้าจะตกลงซื้อ เพราะฉะนั้นหากอยากให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ คุณก็ต้องเลือกลูกค้าด้วย มาดูกันว่าลูกค้าแบบไหนบ้างที่คุณไม่ควรเสียเวลาด้วย

ลูกค้าแบบไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง

ลูกค้าที่มองว่าสินค้าของคุณไม่จำเป็น

แน่นอนว่าถ้าลูกค้ามองว่าสินค้าของคุณ ไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้งาน ไม่น่าสนใจสำหรับเขา หรือไม่ตอบโจทย์ในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แนะนำให้หยุดการนำเสนอ เพราะคุณไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของลูกค้าได้ แต่เปลี่ยนเป็นการหาข้อมูลเพิ่มเติมจะดีกว่า เช่น ลูกค้าต้องการสินค้าแบบไหน หรือสินค้าของคุณเหมาะกับแผนกไหนบ้าง จากนั้นให้ทำการนัดเสนอขายใหม่อีกครั้ง เพราะต่อให้คุณเสียเวลาเสนอขายต่อไปลูกค้าก็ไม่สนใจอยู่ดี

ลูกค้าที่มองว่าสินค้าของคุณไม่คุ้มค่า

ความคุ้มค่าเป็นปัจจัยหลักๆ ในการตัดสินใจซื้อ ถ้าลูกค้ามองว่าสินค้าของคุณไม่คุ้มค่า นั่นเท่ากับว่าลูกค้าได้ปฏิเสธคุณไปแล้วครึ่งหนึ่ง และความคุ้มค่าในที่นี้รวมไปถึงลูกค้าที่คุณรู้สึกว่า นำเสนอไปก็ไม่คุ้มค่า อย่างเช่น ลูกค้าที่ปัญหาเยอะ ติดตรงนั้น ติดตรงนี้ พอสุดท้ายก็ไม่ซื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้จะกลับมาสร้างปัญหาในภายหลังด้วย

ลูกค้าที่ทำให้รู้สึกว่าเสียเวลา

ลูกค้าบางรายที่คุณต้องใช้เวลาในการปิดจบงานนานเกินไป ก็เป็นลูกค้าที่อยากให้หลีกเลี่ยงเหมือนกัน เพราะต้องเสียทั้งเวลา และยังต้องคอยติดตามงานอีก เอาเวลาไปหาลูกค้าใหม่จะดีกว่า บางทีเวลาเหล่านั้นคุณอาจจะไปเสนอขายลูกค้าคนอื่นได้อีกหลายเจ้าเลย นอกจากนี้ยังต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเพิ่มอีก ทั้งค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์

ลูกค้าที่ไม่รับฟัง พูดไม่รู้เรื่อง

ลูกค้าที่ไม่พร้อมรับฟังอะไรทั้งสิ้น พูดอะไรก็ไม่เข้าใจ ไม่รับฟัง ปัญหามากมาย ก็เป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่ว่าคุณจะพูดอะไรไปเขาก็ไม่ได้พยายามทำความเข้าใจเลย เท่ากับว่าการเสนอขายครั้งนี้ของคุณศูนย์เปล่าแน่นอน อย่าเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ได้สร้างประโยชน์

ลูกค้าที่ต่อราคาจนเกินไป

เชื่อว่าคนที่เป็นนักขายทุกคนต้องเคยเจอกันอยู่แล้ว ลูกค้าที่ต่อราคามากจนเกินไป บางรายต่อจนแทบไม่เหลือกำไรด้วยซ้ำ หากเจอเหตุการณ์แบบนี้แนะนำให้ปฏิเสธราคานั้นไปด้วยเหตุผลและถ้อยคำที่สุภาพ เพราะการเหนื่อยฟรีโดยที่ไม่ได้กำไรไม่ควรทำ หรืออาจจะชี้ให้ลูกค้าเห็นถึงความพิเศษของสินค้าที่มากกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ แต่ถ้าลูกค้ายังไม่ยอมก็ต้องตัดใจปฏิเสธไป

ลูกค้าที่ขอเครดิตนานเกินไป

อย่าลืมว่าบริษัทของคุณก็จำเป็นต้องมีเงินหมุนเวียนเหมือนกัน มีค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ เพราะฉะนั้นลูกค้าที่ขอเครดิตนานเกินไป เช่น 45 วัน หรือ 60 วันก็เป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ยกเว้นเป็นออเดอร์ใหญ่ที่คุ้มค่าที่จะให้เครดิต ส่วนใหญ่เครดิตที่ลูกค้าขอจะอยู่ที่ เครดิต 30 วัน แต่ถ้ามากกว่านั้นก็ควรพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป

ลูกค้าหัวหมอ ชอบใช้อำนาจ

ลูกค้าทั้งสองแบบ เป็นลูกค้าที่ไม่น่าร่วมธุรกิจด้วยเอาเสียเลย เพราะมีแนวโน้มที่คุณจะเสียเปรียบเยอะมาก ทั้งลูกค้าหัวหมอ ที่ชอบแสดงตัวว่ารู้ทุกอย่าง รู้นู่น รู้นี่ อยากได้แบบนั้น อยากได้แบบนี้ หรือลูกค้าที่ชอบวางอำนาจ ชอบใช้คำพูดข่มขู่ อ้างคนใหญ่คนโต แนะนำให้หลีกเลี่ยงไปเลยจะดีกว่า เพราะอย่างที่บอกว่าคุณมีโอกาสเสียเปรียบค่อนข้างสูง

ไม่ปฏิเสธว่าลูกค้ามีความสำคัญ ไม่ปฏิเสธว่าลูกค้าเป็นผู้มีพระคุณต่อบริษัท แต่นั้นหมายถึงลูกค้าที่มีการซื้อสินค้าจริงๆ ลูกค้าชั้นดี ไม่ใช่ลูกค้าที่เสนอขายกี่ครั้งก็เจอแต่การปฏิเสธ เจอแต่ปัญหา ไม่ได้บอกให้คุณไม่ง้อลูกค้า แต่คุณไม่จำเป็นต้องเสนอขายให้ลูกค้าทุกคน ถ้าอยากให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ต้องเลือกลูกค้าให้เป็นด้วย