ดร.สมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่าในปี 2560 มีการเพิ่มขึ้นของ สตาร์ทอัพ ทั่วไปกว่า 8,000 ราย จากช่วง 2–3 ปีก่อนที่มีเพียงแค่ระดับหลัก100 ราย เท่ากับเพิ่มขึ้นกว่า 80% อย่างไรก็ตามการเติบโตขึ้นในจำนวนดังกล่าว ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นสตาร์ทอัพที่อยู่ในช่วงของการพัฒนาแนวคิดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ สามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้จริงอยู่ที่ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ช่วยให้เกิดการจ้างงานได้ถึง 7,500 อัตรา หรือ คิดเป็นสัดส่วน 1:5 สตาร์ทอัพ ของไทยยังอยู่ในกลุ่มเทคโนโลยี และพบว่า สตาร์ทอัพ ส่วนใหญ่ของไทย ยังอยู่ในกลุ่มของแพลทฟอร์มแอปพลิเคชั่น, ระบบ Fintech และ E-Commerce ที่กำลังครอบคลุมและกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก การบริการต่างๆ (Service Tech) ผ่านช่องทางออนไลน์ ตามมาด้วยการพัฒนาระบบการจัดการทางธุรกิจ และการเป็นส่วนหนึ่งกับกิจวัตรประจำวัน โดยปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตดังกล่าวมาจากความนิยมในการใช้อินเทอร์เน็ต ความต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ตลอดจนประสิทธิภาพทางระบบอินเทอร์เน็ตของไทย ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี สำหรับแนวโน้มในอนาคตการประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ จะไม่ได้มีเพียงแค่เทค-ดิจิทัลสตาร์ทอัพเท่านั้น แต่จะต้องพัฒนาให้เกิดอย่างครอบคลุมตามกระแสโลกที่เป็นไป โดยแนวโน้มสตาร์ทอัพที่จะเติบโตมากขึ้นในปี 2561 น่าจะอยู่ในภาคเกษตร, […]