เริ่มธุรกิจให้ไปได้ไกล ตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่
เมื่อเราต้องเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆที่เราไม่เคยทำมาก่อน หลายคนอาจมองว่ายาก โดยเฉพาะการเริ่มต้นทำธุรกิจยิ่งต้องคิดให้รอบคอบเป็นสองเท่า เพราะนั่นหมายถึงความคาดหวังในเม็ดเงินที่ลงทุนไป แต่หากมองถึงเอสเอ็มอี หรือสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จ ต้องบอกว่าระหว่างทางของเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้ง่ายเลย เพราะต้องผ่านการเรียนรู้ การลองผิดลองถูก จนเกิดเป็นประสบการณ์มานับไม่ถ้วน สำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ สิ่งแรกที่ต้องคิดคือ การวิเคราะห์ว่าธุรกิจที่กำลังจะทำอยู่นั้น มีอยู่ในตลาดแล้วรึยัง แล้วถ้ามี มีการแข่งขันสูงแค่ไหน มีช่องว่างของโอกาสตรงไหนบ้าง ที่เราจะสามารถพัฒนาสินค้า-บริการ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และจะมีวิธีใหนบ้าง ที่จะผลักดันให้ธุรกิจโดดเด่นในท้องตลาดได้ อย่างการเลือกทำสินค้า-บริการที่อยู่ในตลาดบลูโอเชียน ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากยังไม่มีการแข่งขันสูง จึงนับเป็นการเริ่มต้นที่มีอนาคต ซึ่งจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างจากท้องตลาด แต่การจะหาความแตกต่างจากตลาดให้เจอในยุคปัจจุบันเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก นักธุรกิจส่วนใหญ่จึงพยายามมองหา Business Model ที่สามารถทำตลาดได้ และมีการแข่งขันยังมีไม่สูงมากนัก เช่น การยืมความคิดและรูปแบบธุรกิจจากต่างประเทศเข้ามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในประเทศ แล้วประยุกต์มันให้กลายเป็นรูปแบบธุรกิจของเราเอง ยกตัวอย่างสตาร์อัพในประเทศไทยหลายเจ้าในตอนนี้ ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่รูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ เพราะมีแนวคิดและแรงบันดาลใจมาจากรูปแบบของสตาร์อัพต่างประเทศ แต่พวกเขาไม่ได้ลอกเลียนมาทั้งฉบับ แต่นำมาประยุกต์ พัฒนา และต่อยอด (Copy and Development) ให้เกิดความเหมาะสมกับตลาด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าสตาร์อัพบ้านเราไม่เก่งพอ แต่มันคือความชาญฉลาดของเขาเหล่านั้นที่สามารถนำรูปแบบต่างๆมาปรับใช้ให้ตอบโจทย์และโดนใจกลุ่มเป้าหมาย และเมื่อสินค้า-บริการได้ถูกปล่อยออกมาแล้ว การขยายตลาดให้ถูกที่ถูกเวลาก็สำคัญ เพราะจะช่วยดึงให้ธุรกิจก้าวขึ้นมาจนประสบความสำเร็จ โดยผู้ประกอบการมือใหม่บางส่วน อาจมุ่งแต่จะขยายตลาดเพียงแค่ในประเทศ เพราะมองว่าแค่ในเมืองไทยยังขยายตลาดไม่ทั่วถึง แล้วจะออกนอกไปเทศให้ยุ่งยากทำไม […]