SME

ชี้ทางรวย! ปลูก”เมล่อน” พืชทางเลือกกำไรดี ปลูกได้ตลอดปี สร้างกำไรได้กว่า 35,000 บาท

นายพลเชษฐ์ ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึง พืชทางเลือกที่น่าสนใจ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี คือ “เมล่อน” ที่ถือเป็นพืชทางเลือกที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุดในอำเภอเมืองกาญจนบุรี เนื่องจาก เมล่อน เป็นพืชที่เพาะปลูกง่าย ปลูกได้ตลอดทั้งปี สามารถปลูกได้ทั้งในโรงเรือนและกลางแจ้ง ใช้เครื่องมือทางการเกษตรและน้ำน้อย รวมถึงใช้พื้นที่ปลูกไม่มาก แต่ให้ผลตอบแทนต่อพื้นที่สูงและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งตลาดที่สำคัญ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของฝาก และขายทางออน์ไลน์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี (สศท.10) ได้เผยถึงการลงพื้นที่เพื่อสัมภาษณ์ นายอาทิตย์ นิยมวงษ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจผู้ปลูกเมล่อน สวนกิตติยาฟาร์ม ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ซึ่งมีสมาชิกจำนวน 7 ราย พื้นที่เพาะปลูกจำนวน 37 ไร่ พบว่า เกษตรกรนิยมปลูกเมล่อนพันธุ์กรีนเน็ต พอทออเร้นจ์ และโกลเด้นควีน มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 18,000 บาท/รอบ/โรงเรือน เริ่มติดผลเมื่อมีอายุประมาณ 35 – 40 วัน […]

Amazon จับมือเจ้าถิ่นรุกตลาดอินเดียแบบออฟไลน์

Amazon กำลังขอเข้าร่วมเป็นหนึ่งกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ในการขยายธุรกิจออฟไลน์เพื่อทำการต่อสู้กับคนร่ำรวยที่สุดของประเทศในพื้นที่ออนไลน์ อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกากำลังร่วมมือกับ Future Retail ซึ่งมีสาขามากกว่า 1,500 แห่งใน 400 เมืองของอินเดีย จากข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ Amazon กลายเป็นช่องทางออนไลน์อย่างเป็นทางการสำหรับร้านค้าหลายร้อยแห่งในอนาคต นอกจากนี้ Amazon ยังทำการเพิ่มผลิตภัณฑ์ของ Future Retail ในโปรแกรมส่งมอบ Prime Now ในประเทศอินเดียอีกด้วย Amazon ต้องต่อสู้กับ Flipkart ที่มี Walmart เป็นเจ้าของ ในตลาดอีคอมเมิร์ซของอินเดีย ทำให้ความร่วมมือกับ Future Retail ครั้งนี้ เป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และนอกจากสองยักษ์ใหญ่จากอเมริกาแล้วล่าสุด ยังมี Jio Mart น้องใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซที่มี Mukesh AmbaniReliance บริษัทที่มีมหาเศรษฐีชาวอินเดียเป็นเจ้าของเข้าร่วมทำการแข่งขันในตลาดนี้เพิ่มขึ้นด้วย ตลาดค้าปลีกของอินเดียจะมีมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2564 ตามข้อมูลจากดัชนีการพัฒนาค้าปลีกทั่วโลกในปี 2562 โดยบริษัทที่ปรึกษา AT Kearney แต่อีคอมเมิร์ซคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 5% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด […]

ทำไมกาแฟแบรนด์อินเตอร์ เจาะตลาดเวียดนามไม่เข้า

เรามักจะได้ยินว่าแบรนด์กาแฟระดับโลกมักจะไปทำตลาดในประเทศต่าง ๆ ได้สำเร็จ แต่มีอยู่ประเทศหนึ่งที่กาแฟต่างชาติไม่สามารถเข้ามายึดส่วนแบ่งทางการตลาดไปจากแบรนด์กาแฟท้องถิ่นได้ เราจะมาหาคำตอบว่าทำไมเวียดนามถึงกลายเป็นตลาดปราบเซียน เวียดนามตอนนี้อยู่ในฐานะของผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่อันดับสองของโลก จึงไม่น่าแปลกใจว่าประเทศนี้มีแบรนด์กาแฟท้องถิ่นที่แข็งแกร่ง คนเวียดนามรู้จักและคุ้นเคยกับกาแฟของตนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชื่อเสียงในเรื่องของการชงกาแฟที่เข้มข้นและหนักหวานด้วยนมข้น หากจะพิจารณาเรื่องของเมล็ดกาแฟ ในเวียดนามจะเป็นกาแฟแบบโรบัสต้าซึ่งมีความเข้มข้นแต่ไม่เน้นขม แถมยังมีปริมาณคาเฟอีนสูงกว่ากาแฟอาราบิก้า กาแฟท้องถิ่นของเวียดนามจะเป็นโรบัสต้าทั้งหมด ส่วนกาแฟอาราบิก้าจะให้ได้ในร้านกาแฟที่มาจากประเทศทางตะวันตกเท่านั้น ส่วนทางด้านเศรษฐกิจตอนนี้ชนชั้นกลางในเวียดนามกำลังเติบโตขึ้นมาพร้อมกับรายได้ที่ดี ส่งผลให้ตลาดตลาดสำหรับร้านกาแฟและชาในเวียดนามมีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และพบว่าเครือข่ายกาแฟท้องถิ่นของเวียดนามขยายตัวและไปได้ดีกว่าเครือข่ายกาแฟจากต่างประเทศ เนื่องจากราคาและรสชาติที่ถูกปากคนในประเทศมากกว่า จากการสังเกตพบว่า Coffee Bean & Tea Leaf และ Starbucks นั้นทำตลาดได้ไม่ดีในเวียดนาม ทั้ง ๆ ทีราคาก็ไม่ได้แพงกว่าแบรนด์ท้องถิ่นอย่าง Highlands Coffee แต่อย่างใด นั่นเป็นเครื่องยืนยันว่าตลาดกาแฟทั้งสูง, กลาง และต่ำ ต่างก็ถูกกาแฟท้องถิ่นยึดครองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2019/12/19/starbucks-coffee-bean-tea-leaf-are-losing-to-local-vietnam-chains.html

ถอดรหัส Luckin Coffee ควรแล้วหรือที่จะถูกเรียกว่าเป็น Starbucks ของจีน

Luckin Coffee ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจนทำให้หุ้นพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ หลายคนถึงกับเรียกมันว่าเป็น Starbucks ของจีน ความจริงของกาแฟแบรนด์นี้คืออะไรกันแน่ การนำไปเปรียบเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่าง Starbucks เป็นการเปรียบเทียบที่ถูกต้องแล้วแน่หรือ Luckin Coffee ก่อตั้งขึ้นในเดือนมิถุนายน 2017 นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมากลายเป็นเชนกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศจีนที่มีสาขามากกว่า 3,000 แห่ง มันเป็นเรื่องน่าดึงดูดใจที่จะเปรียบเทียบ Luckin Coffee กับ Starbucks อย่างไรก็ตาม Luckin และ Starbucks มีรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างกันอย่างมากและการเติบโตในอนาคตและความสามารถในการทำกำไรในจีนของ Luckin อาจจะน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ Starbucks ในขณะที่ Starbucks เติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดกาแฟของจีน แต่ก็ให้บริการเครื่องดื่มกาแฟกับคนจีนจำนวนน้องเท่านั้น เนื่องจาก Starbucks มีต้นทุนโดยเฉลี่ยประมาณ 30 หยวน ($ 4.30) ต่อถ้วย กลุ่มลูกค้าจึงเป็นคนร่ำรวยเท่านั้น นอกจากนี้จำนวนร้านของ Starbucks ที่มีเพียง 3,000 แห่งเท่านั้นในประเทศจีน เทียบกับจำนวนประชากรแล้วถือว่าน้อยมาก ดังนั้นยังคงมีช่องว่างของตลาดกาแฟขนาดใหญ่มากในจีนและเป็นตลาดในราคาที่ต่ำกว่า Starbucks ตรงจุดนี้เองที่ทำให้ Luckin ก้าวเข้ามาด้วยต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 10-11 […]

Suning ยักษ์ค้าปลีกจีน เตรียมเปิดเพิ่ม 10,000 สาขา พร้อมสร้างงาน 8,000 ตำแหน่งในปี 63

Suning Holdings Group กลุ่มธุรกิจพาณิชย์ยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดเผยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2563 โดยจาง จินตง ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ประกาศว่า ในวาระครบรอบ 30 ปี บริษัทเตรียมเปิดร้านค้าปลีกใหม่กว่า 10,000 สาขา พร้อมสร้างงาน 8,000 ตำแหน่ง ตลอดจนลงทุนอย่างน้อย 4 หมื่นล้านหยวน (ราว 5 พันล้านยูโร) ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและโลจิสติกส์ Suning Holdings Group ซึ่งติดสามอันดับแรกในทำเนียบบริษัทเอกชนชั้นนำ 500 แห่งในจีน ด้วยรายได้ต่อปี 6.025 แสนล้านหยวน (ราว 7.7 หมื่นล้านยูโร) จะเดินหน้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการค้าปลีกอัจฉริยะ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคยุคใหม่ “การยกระดับการบริโภค” ในจีนนั้น ได้รับการขับเคลื่อนโดยการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความมั่งคั่งและมีความต้องการมากกว่าเดิม รวมถึงกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นใน “เมืองระดับล่าง” หรือเมืองที่มีขนาดเล็กและมีการพัฒนาน้อยกว่า ซึ่งมีประชากรครึ่งหนึ่งของทั้งหมดทั่วประเทศ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้แบรนด์จากทั่วโลกที่ต้องการรุกเข้าสู่ตลาดจีนมีโอกาสมากขึ้น จาง จินตง ประธาน Suning […]

เตรียมรับมือรถยนต์แห่งชาติรุ่นใหม่ของมาเลเซีย

โครงการพัฒนารถยนต์แห่งชาติรุ่นใหม่ของ มาเลเซีย (New National Car Project :NNCP) คาดว่าจะเป็นรถยนต์ประเภท C-segment ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวรถต้นแบบในเดือน มีนาคม 2563 และออกสู่ตลาดได้ในปี 2564 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า ด้วยระดับเทคโนโลยีที่มีอยู่ ในประเทศในปัจจุบัน รถยนต์แห่งชาติที่จะ ออกมาอาจจะไม่ใช่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แต่มีแนวโน้มจะเป็นรถยนต์ไฮบริดที่มี เครื่องยนต์สันดาปภายในร่วมกับระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยมุ่งเน้นตลาดกลุ่มเฉพาะที่ไม่ใช่ตลาด ระดับ mass market รถยนต์แห่งชาติรุ่นใหม่ดังกล่าวจึงไม่ใช่คู่แข่งขันของรถยนต์แห่งชาติในปัจจุบัน เช่น Proton และ Perodua NNCP จะเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศรวมทั้งอุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ สําหรับยานยนต์ ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อกับผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ในค่าย Daihatsu, Toyota และ Geely เห็นได้จากประโยชน์ที่ได้รับจากการร่วมทุนของ Proton และ Geely ซึ่งทําให้รถรุ่นใหม่ๆ ของ Proton มีการใช้เทคโนโลยีล่าสุด เช่น ระบบความบันเทิงภายในรถยนต์ (intelligent infotainment) ผลกระทบต่อประเทศไทย ไทยถือเป็นแหล่งนําเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนสําคัญลําดับที่ 2 ของมาเลเซีย รองจากญี่ปุ่น […]

แอปเปิลปลื้ม ที่ไม่ต้องขึ้นราคาสินค้า จากดีลการค้าจีน-สหรัฐฯ

แดน ไอฟส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเวดบุช ซีเคียวริตี้ส์ เปิดเผยว่า บริษัทแอปเปิล ได้รับอานิสงส์จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติในหลักการสำหรับการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน ซึ่งทำให้จีนรอดพ้นจากการถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มอีก 15% ที่กำหนดไว้ในวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์รายนี้ให้เหตุผลไว้ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้สินค้ายอดนิยมของแอปเปิล เช่น iPhone, iPad และ MacBook ไม่ต้องถูกเก็บภาษีเพิ่ม จากเดิมที่สินค้าบางรุ่นของแอปเปิลถูกเก็บภาษีนำเข้าไปแล้ว เช่น Apple Watch, AirPods, iMac และ HomePod หากไม่มีข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว ราคา iPhone อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงเครื่องละ 150 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าแอปเปิ้ลเลือกที่จะไม่ขึ้นราคาเพื่อแบกรับต้นทุนด้านภาษีเองแล้ว กำไรต่อหุ้นของบริษัทอาจปรับตัวลดลงราว 4% ในปีหน้า แต่หากบริษัทเลือกขึ้นราคา iPhone ความต้องการสินค้าก็น่าจะลดลง 6-8% ในปีหน้า ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศซึ่งรวมถึงสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติในหลักการแล้วสำหรับการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้จีนรอดพ้นจากการถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มอีก 15% […]

ไม่อันตราย! มทร.ธัญบุรี จะช่วยให้คุณลบภาพ รว้ายๆ ของ ‘หน่อไม้ดอง’ ในปิ๊บ

นักวิจัย มทร.ธัญบุรี ลงพื้นที่ช่วย วิสาหกิจชุมชนแปลงไผ่ใหญ่ จ.ปราจีนบุรี พัฒนาคุณภาพการผลิตหน่อไม้ดอง สู่อาหารปลอดภัย ลดปริมาณเกลือ ผ่านการฆ่าเชื้อ บรรจุแบบสุญญากาศ เพิ่มศักยภาพการขาย ทีมอาจารย์และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ประกอบด้วย ดร.อารณี โชติโก ผศ.ดร.สมพงศ์ แสนเสนยา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผศ.ดร.ปาลิดา ตั้งอนุรัตน์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร พร้อมด้วย อาจารย์ ดร.ปพนพัชร์ ภัทรฐิติวัสส์ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ร่วมกันบูรณาการข้ามศาสตร์วิจัย ‘การพัฒนาและยกระดับหน่อไม้ดองปี๊บสู่หน่อไม้ดองแบบบรรจุสุญญากาศ’ โดยการพัฒนาและยกระดับหน่อไม้ดองปี๊บสู่หน่อไม้ดองแบบบรรจุสุญญากาศ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ (1) การวิเคราะห์สารปนเปื้อนและสารเจือปนในหน่อไม้สดและผลิตภัณฑ์จากหน่อไม้ (2) การใช้กล้าเชื้อแบคทีเรียกรดแลคติกเพื่อยกระดับคุณภาพการผลิตหน่อไม้ดอง (3) การศึกษาอุณหภูมิและเวลาที่เหมาะสมในการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนของผลิตภัณฑ์หน่อไม้ดอง และ (4) การประเมินและทำนายอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์หน่อไม้ดองภายใต้สภาวะต่าง ๆ ดร.อารณี เปิดเผยว่า ปราจีนบุรีเป็นจังหวัดมีการปลูกไผ่มากที่สุดในประเทศ และมีหน่อไม้ที่อร่อย รสชาติและคุณภาพที่โดดเด่น ซึ่งเป็นผลิตผลทางการเกษตรแบบฤดูกาล กล่าวคือจะมีมากจนล้นตลาด ราคาตกต่ำ […]

Google เปิดตัวบริการ Stadia เกมสตรีมมิ่งบนบราวเซอร์ งานนี้ตลาดเกมคอนโซลมีหนาว

ถึงแม้ว่าเราจะก้าวผ่านยุคของการใช้แผ่น DVD และ Blue-ray มาแล้ว แต่ตลาดของเกมก็ยังคงมีความต้องการเรื่องของฮาร์ดแวร์อย่างไม่รู้จักจบสิ้น แต่ตอนนี้ Google กำลังจะเปลี่ยนทุกอย่าง การเปิดตัวบริการแบบใหม่ของ Google ชื่อว่า Stadia เป็นบริการเกมที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ โดยใช้เพียงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและการทำงานผ่านทาง Chome บราวเซอร์เท่านั้น ก็จะทำให้บรรดานักเล่นเกมสามารถเข้าถึงเกมที่มีภาพสวยงามและการควบคุมที่ลื่นไหลได้ นี่คือการยกระดับของสตรีมมิ่งเกมให้มาอยู่บนบราวเซอร์ สงผลให้มีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง บ้างก็บอกว่านี่คือการฆ่าตลาดเกมคอนโซลอย่าง Xbox, Playstation และ Nintendo เพราะจากนี้ไปผู้คนจะเข้าถึงเกมได้ด้วยบราวเซอร์ที่มีอยู่ในอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ ส่วนอีกความคิดเห็นก็มาจากส่วนของเกมบนพีซีที่ทุกครั้งที่มีเกมออกใหม่จะต้องทำการซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ มาใช้งานด้วยเสมอ หากทุกอย่างไปอยู่ที่ Stadia ตลาดฮาร์ดแวร์คงจะกลายเป็นส่วนที่ถูกกระทบมากที่สุด ทาง Google เองก็กล่าวว่านี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปทำลายตลาดฮาร์ดแวร์และเกมคอนโซลแต่อย่างใด ส่วนทาง Xbox ก็ออกมาให้ความเห็นว่า เรื่องนี้เพิ่มจะเริ่มต้น กว่าที่ Stadia จะทำอะไรได้เทียบเท่ากับการเล่นเกมบนเครื่องคอนโซล คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง แต่คำตอบเรื่องนี้ก็คงจะอยู่ที่ประสิทธิภาพในการเล่นเกมผ่านบราวเซอร์ Chome นั่นเอง ว่าจะทำได้ลื่นไหลจนนักเล่นเกมยอมย้ายไปเล่นกันบนนั้นหรือเปล่า ต้องดูกันไปยาวๆ อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/newsbeat-50453387

สหรัฐฯ ทำการต่ออายุใบอนุญาตใหม่ให้ Huawei ต่อไปอีก 90 วัน

ทางการสหรัฐฯ ขยายระยะเวลาที่อนุญาตให้บริษัทในสหรัฐอเมริกาดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ยของจีนออกไปอีก 90 วัน เพราะเกรงว่าคนอเมริกันในพื้นที่ห่างไกลจะได้รับความเดือดร้อน หลังจากที่ทำการเพิ่มรายชื่อของหัวเว่ยในบัญชีดำ โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยของชาติ ส่งผลให้มีการห้ามบริษัทในสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับหัวเว่ย แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีการผ่อนผันเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีการขยายระยะเวลาออกไปอีก 90 วัน เพื่อลดการหยุดชะงักของเครือข่ายของธุรกิจในพื้นที่ห่างไกลของสหรัฐฯ การขยายใบอนุญาตชั่วคราวจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถให้บริการลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลของสหรัฐอเมริกาต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีลูกค้าบางรายถูกปล่อยทิ้งไว้ แต่ก็ยังคงมีการเฝ้าระวังการส่งออกเทคโนโลยีอย่างเข้มงวด เพื่อให้แน่ใจว่านวัตกรรมของสหรัฐฯ จะไม่ถูกควบคุมโดยผู้ที่จะคุกคามความมั่นคง ด้านหัวเว่ยกล่าวถึงการขยายระยะเวลาครั้งนี้ ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของหัวเว่ยในทางใดทางหนึ่ง เพราะการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าหัวเว่ยยังคงได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมเหมือนเดิม อ้างอิง: https://www.reuters.com/article/us-usa-china-huawei-tech/u-s-grants-huawei-new-90-day-license-extension-idUSKBN1XS21V

แตะรักษ์โลก KHYA – นันยางแดง คว้า 2 รางวัล “สุดยอดแคมเปญการตลาด MAT AWARD 2019”

หากจะบอกว่าปีนี้ เป็นปีทองของแบรนด์รุ่นพ่อผู้ผลิตรองเท้าสุดเก๋าที่ใส่กันทั้งบ้านทั้งเมือง ก็คงไม่ผิดนักเพราะไม่ว่าจะมีแคมเปญอะไรออกมา ก็เรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าและแฟนคลับได้ทุกครั้งจริงๆ สำหรับยี่ห้อเก่าแต่เก๋ามาตลอดอย่าง นันยาง ล่าสุด นายปิยะ ซอโสตถิกุล กรรมการบริหาร กลุ่มนันยาง, นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด และนายจักรพล จันทวิมล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ร่วมรับมอบรางวัล “สุดยอดแคมเปญการตลาด MAT AWARD 2019” จัดโดยสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของนันยางที่ปีนี้คว้าไปถึง 2 รางวัล โดยได้รับคะแนนจากคณะกรรมการอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้แคมเปญ ‘Nanyang RED Limited 2019’ ที่ได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จที่ไม่เคยยอมแพ้ ให้ได้รับรางวัล ‘Marketing of the Year 2019’ ไปครองอย่างสมภาคภูมิ ตบท้ายด้วยรางวัล Gold Award 2019 จากแคมเปญแตะรักษ์โลก ‘KHYA […]

อะไรทำให้ Tencent ยักษ์ใหญ่ของจีน เหมือนกำลังจะเดินเซ

Tencent กำไรสุทธิสำหรับไตรมาสที่สามลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการลดลงของรายได้จากเกมบนเครื่องพีซี และรายได้จากการโฆษณาบนแพลตฟอร์มสตรีมวิดีโอที่ลดลงไป ประสิทธิภาพลดลงของ Tencent ทำให้หลายคนนำเอาไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งจากชาติเดียวกันอย่าง Alibaba ที่เพิ่งประสบความสำเร็จจากงาน Singles Day กิจกรรมการช้อปปิ้งประจำปีที่กลายเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้ว เพื่อให้เห็นความชัดเจนที่แตกต่างของทั้ง 2 บริษัท โดยธุรกิจหลักของ Alibaba คืออีคอมเมิร์ซ ส่วนธุรกิจหลักของ Tencent คือซุปเปอร์แอปฯ อย่าง Wechat นอกจากนี้ยังมีธุรกิจหลักเกี่ยวกับเกมขนาดใหญ่ หลายคนคงรู้จักกับเกม PUBG ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจหลักของทั้งสองบริษัทนั้นแตกต่างกัน ดูแล้ว Tencent จะมีความหลากหลายของธุรกิจมากกว่า และทั้งสองบริษัทก็มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แต่มาตอนนี้ดูเหมือนว่าการเติบโตจะตกไปอยู่ที่ Alibaba มากกว่า เพราะธุรกิจหลักยังคงแข็งแกร่ง ต่างจาก Tencent ซึ่งธุรกิจเกมได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปราบปรามเรื่องเกมในประเทศจีนเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งการเปิดตัวเกมใหม่ก็ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ส่วนธุรกิจโฆษณาออนไลน์บนสตรีมมิ่งก็มาสะดุดครั้งใหญ่ จากปัญหาทางการเมืองในฮ่องกงที่ทำให้ NBA ถอนตัวถอนโฆษณาออกไปทำให้ส่งผลกระทบตรงๆ กับรายได้หลักจากส่วนนี้ จะมีก็ส่วนของบริการคลาวด์ที่พอจะกู้หน้า Tencent กลับมาได้บ้างจากผลประกอบการที่ทำกำไรเพิ่มมากถึง 80% นอกจากนี้ยังมีส่วนของธุรกิจด้านฟินเทค ที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าในอีกไม่นานธุรกิจนี้จะสร้างกำไรให้ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ที่ผ่านมาเป็นช่วงเศรษฐกิจของจีนชลอตัว ทำให้ตลาดเกมบนมือถือไม่ทำรายได้อย่างที่คาดเอาไว้ แต่เชื่อว่าเมื่อปัญหาทุกอย่างคลี่คลาย […]

Huawei ยังคงความร้อนแรงในบ้านเกิด แต่การไม่มีแอปฯ ของ Google ส่งผลต่อยอดขายต่างประเทศ

ยอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ส่วนตลาดในต่างประเทศอาจจะต้องทำการบ้านหนักขึ้น หากต้องการจะแซงหน้าซัมซุงในฐานะผู้ขายสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก ข้อมูลจากบริษัทวิจัยตลาด Canalys และ IDC เน้นย้ำว่าสมาร์ทโฟนของ Huawei ถูกบังคับให้มุ่งเน้นการขายในประเทศเท่านั้น ยอดขายที่พุ่งขึ้นส่วนใหญ่เป็นยอดที่เกิดในประเทศจีน โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 60% แต่ตลาดโดยรวมดูเหมือนจะหดตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับยอดขายสมาร์ทโฟนของ Huawei นอกประเทศลดลง 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว และลดลง 12% ถึง 17% จากการจัดส่งไปต่างประเทศในไตรมาสที่สอง การแบนของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายทั่วโลกของ Huawei โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากอุปกรณ์ใหม่ไม่สามารถเข้าถึงบริการของ Google ได้ ล่าสุดการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่น Mate 30 ในปลายเดือนกันยายน อุปกรณ์ดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึง Google Play หรือแอปฯ ยอดนิยมมากมาย นั่นเป็นปัญหาสำหรับตลาดต่างประเทศที่ทำให้ผู้ให้บริการและผู้ค้าปลีกจำนวนมาก ลังเลที่จะสต็อกผลิตภัณฑ์ของ Huawei เพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่าหัวเว่ยจะจัดการกับการขาดบริการของ Google ได้อย่างไร อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2019/11/14/tech/huawei-sales-mate-30/index.html

Jack Ma บอกว่ายอดขายของในวันคนโสด ห่างจากความคาดหวังเยอะมาก

Jack Ma ผู้ร่วมก่อตั้ง Alibaba Group กล่าวหลังจากเสร็จสิ้นเทศกาลช้อปปิ้งออนไลน์ครั้งใหญ่ประจำปีอย่างวันคนโสดว่า ยอดขายแม้จะทำลายสถิติแต่ก็น้อยกว่าที่คิดเอาไว้เยอะ วันคนโสดหรือที่เรียกว่า Double Eleven หลังจากจัดงานต่อเนื่องมาเป็นเวลา 10 ปี ตอนนี้คงบอกได้เต็มปากแล้วว่างานนี้กลายเป็นกิจกรรมการขายออนไลน์ของจีนที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกงานของสหรัฐฯ ไปเรียบร้อยแล้ว Jack Ma ให้ความเห็นหลังเสร็จสิ้นเทศกาลปีนี้ว่า “Double Eleven ในปีนี้ไม่เป็นไปตามที่ผมคาดการณ์ไว้ เราคาดหวังยอดขายเอาไว้สูงกว่านี้มาก แต่ก็นั่นแหละมีหลายเรื่องที่ไม่เป็นใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้น ส่งผลให้ยอดการสั่งซื้อเสื้อผ้าไม่แรงอย่างที่คิด บวกกับวันที่ 11 ปีนี้ตรงกับเช้าวันจันทร์ซึ่งทำให้คนทำการสั่งซื้อสินค้าในคืนก่อนวันทำงานน้อยลงตามไปด้วย ถ้าปีหน้ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนโดยประกาศให้เป็นวันหยุดครึ่งวันสำหรับวันคนโสดก็จะช่วยได้มาก” อย่างไรก็ตาม อาลีบาบายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซที่มีรายได้หลักมากจากการโฆษณามากกว่า กำไรจากยอดขายที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ แต่เทศกาลอย่างวันคนโสดก็กลายเป็นเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีไปเรียบร้อยแล้ว อ้างอิง: https://www.reuters.com/article/us-singles-day-alibaba/alibabas-jack-ma-says-singles-day-shopping-results-miss-expectations-idUSKBN1XN1TV

Dean Foods ยักษ์ใหญ่ธุรกิจนม ยื่นล้มละลายเหตุพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน

กลายเป็นข่าวใหญ่สั่นสะเทือนวงการนม เมื่อ Dean Foods ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมนมวัวรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ได้ยื่นเรื่องป้องกันการล้มละลาย นั่นเป็นสัญญาณว่าธุรกิจนมวัวกำลังตกต่ำหรือไม่ก็นมวัวไม่ใช่สิ่งที่คนนิยมกินกันอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าเจ้าของธุรกิจจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้ธุรกิจของเราคล่องตัว และประหยัดต้นทุนมากที่สุดแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังคงได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมอย่างการลดลงอย่างต่อเนื่องของการบริโภคนมของผู้บริโภค โดยเฉพาะการบริโภคนมวัวของคนรุ่น Millennials ที่น้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่ได้นิยมทำการบริโภคซีเรียลกับนมในตอนเช้าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คนรุ่นใหม่มีความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับการทานอาหารเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกบริโภคแบบ Keto หรือกระแสนิยมของการกินแบบ Vegan เรื่อยไปจนถึงการเปลี่ยนนมออกจากเมนูอาหารกลางวันในโรงเรียน ส่วนในตลาดเครื่องดื่มก็มีตัวเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม, น้ำผลไม้, ชา และโซดา ซึ่งเครื่องดื่มแต่ละชนิดมีสีและกลิ่นให้เลือกอย่างมากมาย หรือแม้แต่ในตลาดของนมเอง ผู้บริโภคก็มีทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่นมวัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนมจากถั่ว, ข้าวโอ๊ต, ข้าว และอื่นๆ อีกมากมาย 30 ปีที่แล้วในปี 1989 สัดส่วนของนมมีอยู่มากถึง 15% แต่มาวันนี้ตัวเลขลดลงเหลือแค่ 9% มันลดลงอย่างมากทีเดียวสำหรับตลาดของนมวัว ผู้บริโภคกว่า 350 ล้านคนหันไปกินผลิตภัณฑ์นมจากพืช นั่นนับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ Dean Foods ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาของหุ้นลดลงไปอย่างมากมาย และนำไปสู่การยื่นป้องกันการล้มละลายในที่สุด อ้างอิง: https://www.fastcompany.com/90429619/heres-why-milk-giant-dean-foods-just-went-bankrupt-blame-millennials-and-walmart

Coca-Cola เลือกใช้ขวดพลาสติกมากกว่าเปลี่ยนเป็นกระป๋องอลูมิเนียม

Coca-Cola มุ่งมั่นที่จะรวบรวมและทำการรีไซเคิลขวดพลาสติก แทนที่จะเปลี่ยนเป็นกระป๋องอลูมิเนียมอย่างที่เป็นกระแส เพราะเชื่อมั่นว่าการเลือกใช้พลาสติกลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากกว่าการรีไซเคิลอลูมิเนียม ช่วงนี้กระแสของการเลือกใช้กระป๋องอลูมิเนียมทดแทนการใช้ขวดพลาสติก กำลังมาแรงทำให้ PepsiCo, Nestle และ Coca-Cola เริ่มใช้อะลูมิเนียมสำหรับผลิตภัณฑ์น้ำดื่มพร้อมกัน เพื่อตอบสนองต่อการลดการทำลายล้างมหาสมุทรของโลกด้วยขยะพลาสติก แต่การเปิดตัวเครื่องดื่มน้ำอัดลมของ Coca-Cola ในสหรัฐอเมริกา ยังมีการใช้ขวดพลาสติก ไม่ได้มีการเปลี่ยนเป็นแบบกระป๋องทั้งหมด เรื่องนี้ก็เป็นการยืนยันได้ว่าบริษัทไม่ได้พยายามปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากพลาสติกเป็นอลูมิเนียม แต่เน้นไปที่การเก็บสะสมพลาสติกเพื่อทำการรีไซเคิลมากกว่า โดย Coca-Cola ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรวบรวมและทำการรีไซเคิลขวดที่ขายไปทั่วโลกในปี 2030 บริษัทใช้วิธีการที่แตกต่างกันทั่วโลกในการเก็บขวด ในบางประเทศจะใช้รูปแบบการคืนเงินมัดจำที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถส่งคืนขวดเพื่อแลกกับสิ่งจูงใจ เช่นเงินสดบัตรกำนัลหรือคะแนนสะสม นอกจากนี้ยังมีทำงานร่วมกับเอกชนที่จ้างเป็นตัวแทนในการเก็บรวบรวมขวดที่ใช้แล้ว ขวด PET (polyethylene terephthalate) ที่ถูกนำมารีไซเคิลจะมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่ำกว่ากระป๋องอลูมิเนียมและขวดแก้วที่นำกลับมาใช้ใหม่ ดังนั้นการรวบรวมและนำขวดกลับมาใช้ใหม่เป็นคำตอบที่ดีกว่าการเปลี่ยนมาใช้แบบกระป๋อง อย่างไรก็ตามกลุ่มกรีนพีซจัดอันดับให้ Coca-Cola เป็นผู้ผลิตขยะพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นปีที่สองติดต่อกันแล้ว แต่ซีอีโอของโค้กกล่าวว่านี่เป็นเพียงภาพสะท้อนให้เห็นว่าเราคือ “แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุด” อ้างอิง: https://finance.yahoo.com/news/coca-cola-chooses-plastic-bottle-172040669.html

บอกหมดหน้าตัก! SME อยากส่งสินค้าไปขายตลาดจีน ต้องทำยังไง

ขั้นตอนส่งออกสินค้าไปจีนกันเถอะ!! “ศูนย์ข้อมูลเพื่อ ธุรกิจไทยในจีน www.thaibizchina.com” ได้ให้ความรู้ผ่านเว็บไซต์ เกี่ยวกับกฎระเบียบของจีน การนำเข้าสินค้าสู่จีน และสิทธิประโยชน์ทางภาษีนำเข้าที่จะได้รับ ซึ่งเป็นข้อมูลให้ผู้ส่งออกของไทยใช้พิจารณาว่าสินค้าของตนเองมีความพร้อมที่จะส่งออกไปจีนหรือไม่ หากว่าสินค้ามีความพร้อมตามข้อกำหนดของทางการจีนและประเมินว่ามีโอกาสเติบโตในตลาดจีนแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อไป คือ การศึกษากฎระเบียบในส่วนของไทย ทั้งนี้ จำเป็นต้องศึกษาว่าไทยอนุญาตให้ส่งออกสินค้าประเภทใดบ้าง และสินค้าแต่ละประเภทมีข้อกำหนดและขั้นตอนการขออนุญาตส่งออกอย่างไร ตลอดจนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมตัวเป็นผู้ส่งออกสินค้าของไทย ไว้ได้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ “ศึกษาเตรียมตัวเป็นผู้ส่งออกไทย” รู้จักสินค้า.. ก่อนเดินหน้าส่งออก ในเบื้องต้น ก่อนการส่งออกสินค้าจากไทยไปจีนหรือประเทศอื่นๆ จำเป็นจะต้องศึกษาดูว่าทางการไทยอนุญาตให้ส่งออกสินค้าประเภทใดบ้าง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวสินค้าที่สนใจจะส่งออก โดยปัจจุบันไทยได้แบ่งสินค้าส่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ สินค้ากำหนดมาตรฐานส่งออก สินค้ากำหนดมาตรการส่งออก สินค้ากำหนดโควต้าส่งออก และ สินค้าทั่วไป 1) สินค้ากำหนดมาตรฐานส่งออก พ.ร.บ.มาตรฐานสินค้าขาออก พ.ศ. 2522 ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับสินค้าส่งออกของไทย เพื่อเป็น การรักษามาตรฐานที่ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด และควบคุมคุณภาพของสินค้าที่จะส่งออกจากไทย ตลอดจนสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้นำเข้าในต่างประเทศ และสร้างศักยภาพในการแข่งขันแก่สินค้าส่งออกของไทยด้วย ปัจจุบัน ไทยกำหนดสินค้าที่มีมาตรฐานส่งออก 10 รายการ ได้แก่ ข้าวโพด ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวฟ่าง […]

ธุรกิจห้าดาว แฟรนไชส์เด่นติดลมบน ที่คุ้มกว่าสร้างธุรกิจเอง

ด้วยคนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ หันมาทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น บางส่วนทำงานประจำไปด้วย จึงหันมาลงทุนกับแฟรนไชส์ราคาประหยัดๆ โดยเฉพาะแฟรนไชส์ประเภทอาหารที่มีแนวโน้มรุ่ง ซึ่งธุรกิจห้าดาวก็เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่แข็งแรงมาอย่างยาวนาน และน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักหรือไม่เคยกินไก่ย่างห้าดาว นั่นเพราะเป็นเวลากว่า 34 ปีมาแล้ว ที่ร้านไก่ย่างห้าดาวอยู่คู่กับคนไทย โดยเริ่มต้นธุรกิจจากร้านเล็กๆ ย่านลาดพร้าว 80 ต่อมามียอดขายสูงขึ้น จึงได้ขยายสาขาไปทั่วประเทศ และเดินหน้าเปิดขายแฟรนไชส์อย่างเต็มตัวในปี 2543 ปัจจุบันธุรกิจห้าดาว มีกว่า 6,000 สาขา ทั่วประเทศ และอีก 1,600 สาขาในต่างประเทศ ซึ่งข้อดีคือราคาไม่สูง เริ่มต้นแค่หลักหมื่น ใช้พื้นที่ขนาดเล็กกะทัดรัด ขายได้ทุกที่ ทุกทำเล ใช้วัตถุดิบมาตรฐานจากโรงงานของซีพีโดยตรง พร้อมทีมงานทำการตลาดคอยดูแลตลอดกิจการ แฟรนไชส์ธุรกิจห้าดาว ไม่แพงอย่างที่คิด คนวัยเริ่มทำงาน ก็จับต้องได้ การลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์กับธุรกิจห้าดาว นอกจากแบบคีออส (Premium Kiosk) และแบบชุดเคาน์เตอร์ (Counter Shop) ที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ยังมีอีกหนึ่งรูปแบบนั่นก็คือ รูปแบบร้านอาหาร (Five Star Restaurant) อีกด้วย ถึงแม้จะยังมีไม่เยอะเท่า 2 แบบแรก […]

ภาวะกลัวตกกระแส 5G

ภาวะกลัวตกกระแสสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้หลายคนหมกมุ่นกับการเช็กข้อมูลข่าวสารจากสื่อสังคมออนไลน์ตลอดเวลา จนเกิดปัญหาทางสุขภาพจิตหรือที่เรียกกันว่า FOMO (Fear of Missing Out) ซึ่งส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการแสดงออกและความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง ตอนนี้ในระดับประเทศก็มีภาวะที่คล้ายคลึงกัน แต่เป็นภาวะกลัวตกกระแส 5G ทำให้พยายามกระพือข่าวให้รีบเร่งประมูล 5G ทั้งที่ยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนว่า เราพร้อมมีบริการ 5G เชิงพาณิชย์แล้วหรือยัง ที่กล่าวมาไม่ได้หมายความว่า เราต้องหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไปสู่ยุค 5G การเปลี่ยนผ่านบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จาก 2G มาสู่ 3G 4G และ 5G ตามลำดับเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ช่วงทองของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แต่ละยุคอยู่ที่ประมาณ 10 ปี ก่อนที่จะถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ในอีก 10 ปีต่อมา จนเลิกผลิตอุปกรณ์ที่ล้าสมัยในที่สุด จึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไม่ก้าวสู่ 5G 5G จะสร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมต่างๆ ก้าวกระโดดสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อย่างแท้จริง แต่ไม่ใช่ใน 2 ปีนี้ จากการสำรวจผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลก คาดการณ์ว่า ในระยะเริ่มแรก บริการหลักที่สร้างรายได้ของ 5G จะเกิดจาก “บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง” ร้อยละ 74 […]

นำร่อง “ฟู้ดทรัค” นำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผุดไอเดียใหม่ เตรียมกระตุ้นและผลักดันธุรกิจ SME นำกิจการมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ เริ่มที่กลุ่มธุรกิจฟู้ดทรัค (Food Truck) โดยดึงพันธมิตรเข้าร่วมประชุมหารือในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม นี้ หวังให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไม่ถูกแช่แข็ง สวนกระแสเศรษฐกิจโลก นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ได้เชิญหน่วยงานพันธมิตรประกอบด้วย ธนาคารออมสินผู้สนับสนุนแหล่งเงินทุน องค์กรเครือข่ายธุรกิจฟู้ดทรัค แหล่งรวมกลุ่มของผู้ประกอบการฟู้ดทรัคกว่า 700 ราย บริษัท วี เชฟ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็น Tech Start Up ที่บริหารแพลตฟอร์มการให้บริการรถฟู้ดทรัค บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ผู้ให้การสนับสนุนพื้นที่ขายในปั้มน้ำมันพีที บริษัท เบทาโกร จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบด้านอาหาร และผู้ผลิตรถฟู้ดทรัค ซึ่งจะมาร่วมประชุมหารือแนวทางในการส่งเสริม SME ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยการนำกิจการฟู้ดทรัค (Food truck) มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจในวันอังคารที่ 15 ตุลาคม นี้เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีโอกาสและช่องทางในการเข้าถึงแหล่งทุน […]

อนาคตธุรกิจ Hostel ปรับตัวอย่างไรให้จากรอดตายจากการแข่งขันสูง – รับลูกค้าได้จำกัด

Hostel ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการท่องเที่ยวของปัจจุบัน โดยปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาว Millennials ที่แตกต่างจาก Generation อื่น ๆ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เผยบทวิเคราะห์ที่ระบุว่า ผู้ประกอบการ Hostel ยังต้องเผชิญกับความท้าทายหลายมิติที่ต้องปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันที่สูง, ช่วงราคาห้องพักต่อคืนที่ต่ำ และจำนวนเตียงที่ขายได้น้อย จึงทำให้ยากแก่การปรับตัว ดังนั้นการมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเข้าพัก ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้เกิดการบอกเล่าความประทับใจ จะสามารถทำให้ดำเนินธุรกิจ Hostel ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับตัวของธุรกิจ Hostel อาจไม่แตกต่างกันมากนักกับธุรกิจโรงแรม แต่ด้วยขนาดของ Hostel ที่มีจำนวนเตียงค่อนข้างน้อยเหมาะ สำหรับลูกค้าประเภท F.I.T (Free Independent Travelers : นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักลำพัง หรือนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็ก ๆ) และรับลูกค้าประเภทกรุ๊ปทัวร์ได้ยาก นอกจากนี้ผู้เข้าพักค่อนข้างอ่อนไหวต่อราคา การปรับตัวจึงเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งทางด้านงบประมาณในการดำเนินกิจการและการทำตลาด ดังนั้นสิ่งที่ EIC มองว่าผู้ประกอบการ Hostel สามารถทำได้คือ • ต้องมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน สำหรับ Hostel ที่มีจำนวนห้องและงบประมาณในการดำเนินกิจการที่จำกัด จึงทำให้การทำการตลาดของ Hostel นั้นทำได้ในวงแคบ […]

ฮ่องกงเผยยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมทำนิวโลว์

สำนักงานสถิติและสำมะโนประชากรฮ่องกงเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของฮ่องกงในเดือนส.ค.ร่วงลง 23% เทียบรายปี แตะที่ 2.94 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 3.75 พันล้านดอลลาร์) ทั้งนี้ เมื่อตัดผลกระทบด้านการเปลี่ยนแปลงของราคาออกไปในช่วงเวลาดังกล่าวออกไปแล้ว ยอดค้าปลีกร่วงลง 25.3% เทียบรายปี เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. 2561 ยอดขายเครื่องประดับ, นาฬิกา และของขวัญ ดิ่งลง 47.4% ขณะที่ยอดขายเสื้อผ้าร่วงลง 33.4% ส่วนยอดขายเครื่องสำอางค์และเวชภัณฑ์ลดลง 30% และยอดขายในห้างสรรพสินค้าปรับตัวลง 29.9% โฆษกรัฐบาลฮ่องกงระบุว่า ยอดขายในเดือนส.ค.ร่วงต่ำลงเป็นอย่างมาก และถือเป็นการลดลงต่ำสุดเมื่อเทียบรายปี อีกทั้งยังต่ำกว่าเดือนก.ย. 2541 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตการเงินในเอเชีย โฆษกยังกล่าวอีกด้วยว่า นอกเหนือจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแอแล้ว เหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงที่มีความรุนแรงยังทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและยอดการใช้จ่ายลดลงอีกด้วย

ยกทัพ SMEs ไทย บุกตลาดเมียนมาร์ ดีลธุรกิจกับบายเออร์รายใหญ่

ใครต้องการหาพันธมิตร เปิดโอกาส พร้อมช่องทางจำหน่ายสินค้าสู่พม่า โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจความงาม บริการ อาหาร เครื่องดื่ม และแฟรนไชส์ โอกาสบุกตลาดเมียนมาร์มาถึงแล้ว เพราะในงาน Mingalar Smart SME Thai ณ ประเทศเมียนมาร์ เปิดจองบูธแสดงสินค้า ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม – 31 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การค้า GMP ห้างดังที่ใหญ่ที่สุดในกรุงย่างกุ้ง ทำไมต้องนำทัพสินค้าไทยไปย่างกุ้ง? ‘ย่างกุ้ง’ (Yangon) เป็นเมืองหลวงของพม่าจนถึงปี 2006 ต่อมาได้ย้ายศูนย์ราชการไปยังเมืองเนปีดอว์ แต่ด้วยประชากรกว่า 7 ล้านคน จึงทำให้ย่างกุ้งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของพม่า และเป็นศูนย์การค้าที่สำคัญที่สุด คาดว่า GDP ปีงบประมาณ 2562-2563 จะอยู่ที่ร้อยละ 7 และประมาณการรายได้อยู่ที่ 25,300,000 ล้านจ๊าด ซึ่งช่วงเดือนตุลาคม 2561 ถึง มิถุนายน 2562 มีการลงทุนกว่า 3,159.74 ล้านเหรียญสหรัฐ […]

Jack Ma ออกจาก Alibaba แล้วไปไหนต่อ

Jack Ma มหาเศรษฐีที่ปลุกอีคอมเมิร์ซของประเทศจีน ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของอาลีบาบา แต่ก็ยังมีเรื่องราวที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า จากนี้เขาจะทำอะไรเป็นอันดับต่อไปในวัย 55 ปี หลังจากสองทศวรรษในการสร้างอาลีบาบาให้กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าถึง 460,000 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้ก็ได้เวลาที่เขาจะเริ่มต้นบทบาทใหม่ของเขาต่อไป เขาเริ่มก่อตั้งมูลนิธิแจ็คหม่าในปี 2014 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากการตั้งมูลนิธิของบิลเกตส์ ส่วนเรื่องที่เขาจะทำต่อจากนี้จะเป็นเรื่องของการศึกษา สิ่งแวดล้อม และสิทธิสตรี ด้านการศึกษา “ก่อนที่ผมจะอายุ 70 ปี ผมสามารถทำอะไรบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับด้านการศึกษา ในฐานะครูก็ย่อมมีความต้องการให้นักเรียนของเขามีความก้าวหน้ามากกว่า สำหรับผมสิ่งที่ต้องทำคือการปล่อยให้คนที่อายุน้อยและมีความสามารถมากกว่าเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้นำ” ตัวเขาเองเคยเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เขามักจะพูดถึงความหลงใหลในการศึกษาของเขา Ma เลือกที่จะก้าวลงจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการวันที่ 10 กันยายน ซึ่งถือว่าเป็นวันครูในประเทศจีน ดังนั้นนี่อาจจะเป็นความต้องการสื่อถึงอะไรบางอย่าง แน่นอนมันเป็นวันเกิดปีที่ 55 ของเขาเองด้วย ส่วนมูลนิธิของเขานั้นก็ชัดเจนว่าให้การสนับสนุนเรื่องการศึกษาเต็มตัว สนับสนุนสตรี Ma และ Alibaba ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมทุกๆ สองปีในประเทศจีน เกี่ยวกับผู้หญิงและผู้ประกอบการตั้งแต่ปี 2015 ผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในอาลีบาบามาตั้งแต่การก่อตั้งเมื่อสองทศวรรษก่อน Ma ให้การสนับสนุนความเท่าเทียมกันทางเพศ นี่คือหนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่ 21 หากสังเกตจะพบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของทีมผู้บริหารระดับสูงของอาลีบาบาเป็นผู้หญิง การก้าวลงอย่างสง่างาม Ma กำลังก้าวออกจากอาลีบาบาในอายุที่ยังถือว่าน้อยมาก แต่มันเป็นความตั้งใจของเขาเอง […]

การสั่งบริษัทสหรัฐฯ ถอนตัวจากจีน อาจกระทบสถานะการเมืองของ “ทรัมป์”

นายทิโมธี สแตนฟอร์ด ประธานหอการค้าอเมริกันในประเทศจีน กล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอำนาจที่จะสั่งการให้บริษัทสหรัฐฯ ถอนธุรกิจออกจากประเทศจีน แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ปธน.ทรัมป์ได้รับผลกระทบทางการเมือง นายสแตนฟอร์ดกล่าวว่า “ปธน.ทรัมป์อาจจะออกคำสั่งที่ทำให้บริษัทอเมริกันประสบความยุ่งยากในการดำเนินธุรกิจในจีน แต่ผมคิดว่า คำถามไม่ได้อยู่ที่ประเด็นทางกฎหมาย แต่อยู่ที่ว่าการทำเช่นนั้นจะนำไปสู่ปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจหรือไม่” นายสแตนฟอร์ดได้กล่าวถึงกรณีที่ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความเมื่อช่วงปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา โดยสั่งให้บริษัทสหรัฐฯ เร่งหาทางเลือกใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากการทำธุรกิจในจีน “ผมคิดว่านี่เป็นมาตรการสุดโต่งที่เขาจะนำมาใช้ และผมคิดว่าจะเกิดกระแสตีกลับเป็นวงกว้างในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงจากบรรดาผู้นำในพรรคการเมืองของเขาเอง แต่ผมก็คิดว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น” นายสแตนฟอร์ดกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผลการสำรวจซึ่งจัดทำโดยสภาธุรกิจสหรัฐ-จีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า บริษัทส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ธุรกิจของพวกเขาในประเทศจีนมีศักยภาพในการทำกำไร และพวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะทำธุรกิจในตลาดจีนต่อไป แม้เผชิญกับความตึงเครียดด้านการค้าและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แย่ลงก็ตาม

‘บุก’ กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน สุขภาพดีในราคาไม่ถึงร้อย ออแกนิคแท้ 100%

ปัจจุบัน ‘บุก’ หรือ หรือ ‘คอนยัค’ ถูกนำมาใช้ในหลายอุตสาหกรรม เช่น ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก ลดไขมันในเลือด เครื่องสำอาง และอาหาร เนื่องจากมีความปลอดภัยต่อร่างกาย และมีประโยชน์หลายอย่าง บุ๊กเกะ (Buke’) แบรนด์ผลิตภัณฑ์บุกแปรรูปจึงคัดสรร ‘บุก’ ออแกนิคชั้นดี 100% ตอบโจทย์ด้านสุขภาพ และเป็นทางเลือกใหม่เพื่อแลกกับความอ้วนในราคาไม่ถึงร้อย จากแหล่งปลูกหัวบุกที่ดีที่สุดในประเทศไทย ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพาะปลูกด้วยระบบออแกนิคส์ 100% ผ่านการปลูกในพื้นที่ที่มีอากาศดีที่สุด และเป็นพื้นที่ที่ปลอดสารเคมี จนได้มาตรฐานการยอมรับในตลาดญี่ปุ่น ‘บุก’ มีองค์ประกอบเป็นสารประเภทคาร์โบไฮเดรต ประกอบด้วยกลูโคส และแมนโนส ซึ่งต่างจากแป้งของพืชทั่วไป เพราะจะไม่ถูกย่อยจากกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร สามารถพองตัวและดูดซับน้ำได้มากถึง 200 เท่าของปริมาณเดิม แป้งวุ้นบุกให้พลังงานต่ำมาก ทั้งยังช่วยยับยั้งการดูดซึมกลูโคสของระบบทางเดินอาหาร ลดการดูดซับไขมัน ลดคลอเลสเตอรอล ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง และผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนี้ สารกลูโคแมนแนน ยังสามารถดูดซึมน้ำในกระเพาะและลำไส้ได้ดี ช่วยกระตุ้นน้ำย่อยในลำไส้ให้เพิ่มมากขึ้น ทำให้ลำไส้สามารถขับของเสีย หรือสารพิษตกค้างในระบบทางเดินอาหารให้ออกจากร่างกายได้เร็ว บุกจึงเป็นวัตถุดิบชั้นดี ของผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เส้นผงบุกแปรรูปบุ๊กเกะ จึงทางเลือกใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ เพราะมีราคาที่จับต้องได้ […]

ไม่ง้อหน้าร้าน “อั่วย่าเพ็ญ” ชูจุดเด่นไส้อั่วสูตรโบราณ ย่างด้วยเปลือกมะพร้าว ขายออนไลน์

“อั่วย่าเพ็ญ” คือ ไส้อั่วสูตรดั้งเดิมจากจังหวัดแพร่ โดยคุณวันเพ็ญ อินทรฤทธิ์ เจ้าของสินค้า ได้อธิบายว่า สืบทอดวิธีการทำสูตรไส้อั่วสมุนไพรย่างด้วยเปลือกมะพร้าวจากแม่สามี ในฐานะที่เป็นลูกสะใภ้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำขายเมื่อหลายสิบปีก่อนแต่เลิกราไป ซึ่งมองเห็นว่าเป็นสูตรอาหารที่มีคุณค่าไม่อยากให้ถูกลืมไป ประกอบกับคิดว่าด้วยความพิเศษและน่าสนใจของสูตรจะสามารถพัฒนาเป็นธุรกิจได้จึงลุกขึ้นมาทำขายอีกครั้งโดยเน้นช่องทางออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก จุดเด่นและความน่าสนใจของ “อั่วย่าเพ็ญ” หรือไส้อั่วสูตรดั้งเดิมจากจังหวัดแพร่ คือกรรมวิธีการย่างด้วยเปลือกมะพร้าว ซึ่งจะแตกต่างจากไส้อั่วในปัจจุบันหลายเจ้าที่ย่างด้วยถ่านหรือใช้วิธีทอด ซึ่งมีความหอมที่ต่างกัน มีการปรับสูตรด้วยการย่างเปลี่ยนเป็นการอบ ให้กลิ่นหอมจากเปลือกมะพร้าว เนื้อหมูที่ใช้เป็นสันคอหมู เพราะเป็นส่วนที่นุ่ม ใส่มันลงไปเป็นส่วนผสมนิดหน่อย เน้นเครื่องเทศที่เป็นสมุนไพรหอม เช่นใบมะกรูด ตะไคร้ กระเทียม โดยเน้นกระเทียมไทยกลีบเล็ก ไส้ที่ใช้กรอกเป็นไส้หมูแท้ รสชาติอร่อย ไม่เลี่ยน มีส่วนผสมของสมุนไพร คนรักสุขภาพสามารถรับประทานได้ แรงบันดาลใจ – สร้างความแตกต่าง สำหรับการสร้างแบรนด์ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ “อั่วย่าเพ็ญ” คุณวันเพ็ญเผยว่าได้แรงบันดาลใจจากคุณย่าซึ่งเป็นเจ้าของสูตร จากนั้นจึงออกแบบโลโก้ ทำแพ็กเกจจิงที่ได้มาตรฐาน พัฒนาเป็นธุรกิจโดยเริ่มจากศึกษาจากผู้อื่นที่ประสบความสำเร็จ ด้านช่องทางตนตั้งใจขายออนไลน์โดยเฉพาะ จึงศึกษาขั้นตอนการทำงานแล้วปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับของตัวเองที่เป็นคนรักการทำอาหาร แล้วจึงเปิดแฟนเพจ Facebook เพื่อใช้นำเสนอสินค้า แสดงให้เห็นถึงจุดเด่น เพิ่มความสะดวกแก่ลูกค้าด้วยบริการจัดส่งทั่วประเทศ ซึ่งตรงจุดนี้ต้องทำการศึกษามากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นอาหารสด สินค้ามีอายุ การส่งถึงมือลูกค้าต้องตรงเวลา […]

Hasbro บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่ ชี้ย้ายฐานผลิตออกจากจีนเป็นเรื่องดี

นายไบรอัน โกลด์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทฮาสโบร ซึ่งเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การที่ฮาสโบรตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน ถือเป็นผลดีต่อทางบริษัท พร้อมระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2555 ฮาสโบรได้มุ่นเน้นในการกระจายฐานการผลิต อันเนื่องมาจากเหตุผลด้านความเสี่ยงที่จะกระทบต่อธุรกิจของบริษัท นายโกลด์เนอร์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางรายการ “Squawk on the Street” ทางสถานีซีเอ็นบีซีว่า ฮาสโบรเล็งเห็นโอกาสที่ดีในการตั้งโรงงานผลิตในเวียดนาม อินเดีย และประเทศอื่นๆ เช่น เม็กซิโก นอกจากนี้ ทางบริษัทยังเพิ่มการทำธุรกิจในสหรัฐฯ โดยในปีที่แล้ว ทางบริษัทได้ย้ายโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ “Play-Doh” กลับมายังสหรัฐฯ การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้บริษัทสหรัฐฯ รีบถอนตัวออกจากจีนโดยทันที เพื่อหาแหล่งผลิตใหม่ โดยให้กลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐฯ แม้ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ออกมาชี้แจงว่า ปธน.ทรัมป์ไม่ได้มีแผนที่จะใช้อำนาจฉุกเฉินเพื่อสั่งบริษัทสหรัฐฯ ถอนตัวจากจีนโดยทันที เพียงแค่เสนอให้บริษัทเหล่านี้มองหาแหล่งผลิตใหม่ หรือถ้าให้ดีก็กลับมาผลิตสินค้าในสหรัฐฯ นายโกลด์เนอร์ได้ถล่าวถึงเรื่องนี้ว่า บริษัทรายใหญ่ในสหรัฐฯ ได้รับคำแนะนำให้มองหาทางเลือกใหม่ๆนอกเหนือไปจากประเทศจีน ซึ่งรวมถึงการย้ายฐานการผลิตกลับสู่มาตุภูมิ และผลิตสินค้าภายในเขตแดนของสหรัฐอเมริกา

ยักษ์ใหญ่ E-Commerce จากทั่วโลกพุ่งเป้าสู่อินเดีย

ตลาดอีคอมเมิร์ซของอินเดียเป็นสิ่งหอมหวาน ทำให้ยักษ์ใหญ่จากทั่วโลกพยายามเข้าไปแย่งชิงพื้นที่ในประเทศนี้กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Walmart, eBay และ Alibaba และนี่คือรายงานความคืบหน้าล่าสุดของยักษ์ใหญ่แต่ละรายในอินเดีย ประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีความชำนาญด้านเทคโนโลยีของอินเดีย กลายเป็นกลุ่มคนที่สร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการเป็นกำลังหลักในการกระตุ้นการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ตามรายงานจาก India Brand Equity Foundation เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของอินเดียคาดว่าจะสูงถึง 250 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งตัวเลขนี้ย่อมเป็นที่หมายปองของบรรดายักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซจากทั่วโลก Amazon Amazon มีเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ในอินเดีย มีการลงทุนเปิดสำนักงานแห่งใหม่พร้อมตำแหน่งงานกว่า 15,000 คน บนพื้นที่ขนาดใหญ่ นี่คือการแสดงถึงความเอาจริงเอาจังกับตลาดต่างประเทศแห่งนี้ของอเมซอน นอกจากนี้ยังมีการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายด้านการขนส่งในประเทศ ที่คาดว่าจะเห็นผลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตอนนี้ในอินเดียผู้คนเริ่มซื้อนมและขนมปังผ่านทางออนไลน์กันมากขึ้นแล้ว อเมซอนวางเป้าหมายเรื่องนี้ไว้ใน 110 เมืองทั่วประเทศอย่างจริงจัง เพราะที่นี่คือตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดแห่งต่อไป Walmart Walmart เสร็จสิ้นการซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน Flipkart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกออนไลน์ของอินเดีย ทำให้มีศักยภาพในการบุกเข้าสู่ตลาดนี้ ตั้งแต่การเข้าซื้อกิจการ Walmart ได้พยายามอย่างหนักเพื่อปฏิวัติการค้าในอินเดียด้วยสินค้าราคาที่ต่ำลงและเพิ่มผลิตภัณฑ์ระดับสากลมากขึ้น Alibaba อาลีบาบาวางแผนที่จะลงทุน 250-300 ล้านดอลลาร์ในร้านขายของชำออนไลน์ Bigbasket และพยายามทำข้อตกลงกับยักษ์ใหญ่ชาวอินเดีย Reliance และ Tata […]

เสียวหมี่ เผยรายได้ Q2 ต่ำกว่าคาด

บริษัท เสียวหมี่ คอร์ป ของจีน เปิดเผยว่า รายได้ในไตรมาส 2/2562 ขยายตัว 15% สู่ระดับ 5.195 หมื่นล้านหยวน (7.36 พันล้านดอลลาร์) จากระดับ 4.524 หมื่นล้านหยวนในไตรมาส 2/2561 อย่างไรก็ดี รายได้ในไตรมาส 2/2562 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 5.352 หมื่นล้านหยวน เนื่องจากประชาชนที่ซื้อสมาร์ทโฟนในจีนมีจำนวนน้อยลง และหัวเว่ยซึ่งเป็นคู่แข่ง ได้แย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ส่วนรายได้สุทธิร่วงลง 87% สู่ระดับ 1.96 พันล้านหยวน แต่กำไรอยู่ที่ 3.64 พันล้านหยวน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.74 พันล้านหยวน เสียวหมี่เปิดเผยว่า การส่งมอบสมาร์ทโฟนทั้งหมดของบริษัทในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นเป็น 32 ล้านเครื่อง ทั้งนี้ เสียวหมี่กำลังเผชิญกับภาวะตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศที่ซบเซา เนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในจีนชะลอตัวลง และผู้บริโภคจีนแห่ไปสนับสนุนหัวเว่ยซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการของสหรัฐ

คาดส่งออกไทยไปฮ่องกงสูญรายได้ราว 500-900 ล้านดอลล์ จากเหตุประท้วง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า เหตุการณ์ประท้วงที่ฮ่องกง ยังไม่แน่นอนว่าจะจบลงเมื่อใดและมีความเสี่ยงที่จะยกระดับความรุนแรงขึ้นอีก ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยไปฮ่องกงในช่วงที่เหลือของปีอย่างแน่นอน โดยคาดว่าอาจฉุดให้การส่งออกไปฮ่องกงสูญเสีย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้ทั้งปี 2562 การส่งออกของไทยไปฮ่องกงมีความเสี่ยงหดตัวสูงขึ้นมาที่ราว 9-12% จากที่ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2562 หดตัวอยู่แล้วที่ 9.4% (YoY) โดยตลาดฮ่องกงมีความพิเศษสำหรับไทยตรงที่สินค้าที่ส่งออกจากไทยไปยังฮ่องกงราว 60% นั้นใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านไปยังตลาดจีนซึ่งสินค้ากลุ่มนี้มีทิศทางอ่อนไหว และสินค้าที่เหลือเป็นการใช้บริโภคภายในเกาะฮ่องกงซึ่งผลจากความอ่อนไหวของเศรษฐกิจฮ่องกงนั้นกระทบกับสินค้ากลุ่มหลังมากกว่า โดยกรณีที่เหตุการณ์ไม่ขยายวงกว้างไปกว่านี้และยุติลงได้โดยเร็ว ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปฮ่องกงจะจำกัดที่ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสืบเนื่องมาจากสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยไปฮ่องกงอาจอ่อนไหวมากยิ่งขึ้นในช่วงที่เหลือของปีตามความหวั่นไหวทางเศรษฐกิจของฮ่องกงเป็นหลัก กลุ่มสินค้าที่มีความเสี่ยงคำสั่งซื้ออ่อนแรงลงจากปัจจุบันอีกราวร้อยละ 20-30 ในช่วงที่เหลือของปี โดยเฉพาะในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ ผักและผลไม้ ข้าว ไก่แปรรูป ไข่ไก่สด และอาหารทะเลกระป๋องและผลไม้กระป๋อง เป็นต้น หากกรณีที่เหตุการณ์ยกระดับความรุนแรงมีผลทำให้ภาคธุรกิจในประเทศหยุดชะงักรวมทั้งส่งผลให้การขนส่งทางน้ำติดขัด ผลกระทบต่อการส่งออกไทยไปฮ่องกงจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นทั้งผลจากสินค้าอุปโภคบริโภคที่ทรุดตัวยิ่งกว่าเดิม บวกกับผลที่มาจากการส่งออกในกลุ่มสินค้าขั้นกลางของไทยที่ส่วนใหญ่ใช้ฮ่องกงเป็นทางผ่านไปยังจีน โดยผลกระทบที่มีต่อสินค้าส่วนนี้ส่วนหนึ่งมาจากการชะลอตัวตามความไม่แน่นอนของคำสั่งซื้อที่มาจากจีนที่อยู่ท่ามกลางสงครามการค้าเป็นหลัก บวกกับการติดขัดในการขนส่งที่จะเกิดเพียงในระยะสั้นเพียง 1-2 เดือนเท่านั้น หลังจากนั้นผู้ประกอบการสามารถใช้เส้นทางการเดินเรือทางอื่นขนส่งไปยังจีนได้โดยตรงทดแทนการส่งสินค้าผ่านฮ่องกง อาทิ ผ่านทางท่าเรือเซินเจิ้นและท่าเรือกวางโจวในมณฑลกวางตุ้งของจีน ซึ่งสินค้าไทยที่ผ่านช่องทางนี้ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า […]

ECB เตือนการค้าโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่า การค้าโลกจะฟื้นตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้า ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น รายงานของ ECB ระบุว่า การขยายตัวของการค้าโลกจะถูกกดดันจากแนวโน้มที่ซบเซาของการลงทุนในหลายประเทศ รายงานบ่งชี้ว่า ความเสี่ยงในช่วงขาลงต่อแนวโน้มการค้าโลกได้ปรากฎอย่างชัดเจนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จากการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้า ขณะที่มีความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางการค้าจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ รายงานของ ECB ได้วิเคราะห์ภาวะการอ่อนตัวของการค้าโลกนับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ซึ่งเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก และมีความรุนแรงมากกว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก

สหรัฐฯ หวั่นญี่ปุ่นคุมเข้มการส่งออกกระทบซัพพลายเชนทั่วโลก

รัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกาหลีใต้เปิดเผยว่า นักธุรกิจและเจ้าหน้าที่รัฐบาลของสหรัฐกล่าวว่า ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก คำแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นายยู มย็อง-ฮี รัฐมนตรีการค้าเกาหลีใต้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อขอแรงสนับสนุนจากสหรัฐในการจัดการกับการจำกัดการส่งออกสินค้าของญี่ปุ่น รวมถึงเน้นย้ำว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อแค่บริษัทจากเอเชีย แต่ยังรวมถึงบริษัทสหรัฐด้วยเช่นกัน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้จำกัดการส่งออกวัสดุสำคัญ 3 ชนิด ที่ใช้ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแสดงผลให้กับเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้ข้อพิพาทเรื่องแรงงานสมัยสงคราม ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การจำกัดการส่งออกสินค้าเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อระบบควบคุมการส่งออกสินค้าที่หละหลวมของเกาหลีใต้ ซึ่งอาจจะมีการเบี่ยงเบนเพื่อเป้าหมายทางการทหาร อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้เชื่อว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการตอบโต้ทางเศรษฐกิจต่อคำตัดสินของศาลเกาหลีใต้ที่สั่งให้บริษัทญี่ปุ่นชดเชยแรงงานเกาหลีใต้ที่ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

ไม่ต้องใช้คน! บริษัทสิงคโปร์เปิดตัวหุ่นยนต์ทำก๋วยเตี๋ยว 1 ชั่วโมงทำได้ 80 ชาม

Neo Group บริษัทจากสิงคโปร์ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการจัดเลี้ยงเปิดตัวนวัตกรรมเป็นหุ่นยนต์ทำก๋วยเตี๋ยวที่ใช้เวลาเพียง 45 วินาทีเท่านั้น ก็สามารถรับประทานอาหารได้เลย หุ่นยนต์นวัตกรรมของบริษัท Neo Group ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงานเลี้ยงของมหาวิทยาลัยด้านกฎหมายของสิงคโปร์ (SMU School of Law) และมีการโชว์ศักยภาพสามารถทำก๋วยเตี๋ยวลักซาได้ถึง 80 ชาม ภายในเวลา 1 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 45 วินาทีต่อ 1 ชาม สำหรับกระบวนการผลิตนั้น ผู้บริโภคจะเลือกเส้นก๋วยเตี๋ยว รวมถึงเครื่องเคียงต่างๆ เช่นถั่วงอก หลังจากนั้นหุ่นยนต์จะทำการลวกเส้น ปรุงรส และพร้อมเสิร์ฟ ด้าน Sally Liew กรรมการบริหารของ Neo Group กล่าวว่า หุ่นยนต์ทำก๋วยเตี๋ยวเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในการออกงานอีเวนท์ จึงทำให้เราตัดสินใจที่พัฒนาหุ่นยนต์นี้ขึ้นมา ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะเป็นไปตามสูตรอาหารที่ระบุไว้ และผู้บริโภคยังสามารถจัดการเลือกใส่วัตถุดิบตามที่ตนเองต้องการ “แน่นอน นี่คือนวัตกรรมที่ประกาศออกมา เราเชื่อว่าหุ่นยนต์การทำก๋วยเตี๋ยวนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของอุตสาหกรรมอื่นๆ ในสิงคโปร์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แรงงาน” ที่มา: channelnewsasia

ศัลยกรรมไทยโตสวนกระแสเศรษฐกิจโลก

มูลค่ารวมตลาดศัลยกรรมไทยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว มีมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท แต่มาปีนี้มูลค่าตลาดศัลยกรรมของไทยเพิ่มขึ้นถึง 85% หรือคิดเป็นมูลค่า 36,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2562 มูลค่าตลาดศัลยกรรมความงามไทย จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปอีก 10 – 20% ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม ปัจจุบันตลาดศัลยกรรมความงามไทยประกอบด้วยกลุ่มคลินิกความงาม, กลุ่มโรงพยาบาลที่หันมาให้ความสำคัญกับบริการด้านศัลยกรรมเสริมความงาม และกลุ่มโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามเฉพาะด้าน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มคลินิกและโรงพยาบาลศัลยกรรมจากประเทศเกาหลีร่วมเข้ามาชิงพื้นที่ร่วมด้วย โดยแทรกซึมแฝงการโฆษณาผ่านช่องทางรายการโทรทัศน์, ดารา, นักร้อง, เน็ตไอดอล และ เซเลบริตี้ ทำให้เกิดเอเจนซี่จัดทัวร์ศัลยกรรมในประเทศเกาหลีมากมาย แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ในขณะที่คนไทยนิยมเดินทางไปทำศัลยกรรมในประเทศเกาหลี แต่สำหรับประเทศไทยเอง กลับถูกยกให้เป็นศูนย์กลางด้านความงามอันดับต้นของเอเชีย มีความพร้อมของเทคโนโลยีอันทันสมัย และเทคนิคทางการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ในแต่ละปีมีจำนวนของชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการศัลยกรรมความงามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศัลยแพทย์ไทยมีชื่อเสียงทางด้านศัลยกรรมความงามตกแต่งในระดับโลก และได้รับการยอมรับจากคนทั่วทุกมุมโลกในเรื่องฝีมือ ความเป็นธรรมชาติ ทำให้ชาวต่างชาติให้ความเชื่อมั่นและเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อเข้ารับการทำศัลยกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในอนาคต คาดว่า ประเทศไทย จะสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผ่าตัดศัลยกรรมความงามโลก กลุ่มชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาทำศัลยกรรม ส่วนใหญ่จะนิยมเข้ามาทำศัลยกรรมดึงหน้า, ศัลยกรรมตา, ศัลยกรรมจมูก และศัลยกรรมเสริมหน้าอก จากเดิมส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนไทย ในขณะที่มีชาวต่างชาติเพียงประมาณ 10% […]

สงครามการค้าส่งกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

รายงานประจำปีของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นกำลังจับตาผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่จะมีต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น รายงานเศรษฐกิจและการเงินประจำปีงบประมาณ 2562 บ่งชี้ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกของญี่ปุ่นแล้ว รายงานระบุว่า จีนซึ่งได้รับผลกระทบจากความต้องการชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนที่ลดลงนั้น ยังคงมีความขัดแย้งด้านการค้ากับสหรัฐ และความขัดแย้งระหว่างสองประเทศดังกล่าวซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกนั้น จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก “เราจับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและสถานการณ์ต่างประเทศเป็นพิเศษ ซึ่งรวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง ผลกระทบของประเด็นการค้าสหรัฐ-จีน และการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)” รายงานระบุ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในการประเมินภาวะเศรษฐกิจเมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นมีแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจยาวนานที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากภาวะแรงงานและค่าจ้างที่ปรับตัวดีขึ้น แต่รายงานไม่ได้ระบุถึงมุมมองดังกล่าว นอกจากนี้ รายงานยังแนะนำให้ญี่ปุ่นปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อเพิ่มค่าแรง และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มการใช้จ่ายของผู้บริโภค

บริษัทต่างชาติกว่า 50 ราย ย้ายฐานการผลิตจากจีนหนีสงครามการค้า

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียน รีวิวรายงานว่า อัตราการย้ายฐานการผลิตของบริษัทต่างๆ ออกจากจีนกำลังขยายตัวขึ้น ขณะที่บริษัทข้ามชาติมากกว่า 50 แห่งตั้งแต่แอปเปิล ไปจนถึงนินเทนโด และ เดลล์ กำลังรีบย้ายการผลิตออกจากจีนเพื่อหลีกเลี่ยงการกำหนดภาษีนำเข้าของสหรัฐ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนจากจีนในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 3.25 แสนล้านดอลลาร์ หลังการตอบโต้ทางการค้ารุนแรงขึ้น บริษัทจำนวนมากขึ้นประกาศแผน หรือพิจารณาย้ายการผลิตออกจากจีน นิกเกอิรายงานว่า ฮิวเล็ต-แพคการ์ด (เอชพี) และ เดลล์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสัญชาติสหรัฐอาจย้ายการผลิตโน้ตบุ๊คมากถึง 30% ในจีนไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนบริษัทแอปเปิลได้เรียกร้องให้บรรดาซัพพลายเออร์รายใหญ่ประเมินต้นทุนของการย้ายฐานการผลิต 15-30% จากจีนไปยังอินเดีย ด้านบริษัทนินเทนโดของญี่ปุ่นก็กำลังจะย้ายการผลิตวิดีโอเกมคอนโซลส่วนหนึ่งจากจีนไปยังเวียดนาม นิกเกอิรายงานว่า ไม่ใช่แค่เพียงบริษัทต่างชาติเท่านั้นที่ทบทวนการผลิตในจีน บริษัทของจีนเองก็กำลังย้ายฐานการผลิตออกจากจีนด้วย โดยบริษัททีซีแอลซึ่งผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกกำลังย้ายการผลิตทีวีไปยังเวียดนาม ขณะที่ไซหลุนซึ่งเป็นบริษัทผลิตยางรถยนต์ของจีนก็กำลังย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย

วุฒิสมาชิกสหรัฐเผย “กูเกิล” เริ่มถอนธุรกิจออกจากจีน

นายซันดาร์ พิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กูเกิล อิงค์ ได้แจ้งต่อนายมาร์ค วอร์เนอร์ วุฒิสมาชิกสหรัฐสังกัดพรรคเดโมแครตว่า กูเกิลเริ่มถอนธุรกิจออกจากจีนแล้ว โดยทางบริษัทได้ยุติการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจบางส่วนในจีน ภายหลังจากที่ได้ประชุมร่วมกับซีอีโอของกูเกิลเมื่อวานนี้ นายวอร์เนอร์เปิดเผยว่า ซีอีโอของกูเกิลระบุว่ามีบางประเด็นที่จำเป็นต้องอธิบาย และได้แจ้งให้ทราบว่าทางบริษัทกำลังลดขนาดการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับจีน และยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐ ทั้งนี้ นายวอร์เนอร์ไม่ได้เปิดเผยอย่างเจาะจงว่า ได้หารือกับนายพิชัยเกี่ยวกับโครงการใดบ้าง ขณะที่โฆษกหญิงของนายวอร์เนอร์เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายหารือกันเกี่ยวกับขอบข่ายการเป็นพันธมิตรระหว่างกูเกิลและจีน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กูเกิลกำลังถูกจับตาในประเด็นสายสัมพันธ์กับจีน หลังจากนายปีเตอร์ ธีล กรรมการบริหารของบริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์ ได้ออกมาเรียกร้องให้สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) และสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) ตรวจสอบการทำงานของบริษัทกูเกิล เนื่องจากตนสงสัยว่ากูเกิลมีสายสัมพันธ์กับจีนที่อาจถึงขั้น “ขายชาติ” ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้สั่งการให้นายวิลเลียม บาร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ ตรวจสอบตามคำร้องของนายธีล เพื่อดูว่ากรณีดังกล่าวมีมูลความจริงหรือไม่

Starbucks Now ร้านกาแฟรูปแบบใหม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ซื้อแล้วไปของลูกค้า

“สตาร์บัคส์” ร้านกาแฟชื่อดังสัญชาติอเมริกันเปิดตัวร้านค้ารูปแบบใหม่ Starbucks Now ที่มีความคล่องตัวในการรับออเดอร์ และสามารถสร้างประสบการณ์ระหว่างลูกค้ากับการจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ สำหรับคุณสมบัติของร้าน Starbucks Now จะมีบาริสต้ามาให้บริการบริเวณหน้าเคาท์เตอร์เพื่อรับออเดอร์จากลูกค้า ซึ่งคำสั่งซื้อทั้งหมดจะถูกติดไว้กับผนังเท่านั้น นอกจากนี้ ภายในร้านจะมีที่นั่งจำนวนจำกัดให้กับลูกค้าที่ต้องการนั่งดื่มเครื่องดื่มภายในร้านจริงๆ เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ร้าน Starbucks Now ซึ่งเป็นโมเดลใหม่ของแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่ของโลกนี้ ยังไม่ได้เปิดร้านที่ประเทศไทย แต่จะเริ่มเปิดที่แรกในประเทศจีนก่อน Leo Tsoi หัวหน้าปฏิบัติการณ์ Starbucks China Retail กล่าวว่า ร้าน Starbucks Now จะเป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นที่จะสร้างบริการด้วยนวัตกรรมให้กับลูกค้าผ่านโมเดลร้านกาแฟรูปแบบใหม่ “โมเดลร้านกาแฟรูปใหม่นี้จะดีไซน์ออกมาเพื่อตอบโจทย์ความรวดเร็ว ตรงกับไลฟ์สไตล์ on the go ของผู้บริโภค” Leo Tsoi ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ เตรียมพิจารณาเปิดร้านกาแฟรูปแบบใหม่นี้ในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่าน, ย่านธุรกิจ และศูนย์กลางการขนส่งในประเทศจีน รวมถึงร้าน Starbucks Now จะรับออเดอร์ และจ่ายเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเมืองปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้ 300 แห่งภายในปีนี้ ที่มา: […]

1 2 3 4 … 8