SME News

EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง สานพลังภาครัฐและภาคเอกชน สนับสนุนธุรกิจพลังงานสะอาด ต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน CLMV

EXIM BANK ขานรับนโยบายกระทรวงการคลัง สานพลังภาครัฐและภาคเอกชนสนับสนุนธุรกิจพลังงานสะอาด ต่อยอดการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน CLMV นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะกรรมการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) นำโดย ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK แขกธนาคาร และสื่อมวลชน เยี่ยมชมกิจการลูกค้า EXIM BANK ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท Truong Thanh Quang Ngai Power and High Technology Joint-Stock Company (TTQN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) กำลังการผลิต 49 เมกะวัตต์ จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (Electricity of Vietnam : EVN) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 […]

คว่ำบาตรท่าไหน! รัสเซียกวาดรายได้จากเชื้อเพลิงมากกว่าก่อนรุกรานยูเครน

ทูตความมั่นคงด้านพลังงานของสหรัฐฯ ยอมรับว่ารัสเซียสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากเชื้อเพลิงฟอสซิลสูงกว่าตอนรุกรานยูเครน เพราะว่าราคาโลกในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นจากผลกระทบที่ชาติตะวันตกจำกัดการขาย Amos Hochstein ทูตความมั่นคงด้านพลังงานของสหรัฐฯ กล่าวกับคณะอนุกรรมการวุฒิสภายุโรป และความร่วมมือด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคว่ารัสเซียทำเงินได้มากขึ้นจากการขายน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติในช่วงก่อนรุกรานยูเครน “ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัสเซียทำเงินได้มากขึ้นจากการขายน้ำมันดิบ และก๊าซ มากกว่าก่อนสงคราม” Hochstein กล่าว โดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเห็นพ้องที่จะแบนการนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซีย และกำหนดมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นเพื่อลงโทษจากการรุกรานยูเครน แม้ว่าตลาดโลกจะมองข้ามเชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย แต่ในเวลาเดียวกันกลับกระตุ้นให้ราคาน้ำมัน และก๊าซในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยรัสเซียยังคงขายสินค้าให้กับผู้ซื้อรายอื่นได้มากขึ้น เช่น จีน และอินเดีย ที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จากข้อเสนอส่วนลดพิเศษ Hochstein กล่าวต่อว่าในขณะที่ยอดขายของรัสเซียต่อจีน และอินเดีย ได้รับส่วนลดเมื่อเปรียบเทียบกับซัพพลายของประเทศอื่น ๆ แต่ด้วยราคาในตลาดโลกที่พุ่งสูง ทำให้รัสเซียมีแนวโน้มได้รายได้ส่วนนี้เพิ่มสูงขึ้น ตนได้พูดคุยกับรัสเซียว่าซื้อน้ำมันจากรัสเซียมากเกินไป และแจ้งกับอินเดียว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถแบนอินเดียซื้อน้ำมันดิบกับรัสเซียได้ รวมทั้งเชื่อว่าอินเดียมีเพดานในการจัดซื้อน้ำมันจากรัสเซียอย่างจำกัด แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดแต่อย่างใด ที่มา: economictimes

EXIM BANK รุกตลาด CLMV เปิดสำนักงานตัวแทนแห่งที่ 4 ในเวียดนาม ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 3,400 ล้านบาท

EXIM BANK รับนโยบายกระทรวงการคลังหนุนทุนไทยรุกตลาด CLMV เปิดสำนักงานตัวแทนแห่งที่ 4 ในเวียดนาม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ในนครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย นางสาววีรกา มุทิตาภรณ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK และ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เข้าร่วมในพิธีเปิดสำนักงานผู้แทน EXIM BANK ในนครโฮจิมินห์ พร้อมด้วยกรรมการธนาคาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและเวียดนาม ลูกค้า ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ไซง่อน นครโฮจิมินห์ เวียดนาม เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน […]

5 เงื่อนไขสำคัญหลังไทยขอกู้เงินญี่ปุ่น 1.3 หมื่นล้านบาท แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-สังคมจากโควิด-19

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการกู้เงินจากรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับ COVID-19 Crisis Response Emergency Support Loan พื่ออนุวัติตามนัยมาตรา 8 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ประกอบมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กระทรวงการคลังขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่า กระทรวงการคลัง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ตามมติเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 และอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 กระทรวงการคลังได้ลงนามในสัญญาเงินกู้กับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2565 โดยมีสาระสำคัญและเงื่อนไขของการกู้เงิน ดังต่อไปนี้ 1.เป็นเงินกู้สกุลเงินเยน จำนวน 50,000 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 13,432.35 […]

จีนนำเข้าสินค้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเกือบ 80% ท่ามกลางการคว่ำบาตรจากชาติตะวันตก

การนำเข้าสินค้าของจีนจากรัสเซียเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทางฝั่งรัสเซีย เนื่องจากการถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกจากกรณีรุกรานยูเครน สวนทางกับการขนส่งสินค้าของจีนไปรัสเซียลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ตามรายงานของศุลกากรจีน คำนวณโดยสำนักข่าว Reuters ชี้ให้เห็นว่าจีนนำเข้าจากรัสเซียเพิ่มขึ้น 79.6% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ขยายตัว 56.6% ในเดือนเมษายน และ 26.4% ในเดือนมีนาคม โดยจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของรัสเซียในเรื่องทรัพยากร และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ตามข้อมูลการขนส่งและผู้ค้าน้ำมันที่พูดคุยกับ Reuters ก่อนหน้านี้ ระบุว่าจีนเร่งซื้อน้ำมันจากรัสเซียในราคาที่มาจากการต่อรอง เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของผู้ซื้อจากชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรธุรกิจของรัสเซีย จากกรณีรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ทางรัสเซียอธิบายการบุกยูเครนว่าเป็น “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” นำมาสู่มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่จากชาติตะวันตก และพันธมิตร อย่างไรก็ตาม หน่วยงานศุลกากรไม่ได้บอกว่าสินค้าใดที่จีนซื้อจากรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว แต่การขนส่งไปสู่รัสเซียลดลง 8.6% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลง 25.9% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเมษายน ปัจจุบันการค้าระหว่างจีนกับรัสเซียยังคงปกติ และจีนปฏิเสธที่จะเรียกการกระทำของรัสเซียว่าเป็นการบุกรุก โดยในเดือนเมษายน กระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียคาดว่าสินค้าโภคภัณฑ์กับจีนจะเติบโตสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2567 ที่มา: businesstimes #Smartsme #รัสเซีย #จีน

ไม่ไหวจริงๆ! เครือสหพัฒน์ขอพาณิชย์ขึ้นราคามาม่า ตามต้นทุนวัตถุดิบที่พุ่งสูงมาก

เครือสหพัฒน์ เจรจากับกระทรวงพาณิชย์ขอปรับขึ้นราคามาม่า หลังต้นทุนวัตถุดิบข้าวสาลี-น้ำมันปาล์ม เพิ่มสูง ส่งผลกระทบต่อการผลิต นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่าสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม มีราคาพุ่งสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท คือ มาม่า เป็นอย่างมาก โดยทั้งข้าวสาลี และน้ำมันปาล์ม ถือเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งบริษัทแบกรับต้นทุนดังกล่าวมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมภายใต้การกำกับของกระทรวงพาณิชย์ บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อขออนุญาตปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น โดนเริ่มจากมาม่าที่จะขออนุญาตปรับขึ้นราคา เพราะเมื่อดูในต่างประเทศ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็มีการปรับราคาขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบเช่นกัน ไม่เพียงแค่ มาม่าเท่านั้น ที่จะปรับขึ้นราคา ยังมีผงซักฟองที่จะต้องปรับราคาขายขึ้นเหมือนกัน ส่วนสินค้าอื่น ๆ ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป “เราได้เริ่มคุยกับกระทรวงพาณิชย์ในการขอขึ้นราคาสินค้า แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นได้ตอนไหน โดยบริษัทยังช่วยพยุงราคาสินค้าไม่ให้กระทบต่อประชาชนได้อีกระยะหนึ่ง” นายบุณยสิทธิ์ กล่าว

แบกไม่ไหว! เรือด่วนเจ้าพระยาขอขึ้นค่าโดยสาร 1 บาท หลังราคาน้ำมันดีเซลพุ่ง เริ่ม 15 มิ.ย.

เรือด่วนเจ้าพระยาขอปรับขึ้นค่าโดยสาร 1 บาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดีเซลพุ่งสูง โดยมีผล 15 มิ.ย. หากน้ำมันลดต่ำกว่าเกณฑ์จะมีการปรับลดค่าโดยสารต่อไป น.ต. เจริญพร เจริญธรรม ร.น. กรรมการผู้จัดการบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด ผู้ให้บริการเรือโดยสารในแม่น้ำเจ้าพระยา ในเส้นทางระหว่างท่าเรือปากเกร็ด-ท่าเรือวัดราชสิงขร กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซลที่พุ่งสูงต่อเนื่อง โดยราคาอยู่ที่ 32.99 บาทต่อลิตร ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 รวมถึงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ผู้โดยสารน้อย เหล่านี้ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องขอปรับค่าโดยสารขึ้น 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศกรมเจ้าท่า ที่ 110/2559 เรื่อง ประกาศอัตราค่าโดยสารเรือกลประจำทางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ลงวันที่ 29 ก.ย.2559 สำหรับค่าโดยสารที่ถูกปรับขึ้นราคาใหม่ มีดังต่อไปนี้ – ธงส้ม เส้นทางนนทบุรี-วัดราชสิงขร จากราคา 15 บาท เป็น […]

เตือนขายสับปะรดสีชมพูในไทยผิดกฎหมาย เพราะเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรม ไม่อนุญาตให้นำเข้า

หลังจากมีประเด็นเกี่ยวกับการสับปะรดสีชมพูในประเทศว่ามีความผิดกฎหมาย เรื่องนี้ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเป็นเรื่องจริง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่ามีการพบสับปะรดเนื้อสีชมพูซึ่งเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรม หรือจีเอ็มโอ ที่เป็นการทดลองของบริษัท Del Monte ได้ปลูกในประเทศคอสตาริกา ซึ่งประเทศไทยมีนโยบายปลอดพืชจีเอ็มโอ ไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้น จึงเตือนประชาชนอย่านำเข้าพืชดังกล่าว หรือสนับสนุนการซื้อขาย เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศ ตอนนี้กรมวิชาการเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการตรวจสอบ ติดตามอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนพบเห็นสามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องทางออนไลน์ที่มีการส่งสินค้ากันมาก ทั้งนี้ ผู้ลักลอบนนำเข้า หากพบจะมีโทษตามกฎหมายพรบ. กักพืช พ.ศ.2507 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ที่มา: Anti-Fake News Center Thailand

โทรสั่งก็มา! 7-Eleven เปิดบริการใครไม่สะดวกใช้แอปฯ โทรสั่ง 1371 พร้อมส่งถึงบ้าน

เฟซบุ๊กแฟนเพจ 7-Eleven Thailand ได้โพสต์ข้อความว่า #7DELIVERY โทรสั่งได้แล้ววันนี้ที่ 1371 ใครไม่สะดวกใช้ 7APP ก็โทรมาสั่งได้เลยค้าบบบบ อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่บริการใหม่ของ 7-Eleven แต่อย่างใด เพราะว่าบริการโทรสั่งนั้นมีมาตั้งแต่นานแล้ว โดยเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่ได้โหลดแอปฯ 7-Eleven Delivery หรือไม่อยากสั่งสินค้าผ่านแอปฯ รวมถึงเป็นการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทุกวัยที่ต้องการความสะดวกสบาย สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ที่ลดความแออัดภายในร้าน สำหรับการสั่งนั้นต้องซื้อสินค้าขั้นต่ำ 100 บาท โดยมีสาขาให้บริการเหมือนกับการสั่งผ่านแอปพลิเคชัน หากมองในเรื่องของการทำธุรกิจแล้ว แน่นอนว่าด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปการให้บริการไม่อาจทำอยู่ในรูปแบบเดิม ๆ ได้ โดยต้องมีทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ควบคู่กันไป ซึ่งหากมีทั้งสองส่วนนี้ย่อมเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ที่มา: 7-Eleven Thailand, CPPALL

ไฟเขียว! คนซาอุฯ มาไทยไม่ต้องขอวีซ่า อยู่ได้ 30 วัน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้ 5,000 ล้านบาท/ปี

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (วันที่ 7 พ.ค.65) อนุมัติหลักการเพิ่มประเทศซาอุดีอาระเบียอยู่ในรายชื่อประเทศถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง เข้ามาในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน การอนุมัติหลักการเป็นไปตามการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศให้กลับเข้าสู่ระดับปกติอย่างสมบูรณ์ โดยหนึ่งในเรื่องของการหารือที่สำคัญ คือการส่งเสริมการติดต่อระหว่างภาคประชาชน ซึ่งการดำเนินการในครั้งนี้จะช่วยให้ชาวซาอุฯ เดินทางมายังประเทศไทยมากขึ้น เป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่ผ่านมา รัฐบาลซาอุดีอาระเบียอนุญาตให้ประชาชนเดินทางมาประเทศไทยประมาณ 30,000 ต่อปี และจะเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 100,000-150,000 คนต่อปี การได้รับสิทธิ์ของซาอุดีอาระเบีย สอดคล้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาลที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งคนซาอุดีอาระเบียเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีการใช้จ่ายสูง และเดินทางมาเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาทต่อปี

กองสลากเล็งคลอดหวย 2 ตัว 3 ตัวขายบนมือถือ เพื่อแก้ปัญหาขายสลากเกินราคา

หลังจากสลากดิจิทัลที่เปิดขายผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” จำนวนกว่า 5 ล้านใบ ได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดีถูกขายหมดเป็นที่เรียบร้อยภายในระยะเวลา 4 วัน ความเคลื่อนไหวล่าสุด นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาที่กำหนด กล่าวว่าเบื้องต้นการจำหน่ายสลากงวดวันที่ 16 มิ.ย. และวันที่ 1 ก.ค. ยังเปิดขายในจำนวนเท่าเดิมก่อน ส่วนกระแสเรียกร้องให้เพิ่มจำนวนสลากดิจิทัลให้เกิน 5,000,000 ใบ จะต้องนำผลการจำหน่ายในแต่ละงวดมาวิเคราะห์จำนวนที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากจำนวนสลากที่จำหน่ายออกไปว่าขายหมดหรือไม่ เพื่อจะได้ไม่ให้ตัวแทนขาดทุน ซึ่งในงวดแรกยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากผู้คนยังคงตื่นเต้นกับสินค้าใหม่อยู่ นายชาญกฤช กล่าวต่อว่าปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาจำหน่ายในรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก ซึ่งคล้ายกับสลากปัจจุบัน และสลากตัวเลข 3 หลัก ซึ่งคล้ายกับหวยใต้ดิน 2 ตัว 3 ตัว ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งหากได้รับความเห็นชอบก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อเป็นการแก้ไขสลากเกินราคา ปัญหาหวยเถื่อน ซึ่งดำเนินการภายใต้กรอบกฏหมายกำหนด

“สลากดิจิทัล” ราคา 80 บาท ขายผ่านแอปฯ เป๋าตัง ถูกขายหมดเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากกองสลากฯ เปิดขาย “สลากดิจิทัล” ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังในราคา 80 บาท ปรากฏว่าได้กระแสตอบรับจากประชาชนในการเข้าไปเลือกซื้อเป็นอย่างมาก สลากถูกขายหมดไปเรื่อย ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุด วันนี้ (6 มิถุนายน 2565) สลากฯ จำนวน 5,279,500 ฉบับ ถูกขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อย โดยข้อความบนแอปพลิเคชันเป๋าตัง แจ้งว่า “สลากดิจิทัลงวดนี้ถูกขายหมดแล้ว ขอบคุณที่ให้ความสนใจ โปรดติดตามสลากฯ รอบใหม่ได้ในงวดถัดไป”

เริ่มวันนี้! ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเปิด Walk in ฉีดโมเดอร์นาฟรี

ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิด Walk in ให้ประชาชนเข้ามารับการฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเข็ม 1-5 ฟรี เริ่มวันนี้ตั้งแต่ 9.00-15.00 น. จนกว่าวัคซีนจะหมด สำหรับรายละเอียดการฉีด มีดังต่อไปนี้ เข็มที่ 1 : สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนใดมาก่อน จะได้รับเป็นสูตรไขว้ (Md-Pz) เข็มที่ 1 วัคซีนโมเดอร์นา เข็มที่ 2 วัคซีนไฟเซอร์ ระยะห่าง 28 วัน เข็มที่ 2,3,4,5 : วัคซีนโมเดอร์นา โดยระยะห่างขึ้นอยู่กับชนิดวัคซีนในเข็มก่อนหน้า ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการฉีดจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้น สามารถเข้ารับบริการได้ที่ประตู 1 โดยวัคซีนโมเดอร์นา ที่ได้รับสนับสนุนมามีจำนวนจำกัดจะหยุดให้บริการเมื่อวัคซีนหมด ส่วนผู้ที่จองคิวเข็มที่ 3,4 วัคซีนไฟเซอร์แล้ว สามารถแจ้งความประสงค์ที่เจ้าหน้าที่ลงทะเบียนเปลี่ยนเป็นวัคซีนโมเดอร์นาได้ อีกทั้งเข็มกระตุ้น สามารถเลือกรับบริการรูปแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อเต็มโดส / กล้ามเนื้อครึ่งโดส / ชั้นผิวหนัง ผู้ที่ประสงค์หรือต้องการรับวัคซีนที่มากกว่าเข็มที่ 4 สามารถขอปรึกษาแพทย์ก่อนได้ ทั้งจากระยะเวลาการให้วัคซีนชนิดวัคซีน […]

เงินเฟ้อเล่นงาน! ราคาเบียร์ในกรุงลอนดอนพุ่งสูงเฉลี่ยไพน์ละ 343 บาท แบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แม้ว่าลอนดอนจะถูกพูดถึงมานานว่าเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายในเรื่องต่าง ๆ ที่ค่อนข้างสูง แต่ดูเหมือนว่าภาวะเงินเฟ้อยิ่งทำให้ต้นทุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ไม่อาจหลีกหนีเรื่องนี้ได้พ้น “เบียร์” เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่โดนภาวะเงินเฟ้อเล่นงาน โดยราคาเบียร์ต่อไพน์ในกรุงลอนดอนที่เพิ่มมากกว่า 70% นับตั้งแต่ปี 2008 ที่มีวิกฤตการเงิน ซึ่งตกอยู่ไพน์ละ 8 ปอนด์ (ประมาณ 343 บาท) เป็นครั้งแรกของอังกฤษที่สถานบันเทิงต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อ ตามการวิจัยโดย CGA พบว่าค่าเฉลี่ยราคาเบียร์ต่อไพน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 70% นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินเมื่อ 15 ปีที่แล้ว โดยเพิ่มจาก 2.3 ปอนด์ต่อไพน์ มาสู่ 3.95 ปอนด์ต่อไพน์ และมีแนวโน้มที่จะราคาสูงขึ้นอีก เนื่องจากต้นทุนของข้าวบาร์เลย์ในการผลิตเบียร์ได้รับผลกระทบจากแรงกดดันสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อีกทั้ง เมื่อดูราคาผู้บริโภคโดยเฉลี่ยเพียงอย่างเดียวจากเดือนมกราคม 2008 ถึงเมษายน 2022 จะพบว่าราคาต้นทุนต่อไพน์จะอยู่ที่ 3.35 ปอนด์ รายงานของ CGA ที่สุ่มสำรวจราคาสถานบันเทิง ผับ บาร์ ในสหราชอาณาจักรมากกว่า 5,500 แห่ง จากทั้งหมด 90,000 […]

แรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอล มีรายได้ขั้นต่ำ 50,000 กว่าบาทต่อเดือน

กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่อิสราเอลในปี 2565 ภายใต้โครงการความร่วมมือไทย – อิสราเอลเพื่อการจัดหางาน (Thailand-Israel Cooperation on the Placement of Workers: TIC) ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2565 จำนวน 2,775 คน ตลอดเดือนมิถุนายนนี้ กรมการจัดหางานมีแผนการจัดส่งแรงงานไทยไปอิสราเอลอีก 800 คน โดยแรงงานไทยจะได้รับเงินเดือนขั้นต่ำก่อนหักภาษีเดือนละ 5,300 เชคเกล หรือประมาณ 53,981 บาท (ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้น) ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งแรงงานไทยไปต่างประเทศในปี 2565 สามารถส่งรายได้กลับประเทศมากถึง 82,506 ล้านบาท ผู้สนใจไปทำงานต่างประเทศสามารถติดตามดูประกาศรับสมัครได้ที่ www.doe.go.th/overseas สอบถามรายละเอียดที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

มาเอง! ไบเดนเตรียมเยือนซาอุฯ ถกเรื่องน้ำมันหวังฉุดราคาให้ต่ำลง และลงโทษรัสเซีย

มีรายงานว่าโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมเยือนซาอุดีอาระเบียในเดือนนี้เพื่อเข้าพบ มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน โดยขอทิ้งคำที่เคยให้ไว้กับซาอุดีอาระเบียเป็น “คนนอกคอก” ในคดีฆาตกรรมจามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์ แผนการเยือนกรุงริยาดถูกรายงานโดยสำนักข่าววอชิงตันโพสต์ และนิวยอร์กไทม์ โดยไบเดนให้ความสำคัญกับความต้องการในลดราคาน้ำมัน และลงโทษรัสเซียต่อกรณีรุกรานยูเครน เพื่อแสดงจุดยืนด้านมนุษยชน ซึ่งการเยือนในครั้งนี้ถูกเพิ่มเข้ามาจากแผนการเดินทางที่วางไว้ก่อนหน้านั้น คืออิสราเอล, เยอรมนี และสเปน ด้านทำเนียบขาว ออกมาเผยว่ายังไม่มีแผนการเดินใหม่ที่จะประกาศ แต่สร้างความชัดเจนว่าไม่มีอุปสรรคใดที่ไบเดนจะพบกับมกุฎราชกุมาร เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาว กล่าวว่าหากเขาพิจารณาแล้วว่าการมีส่วนร่วมกับผู้นำต่างชาติมีความน่าสนใจ และการมีส่วนร่วมดังกล่าวสามารถให้ผลลัพธ์ได้ เขาก็จะทำมัน ในกรณีซาอุดีอาระเบียเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของสหรัฐฯ มาเกือบ 80 ปี ทำให้ไม่มีคำถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และไบเดนมองว่าซาอุดีอาระเบียเป็นพันธมิตรที่จะทำงานร่วมกันทั้งในภูมิภาค และทั่วโลก ที่มา:theguardian

OPEC+ เพิ่มกำลังผลิตน้ำมัน ทดแทนส่วนขาดหายของรัสเซียที่สร้างความเสียหายต่อตลาดพลังงานทั่วโลก

กลุ่ม OPEC และพันธมิตรผลิตน้ำมันทำข้อตกลงที่จะเพิ่มกำลังผลิตในเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เนื่องจากสถานการณ์การบุกยูเครนของรัสเซียได้สร้างความเสียหายกับตลาดพลังงานทั่วโลก โดย OPEC+ จะเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรลต่อวันทั้งในเดือนกรกฎาคม และสิงหาคม เป็นการสิ้นสุดของการลดกำลังผลิตนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้มาจากสถานการณ์ที่โลกกำลังเผชิญกับราคาน้ำมันที่พุ่งสูง และ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้ผู้ผลิตเพิ่มกำลังผลิตเพื่อลดส่วนที่ขาดหายไปของน้ำมันที่มาจากรัสเซียในตลาดโลก ด้าน Karine Jean-Pierre เลขาธิการทำเนียบขาว กล่าวว่าฝ่ายบริหารยินดีกับการประกาศของ OPEC+ โดยเราตระหนักถึงบทบาทของซาอุดีอาระเบียในฐานะประธาน OPEC และผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดได้บรรลุฉันทามติในกลุ่มสมาชิก โดยสหรัฐฯ ยังคงใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการกับแรงกดดันด้านราคาพลังงาน ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ผู้นำสหภาพยุโรปเห็นพ้องที่จะแบนน้ำมัน 90% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรจากสถานการณ์รัสเซียรุกรานยูเครน แม้ว่า OPEC จะเพิ่มกำลังการผลิต แต่ก็มีการมองว่าอาจจะไม่เพียงพอต่อการทดแทนน้ำมันจากรัสเซียที่หายไปจากตลาดพลังงาน 1 ล้านบาร์เรลต่อวันได้ ที่มา: cnbc เรื่องที่เกี่ยวข้อง ซาอุฯ โกยรายได้ 1,000 ล้านดอลลาร์/วัน จากการส่งออกน้ำมัน ท่ามกลางราคาที่สูงขึ้น

สลากฯ 80 บาท ฟีเวอร์ คนแห่ซื้อผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” วันแรกเกิน 2,000,000 ใบ

หลังจากเปิดขายสลากดิจิทัลไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังในราคา 80 บาท พบว่าได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก มียอดจำหน่ายสลากกว่า 2,000,000 ใบ ข้อมูลหลังการปิดจำหน่ายเมื่อเวลา 23.00 น. ของวันที่ 2 มิ.ย.65 มียอดจำหน่ายสลากดิจิทัลจำนวน 2,460,723 ใบ จากผู้ซื้อสลากจำนวน 612,141 คน นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่าการเปิดขายสลากดิจิทัลวันแรกได้รับผลตอบรับที่ดีจากประชาชน จากปัจจัยที่เป็นเรื่องใหม่ รวมถึงสลากฯ ราคา 80 บาท สามารถซื้อได้จริง โดยปัจจุบันมีสลากทั้งหมดที่เปิดขายบนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จำนวน 5,279,500 ฉบับ ซึ่งการเพิ่มจำนวนสลากในอนาคตต้องพิจารณาตามความเหมาะสมที่ต้องให้สลากแบบใบ และแบบออนไลน์สามารถขายควบคู่กันไปได้ นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังเปิดร้านสลาก 80 บาท จำนวน 362 จุดในกรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ภาคเหนือ และภาคใต้ คาดการณ์ว่าจะแล้วเสร็จจำหน่ายสลากราคา 80 บาท […]

THAI SME-GP ยอดพุ่ง SME ขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 1.32 แสนราย สร้างแต้มต่อเข้าถึงงานภาครัฐ มูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท

สสว. ร่วมกับกรมบัญชีกลาง สร้างระบบ THAI SME-GP หนุนแต้มต่อให้ผู้ประกอบการไทยเข้าถึง งานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้มากขึ้น ผลตอบรับดีเกินคาด มียอดผู้ประกอบการขึ้นทะเบียนในระบบกว่า 1.32 แสนราย มีข้อมูลสินค้าบริการกว่า 1 ล้านรายการ ตั้งเป้า ปลายปีนี้ มีเอสเอ็มอีที่ขึ้นทะเบียนในระบบรวมกว่า 1.4 แสนราย และสามารถสร้างมูลค่าจากการรับงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นมูลค่าสูงถึง 700,000 ล้านบาท โดยจะขยายไปสู่ตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาคเอกชนในอนาคตต่อไป นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “THAI SME-GP รัฐพร้อมซื้อ SME พร้อมขาย” เป็นมาตรการสำคัญที่กรมบัญชีกลาง ร่วมกับ สสว. ส่งเสริมสนับสนุนให้เอสเอ็มอี เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ง่าย โดยกำหนดแต้มต่อสำหรับเอสเอ็มอีในการเสนอราคาสูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของราคาต่ำสุด และการจัดซื้อจัดจ้างวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท โดยให้เลือกจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เป็นลำดับแรก อีกทั้งยังให้สิทธิพิเศษสำหรับเอสเอ็มอี ที่มีสินค้าได้รับการรับรอง Made in Thailand (MiT) สามารถเสนอราคาสูงกว่าราคาต่ำสุดได้ร้อยละ 15 […]

สัญญาณขาดแคลนอาหาร! สิงคโปร์เผชิญวิกฤตข้าวมันไก่ หลังมาเลเซียระงับการส่งออกไก่

สถานการณ์เงินเฟ้อทำให้หลายประเทศเลือกที่จะระงับการส่งออกสินค้าของตัวเอง เพื่อให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ กลับกันย่อมส่งผลกระทบต่อประเทศนำเข้าสินค้าที่อาจนำมาสู่ภาวะขาดแคลนได้ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ที่กำลังเผชิญกับราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น และคาดการณ์ว่าข้าวมันไก่อาจจะขาดตลาด เนื่องจากมาเลเซียซึ่งเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่เลือกที่จะระงับการส่งออกไก่ทั้งหมด มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. สถานการณ์ตอนนี้ร้านอาหาร และแผงลอยริมถนนในเมืองต้องพบกับราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น หรือบางร้านปิดตัวลงไปเลยก็มี เนื่องจากมาเลเซียส่งออกวัตถุดิบน้อยลง และต้องหยุดชะงัก เพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตอาหารขาดแคลนทั่วโลก การสั่งห้ามส่งออกของมาเลเซียเป็นสัญญาณล่าสุดที่ชี้ให้เห็นว่าโลกกำลังขาดแคลนอาหาร จากผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน, สภาพอากาศแปรปรวน และการหยุดชะงักของอุปทานที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ ตลอดจนการแย่งชิงอาหารภายในประเทศ, อัตราเงินเฟ้อเรื่องอาหารที่เพิ่มสูง นำมาสู่การประท้วงในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เจนตินา, อินโดนีเซีย, กรีซ และอิหร่าน Daniel Tan เจ้าของร้านข้าวมันไก่ OK Chicken Rice กล่าวว่าการแบนส่งออกของมาเลเซียเป็น “หายนะ” สำหรับพ่อค้าแม่ค้า นั่นหมายความว่าเราจะไม่มีวัตถุดิบมาขายได้อีกต่อไป เหมือนกับ McDonald’s ที่ไม่มีเบอร์เกอร์ โดยปกติเราจะใช้ไก่เป็นจากมาเลเซีย แต่ต่อไปอาจจะต้องเปลี่ยนมาใช้ไก่แช่แข็งภายในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะกระทบยอดขายอย่างหนักหน่วง เพราะลูกค้าไม่อาจตอบสนองต่อคุณภาพที่เปลี่ยนไปของอาหาร แม้ว่าสิงคโปร์จะเป็นประเทศที่มีความร่ำรวย แต่มีพื้นที่ในเมืองเพียง 730 ตารางกิโลเมตร โดยส่วนใหญ่ต้องอาศัยการนำเข้าอาหาร, พลังงาน และสินค้าอื่น ๆ ซึ่งไก่เกือบทั้งหมดนำเข้าจากมาเลเซีย คิดเป็น 34%, […]

เริ่มวันนี้! อยากซื้อลอตเตอรี่ 80 บาท บนแอปฯ “เป๋าตัง” ต้องทำอย่างไร

หลังจากมีการนำเสนอมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ต่อไปประชาชนสามารถที่จะซื้อลอตเตอรี่ราคา 80 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน เป็นต้นไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีของผู้เกี่ยวข้องในเรื่องการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา วันนี้เป็นวันแรกที่มีการเปิดขายสลากดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ในราคา 80 บาท โดยข้อมูลเบื้องต้น พบว่ามีผู้จำหน่ายสลากดิจิทัลเข้าร่วม 10,258 ราย มีสลากจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม 5 ล้านฉบับ ซึ่งเปิดจำหน่ายตั้งแต่เวลา 06.00 -/23.00 น.ของทุกวัน (ยกเว้นวันออกรางวัลสามารถซื้อได้ถึง 14.00 น.) อย่างไรก็ตาม ยังมีเงื่อนไข และรายละเอียดที่ควรรู้ คือผู้ซื้อต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี และการจ่ายเงินต้องจ่ายผ่าน G-Wallet เท่านั้น โดยขั้นตอนการเลือกซื้อสลากทำได้ ดังต่อไปนี้ 1.เข้าไปที่แอปฯ เป๋าตัง และเลือกบริการ หลังจากนั้นเลือกสลากกินแบ่งรัฐบาล 2.เลือกซื้อสลากดิจิทัล 3.เลือกค้นหาร้านค้า 4.เลือกดูร้านค้า เพื่อเลือกสลากของร้านนั้น ๆ หรือค้นหาเลขจากสลากทั้งหมด โดยใส่เลขที่ต้องการ แล้วเลือกค้นหาเลข 5.ตรวจสอบสลากที่เลือก และกดชำระเงินภายใน 15 นาที นับจากเลือกซื้อสลากใบแรก […]

มีเงิน 100 บาทก็ซื้อได้! คลังเปิดขายพันธบัตร “ออมเพิ่มสุข” ดอกเบี้ย 2.9-3.6% ต่อปี

กระทรวงการคลังเตรียมเปิดขายพันธบัตร “ออมเพิ่มสุข” วงเงิน 55,000 ล้านบาท ดอกเบี้ย 2.9-3.6% ต่อปี เริ่มวันที่ 13 มิ.ย. นี้ สำหรับพันธบัตรออมทรัพย์รุ่นออมเพิ่มสุข จะแบ่งเงื่อนไขการขายพันธบัตร ดังต่อไปนี้1.รุ่น #ออมเพิ่มสุข (ขายผ่านวอลเล็ต สบม.) วงเงิน 10,000 ล้านบาท จะขายให้ประชาชน 2 รุ่น ได้แก่ -รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 2.90 ต่อปี -รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันไดเฉลี่ยร้อยละ 3.60 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ซื้อได้ตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป ลงทุนได้ตั้งแต่ 100 บาท – 10 ล้านบาท จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 13–30 มิถุนายน 2565 2. .รุ่นออมเพิ่มสุข (ขายผ่านธนาคาร) […]

แซลมอนในแหล่งเพาะเลี้ยงขนาดใหญ่ที่นิวซีแลนด์ ตายนับพันตัวสร้างความวิตกต่อราคาที่อาจพุ่งสูงขึ้น

King Salmon ฟาร์มเลี้ยงปลาแซลมอนของนิวซีแลนด์เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนเล่นงาน จนทำให้ปลาที่อยู่ในฟาร์มเลี้ยงตายนับพันตัว สร้างความกังวลในตลาดโลกที่ราคาอาจเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ผู้เลี้ยงปลาแซลมอนของ King Salmon กล่าวว่าฟาร์มบางแห่งต้องปิดทำการลง หลังน้ำทะเลมีอุณหภูมิร้อนจัด ส่งผลให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก โดยนิวซีแลนด์ถือว่าเป็นผู้ผลิตแซลมอนพันธุ์ Chinook รายใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีมูลค่าสูงดึงดูดเป็นสินค้าพรีเมียมในตลาดโลก ผ่านส่วนแบ่งคิดเป็น 85% ของตลาดทั่วโลก ปัจจุบันน้ำทะเลมีความร้อนมากขึ้นส่งผลให้ปลาในบางพื้นที่ตายเป็นจำนวนมากก่อนที่จะโตเต็มที่ โดยปลานับพันตัวต้องตายก่อนที่จะขายทิ้งให้เกษตรกรต้องนำปลาไปเททิ้งในหลุมฝังศพในท้องถิ่น Grant Rosewarne หัวหน้าผู้บริหารของ King Salmon กล่าวว่าเราควรมีระฆังเตือน ตนไม่เคยได้ยินคำว่า “คลื่นความร้อนใต้ทะเล” มาก่อน เราควรมีเวลามากขึ้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นกระบวนการที่ช้า แต่เร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด เป็นเรื่องปกติที่ปลาในฟาร์มจำนวนเล็กน้อยจะตายในแต่ละปี แต่อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นเป็นสัญญาณอย่างมีนัยสำคัญว่าจำนวนปลาอาจตายเพิ่มมากขึ้น โดยในปี 2022 บริษัท King Salmon มีปลาในฟาร์มตายถึง 42% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2018 ที่คิดเป็น 18% เท่านั้น แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนำมาสู่ผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทที่อาจขาดทุนมหาศาล โดย King Salmon หวังว่ารัฐบาลนิวซีแลนด์จะยื่นมือเข้ามาช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น และสิ่งที่ต้องจับตามองต่อจากนี้ คือราคาแซลมอนในตลาดโลกที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับราคาสูงขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่ง มาคราวนี้อาจราคาอาจปรับสูงขึ้นอีก […]

คนอเมริกาหนุนคว่ำบาตรรัสเซียน้อยลง เพราะสิ่งที่ทำกลับมากระทบเศรษฐกิจสหรัฐฯ

เป็นที่ทราบกันดีว่าสหรัฐฯ เป็นประเทศผู้นำที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่รัสเซียส่งกองทัพบุกเข้าไปในยูเครน จนนำมาสู่มาตรการคว่ำบาตรเพื่อเป็นการกดดันรัสเซีย ทั้งเรื่องของแบนการซื้อเชื้อเพลิง, การทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งมาตรการเหล่านี้ได้ออกมาเป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ตาม การออกมาคว่ำบาตรรัสเซียไม่ได้เป็นผลดีเสมอไป เพราะการกระทำที่เกิดขึ้นได้ย้อนกลับมาทำลายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เช่นกัน แม้ในช่วงแรกประชาชนจะเห็นด้วย แต่มาวันนี้เสียงสนับสนุนจากชาวอเมริกันเริ่มลดลง ผลสำรวจของสำนักข่าวเอพี และศูนย์วิจัยกิจการสาธารณะนอร์ก เปิดเผยว่าชาวอเมริกันที่สนับสนุนการลงโทษรัสเซียขัดแย้งกับยูเครนมีจำนวนน้อยลง หากการลงโทษดังกล่าวกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยผลการสำรวจได้แบ่งความคิดเห็นของประชาชนพบว่า ผู้ใหญ่ชาวสหรัฐฯ ร้อยละ 45 ให้ความสำคัญอันดับแรกของประเทศควรเป็นการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ขณะที่ร้อยละ 51 การคว่ำบาตรควรจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม ซึ่งผู้เข้าร่วมสำรวจร้อยละ 55 ระบุว่าการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดควรเป็นความสำคัญอันดับแรกของประเทศ จากรายงานชี้ให้เห็นว่าเหตุผลที่ทำให้ความคิดของชาวอเมริกันเปลี่ยนแปลงไปนั้นมาจากราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน, สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ จนส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของหลายครัวเรือน และสร้างความตึงเครียดให้กับประชาชน ที่มา: xinhuathai

กรมการค้าภายใน แตะเบรกยังไม่ให้ “เป๊ปซี่” ปรับขึ้นราคา

กรมการค้าภายในยืนยันว่าเป๊ปซี่ยังไม่ปรับขึ้นราคาทุกขนาด 1-2 บาท ตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดยการพิจารณาต้องมีความสอดคล้องกับต้นทุน และไม่กระทบกับผู้บริโภค นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข่าวว่าบริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมยี่ห้อ เป๊ปซี่ จะปรับราคาจำหน่ายทุกขนาดทุกแพ็คเกจ 1 – 2 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 65 กรมฯ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทผู้ผลิตดังกล่าวแล้ว ได้รับการยืนยันว่ายังไม่ได้จะปรับราคาในวันที่ 1 มิ.ย.65 ตามที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการได้ชี้แจงว่าปัจจุบันต้นทุนค่าบรรจุภัณฑ์ทั้งเมล็ดพลาสติก กระป๋อง และค่าขนส่งได้ปรับสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง ทางกรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด กรณีมีการปรับราคาจะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้นและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคมากจนเกินไป หากตรวจพบว่ามีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร กักตุนสินค้าและปฏิเสธการจำหน่าย จะมีโทษจำคุก 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งหากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการสามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

ซาอุฯ โกยรายได้ 1,000 ล้านดอลลาร์/วัน จากการส่งออกน้ำมัน ท่ามกลางราคาที่สูงขึ้น

ซาอุดีอาระเบียทำเงินได้ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อวันจากการส่งออกน้ำมัน เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่พุ่งสูงขึ้น ตามรายงานของ สำนักงานสถิติซาอุดีอาระเบีย ระบุว่าการส่งออกน้ำมันออกจากราชอาณาจักรมีมูลค่าคิดเป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือน มี.ค. โดยการผลิตน้ำมันดิบได้เพิ่มขึ้นเป็น 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนดังกล่าว ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 112 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สร้างกำไรเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน เพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และเฉพาะปีนี้เท่านั้นราคาได้เพิ่มขึ้น 50% สาเหตุที่ทำให้น้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงอย่างรวดเร็วเกิดขึ้นท่ามกลางความไม่สงบจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่ดำเนินมานานกว่า 3 เดือน ซึ่งสร้างความสั่นสะเทือนให้กับตลาดทั่วโลก รวมถึงน้ำมันดิบ แม้ว่าจะมีภาวะสงคราม และการหลีกเลี่ยงการส่งออกน้ำมันของรัสเซียไปยังชาติตะวันตก แต่ทางด้านกลุ่มประเทศ OPEC+ ตัดสินใจที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในอัตราเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้ามาเติมช่องว่างที่ขาดหายของน้ำมันจากรัสเซียที่จะส่งไปยังสหภาพยุโรป (EU) อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ต่างออกมากดดันให้ซาอุดีอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่ม แต่ผลผลิตน้ำมันที่พอประมาณ และราคาที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลรับที่ก่อให้เกิดกับราชอาณาจักรอย่างมหาศาล ที่สามารถผ่านงบประมาณเกินดุล 57.5 พันล้านริยัล ระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่เผยว่าซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกในปีนี้ แม้ว่าจะเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย แต่รัฐมนตรีพลังงานออกมาเตือนว่าเดือนนี้กำลังการผลิตพลังงานทุกภาคส่วนทั่วโลกลดน้อยลง ท่ามกลางความต้องการน้ำมัน และผลิตภัณฑ์กลั่นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ที่มา: worldoil, middleeastmonitor […]

จับตา! คนอินเดียแห่มาท่องเที่ยวไทยเป็นอันดับ 1 คาดปี 65 จะมาห้าแสนคน ทำเงิน 22,500 ล้านบาท

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับนโยบายที่จะทำให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แน่นอนว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บรรยากาศการเดินทางที่เคยคึกคักกลายเป็นเรื่องเงียบเหงา สร้างผลกระทบมหาศาลให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง การเปิดประเทศกลับมาอีกครั้งถือเป็นการส่งสัญญาณบวกว่าสถานการณ์ใกล้กลับสู่สภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม แต่ก่อนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาไทยส่วนใหญ่จะเป็นจากประเทศจีน แต่ด้วยมาตรการจากทางฝั่งจีนที่ยังกำหนดมาตรการเรื่องการเดินทางอยู่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากแดนมังกรยังคงไม่กลับมาเหมือนเมื่อก่อน แต่มีสถิติที่น่าสนใจ คือนักท่องเที่ยวจากประเทศอินเดียที่เดินทางมายังประเทศไทยเกินกว่า 1 แสนคน โดยข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและระบบ Thailand Pass ระบุว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-24 พ.ค.65 “อินเดีย” เป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยมากที่สุด จำนวน 100,884 คน จากปัจจัยเรื่องการผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ และมีเที่ยวบินรองรับการเดินทาง จากแนวโน้มการเดินทางทำให้ ททท. มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอินเดียมาไทยเฉลี่ย 3,000 คน ผ่านการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งการส่งเสริมการขาย และการตลาดอินเดีย รวมถึงวางแผนเปิดเส้นทางบินเชื่อมโยงพื้นที่ใหม่ ๆ ระหว่างอินเดีย และไทย ส่งเสริมการตลาดร่วมกับบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ เพื่อกระตุ้นการเดินทางปลายปี 65 โดยเจาะกลุ่มความสนใจพิเศษ พร้อมทั้งวางแผนให้คู่แต่งงานชาวอินเดียกว่า 400 คู่ มาจัดงานที่ไทยในช่วงปลายปี ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ย.65 จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 5 […]

เช็กเลย! 31 จังหวัด นำร่องถอดแมสก์ เริ่มเดือน มิ.ย. นี้

เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยกำลังประกาศให้โรคโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม นั่นหมายความว่ามาตรการต่าง ๆ จะถูกผ่อนคลายลง รวมถึงการใส่หน้ากากอนามัยที่ประชาชนต้องสวมใส่มาเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี โดยล่าสุด กระทรวงสาธารณสุขเตรียมปรับมาตรการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งนพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พูดถึงเรื่องนี้ว่า การถอดหน้ากากอนามัยในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ต้องพิจารณาเป็นรายพื้นที่ เช่น สถานที่กลางแจ้งอาจไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งจะนำร่องในสถานที่ที่มีความพร้อม ซึ่งท้ายสุดต้องแจ้งให้กับ ศบค. ทราบเพื่อพิจารณา อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่แนะนำว่ายังต้องใส่หน้ากากอนามัยอยู่ คือ 1.กลุ่มผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยง 608 2.กลุ่มที่อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก 3.ผู้ที่รวมกลุ่มทำกิจกรรมจำนวนมาก สำหรับ 31 จังหวัดนำร่องถอดแมสก์ เริ่มเดือน มิ.ย. นี้ จะแบ่งเป็นพื้นที่สีเขียว 14 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท, พิจิตร, อ่างทอง, น่าน, มหาสารคาม, ยโสธร, นครพนม, ลำปาง, อำนาจเจริญ, บุรีรัมย์, ตราด, สุราษฎร์ธานี, […]

พาณิชย์ยังไม่อนุญาตให้ปรับขึ้นราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หากทำโดยไม่บอกกล่าวผิดกฎหมาย

หลังจากมีกระแสข่าวว่าแบรนด์ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “ยำยำ” มีการปรับราคาขายส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 10 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. นั้น เรื่องนี้ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ทำการตรวจสอบข้อมูล พบว่าเป็นการปรับขึ้นราคาส่ง ไม่ได้ปรับราคาปลีก โดยจะมีการปรับส่วนลดทางการค้าให้กับผู้ค้าส่งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. แทน จากต้นทุนการผลิต และต้นทุนค่าขนส่งปรับสูงขึ้นในหลายส่วน ทั้งราคาแป้งสาลี, ราคาน้ำมันปาล์ม และราคาน้ำมันดีเซล โดยยืนยันว่าราคาขายปลีกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยังคงเป็นซองละ 6 บาทเท่าเดิม อีกทั้ง ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรายำยำว่าในเดือนนี้ยังไม่ได้มีการปรับส่วนลดทางการค้าตามที่เป็นข่าว แต่กำลังจะมีการปรับลดส่วนลดในช่วงของการค้าส่ง ซึ่งเป็นกระบวนการทางธุรกิจ และจะต้องไม่กระทบต่อราคาขายปลีกที่ผู้บริโภคได้รับ เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องขออนุญาตจึงจะปรับราคาขายปลีกได้ ซึ่งขณะนี้กรมฯ ยังไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นราคา ทั้งนี้ หากผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายรายใดปรับราคาโดยพละการถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการฯ

ปูตินขอบคุณพระเจ้าที่บริษัทต่างชาติถอนตัวออกจากรัสเซีย เพราะเป็นเรื่องดีที่บริษัทท้องถิ่นจะเข้าแทนที่

ปูตินยินดีบริษัทต่างชาติถอนธุรกิจออกจากรัสเซีย เพราะจะได้เป็นโอกาสอันนี้ที่จะทำให้บริษัทท้องถิ่นเข้ามาแทนที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพฤหัสที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า ตนรู้สึกยินดีที่บางบริษัทต่างชาติถอนตัวออกจากรัสเซีย เพราะว่าธุรกิจท้องถิ่นจะได้เข้ามาแทนที่ และตนขอเตือนชาติตะวันตกว่ารัสเซียยังคงค้นหาวิธีการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง และสินค้าฟุ่มเฟือย ปูตินยังพูดเสริมว่าการรุกรานยูเครนเป็นจุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์รัสเซีย เป็นการปฏิวัติของรัสเซียต่อสหรัฐฯ ชาติที่ทำให้รัสเซียมีภาพลักษณ์ไม่ได้ตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี 1991 นอกจากการสูญเสียที่เกิดขึ้นในสงครามแล้ว มีความพยายามจากโลกตะวันตกที่ต้องการลงโทษรัสเซียด้วยการกดดันทางด้านเศรษฐกิจ ทำให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งนำมาสู่ราคาพลังงานเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงน้ำมันสำหรับปรุงอาหาร, ปุ๋ย, ข้าว ที่มีราคาปรับขึ้นสูง นับตั้งแต่ความไม่สงบในยูเครนเกิดขึ้น มีบริษัทต่างชาติที่เข้ามาเปิดธุรกิจในรัสเซีย ไม่ว่าจะเป็น BP ไปจนถึง McDonald ที่ตัดสินใจถอนตัวออกจากรัสเซีย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของรัสเซียเผชิญกับการหดตัวที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต “บางครั้งเมื่อมองดูคนที่จากไป บางทีต้องขอบคุณพระเจ้า เราจะครอบครองตลาด ธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ของพวกเขา พร้อมที่จะเติบโต และมีความปลอดภัยในสนามที่พันธมิตรเราเตรียมไว้ ที่มา: news24

โอกาสมาแล้ว! เปิดรับเด็กจบใหม่ทำงานบนเรือสำราญกว่า 1,000 อัตรา รายได้ 30,000 – 100,000 บาทต่อเดือน

สำหรับนักศึกษาที่จบการศึกษามาใหม่ ๆ และต้องการมองหางาน ตอนนี้เรือสำราญ Princess Cruise และ Halland America Line ได้เข้าหารือกับกรมจัดหางาน เพื่อสรรหาพนักงานสัญชาติไทยเข้าประจำการบนเรือสำราญมากกว่า 1,000 อัตรา เพื่อตอบรับความต้องการบริการเดินเรือที่กำลังจะเริ่มต้นกลางปี 2565 โดยตำแหน่งที่เปิดรับ ได้แก่ กุ๊ก, ผู้ช่วยกุ๊ก, พนักงานเสิร์ฟ, บาร์เทนเดอร์, พนักงานบริการห้องพัก, พนักงานต้อนรับ, ช่างภาพ, เวทีแสงสีเสียง เป็นต้น ซึ่งในระยะเบื้องต้นจะทำงานบนเรือ ครั้งละ 9 เดือน รายได้เดือนละ 30,000-100,000 บาท ตามอัตราค่าจ้างแต่ละตำแหน่ง ไม่รวมค่าตอบแทนพิเศษ อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครงานจะต้องมีประสบการณ์ทำงานบนเรือสำราญ จบการศึกษาสาขาการโรงแรม และมีทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน โทร. 02 245 6712-3 ทั้งนี้ เรือสำราญในหลายพื้นที่ทั่วโลกในเส้นทางอเมริกาเหนือ, อเมริกากลาง, ยุโรป และเอเชียเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้ง ทำให้มีความต้องการแรงงานเพิ่มขึ้น โดยสำหรับคนไทยคาดการณ์ว่าจะมีการจ้างงานถึง 2,000 คน […]

ส่อง! 214 นโยบายของผู้ว่าชัชชาติ มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ-ธุรกิจบ้าง

แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพคนต่อไป คือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระที่ได้คะแนนท่วมท้นจากคนกรุงจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคงหนีไม่พ้นเรื่องนโยบายที่จะเข้ามาบริหาร ขับเคลื่อนกรุงเทพมหานครว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน แน่นอนว่านโยบายก็จะมีหลายหมวดหมู่ด้วยกัน ซึ่งในเนื้อหานี้จะพามาดูนโยบายทางด้านเศรษฐกิจที่มี 30 เรื่องด้วยกัน ดังต่อไปนี้ 1.เพิ่มรถเมล์สายหลักและรอง ราคาถูกราคาเดียว 2.อาสาสมัครเทคโนโลยี (อสท.) ตัวช่วยด้านเทคโนโลยีสำหรับคนกรุงเทพฯ 3.ออกแบบเรื่องราวให้เมือง ผ่าน digital experience economy 4.ดึงอัตลักษณ์ สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ 5.ส่งเสริมให้ผู้ค้าแผงลอยมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพ 6.สร้างการมีส่วนร่วมของผู้ค้าแผงลอย ภาคประชาชน และเอกชนในพื้นที่ ช่วยดูแลพื้นที่การค้า 7.ขึ้นทะเบียนผู้ค้าแผงลอย พร้อมติดตามการดำเนินการ 8.หาพื้นที่ของเอกชนหรือหน่วยงานราชการที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ขายของสำหรับหาบเร่หรือศูนย์อาหาร (hawker center) 9. 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ10.กรุงเทพฯ มั่นใจ ปลอดภัยโควิด 11.จัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ กทม. (กรอ. กทม.) 12.ฝึกอาชีพพัฒนาทักษะยุคใหม่ตอบโจทย์ตลาดงาน 13.ขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการ ผ่านการเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในกรุงเทพฯ 14.ตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดเขต 15.ขยายโอกาส […]

รัสเซียยืนยันคำเดิมชำระหนี้ต่างประเทศเป็นรูเบิลเท่านั้น เพราะโดนแบนห้ามใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ

ความขัดแย้งของโลกยังคงหาบทสรุปไม่ได้ว่าจะมีตอนจบออกมาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ และรัสเซีย ที่ต่างออกมาตรการตัดกำลังกันไปมา เพื่อเป้าประสงค์ที่ตัวเองวางไว้ ที่ผ่านมาหากใครได้ติดตามข่าวสารระหว่างประเทศจะพบว่ารัสเซียถูกแบนห้ามใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ดังนั้น รัสเซียจึงประกาศออกมาว่าจะจ่ายหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเงินรูเบิลเท่านั้น และจะมาบอกว่ารัสเซียจะผิดนัดชำระหนี้ไม่ได้ เพราะเสนอทางออกให้แล้ว กระทรวงการคลังรัสเซีย กล่าวว่าเราจะจ่ายเป็นรูเบิล และเสนอโอกาสในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงินเดิมในภายหลัง แต่กระทรวงไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่จะเกิดขึ้น การที่สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะขยายใบอนุญาตทำให้รัสเซียไม่สามารถชำระหนี้ผ่านสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ การจ่ายเงินต้องใช้สกุลเงินของรัสเซีย โดยครั้งล่าสุดที่รัสเซียผิดชำระหนี้ต้องย้อนกลับไปในปี 1990 ซึ่งอยู่ในช่วงวิกฤตการเงินของเอเชีย แต่สามารถฟื้นตัวจากการผิดนัดด้วยความช่วยเหลือจากนานาชาติ แต่ปัจจุบันรัสเซียกำลังเผชิญกับการถูกคว่ำบาตรทำให้ประเทศส่วนใหญ่ถูกตัดขาดจากระบบการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงปิดกลั้นไม่ให้รัสเซียเข้าถึงกองทุนที่ถืออยู่ในธนาคารสหรัฐฯ เพื่อชำระเจ้าหนี้ต่างประเทศ Anton Siluanov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรัสเซีย กล่าวว่าสถานการณ์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากประเทศที่ไม่เป็นมิตร โดยมุ่งไปที่การทำลายสิทธิการลงทุนชาวต่างชาติในตราสารหนี้ของรัสเซีย สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่เหมือนกับปี 1998 ที่รัสเซียผิดนัดชำระหนี้สกุลเงินรูเบิลในประเทศท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเงินในวงกว้าง แต่ปัจจุบันพวกเรามีเงิน และมีความปรารถนาที่จะชำระเงิน แต่ท่างด้าน Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวว่าหากรัสเซียไม่สามารถหาวิธีทางกฎหมายในการชำระหนี้เหล่านี้ได้ พวกเขาจะผิดนัดชำระหนี้เรา ขณะนี้รัฐบาลรัสเซียพยายามที่จะชำระเงินเป็นสกุลรูเบิล แต่พันธบัตรจำนวนมากไม่ได้รับอนุญาตให้ทำแบบนี้ โดยกำหนดเวลาชำระหนี้ครั้งต่อไป คือวันที่ 27 พฤษภาคม จำนวน 100 ล้านยูโร ผ่านสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ, ยูโร, ปอนด์ […]

อินเดียจำกัดการส่งออกน้ำตาล สร้างความวิตกต่อราคาตลาดโลกที่อาจปรับสูงขึ้น

รัฐบาลอินเดียประกาศแผนควบคุมจำกัดการส่งออกน้ำตาลปริมาณ 10 ล้านตัน ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องของสต๊อกเพียงพอไว้บริโภคภายในประเทศ หลังก่อนหน้านี้ได้มีการสั่งห้ามขายข้าวสาลีมาแล้ว กระทรวงอาหารอินเดีย แถลงว่า เราคำนึงถึงการเติบโตแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนของการส่งออกน้ำตาล และมีความจำเป็นต้องรักษาสต๊อกน้ำตาลในประเทศให้เพียงพอ รวมทั้งปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนด้วยการคงราคาน้ำตาลไว้ โดยรัฐบาลอินเดียจะควบคุมการส่งออกน้ำตาลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2022 เป็นต้นไป ซึ่งโรงงาน และผู้ส่งออกน้ำตาลจำเป็นต้องได้รับอนุญาตการส่งออกจากกระทรวงก่อน สำหรับอินเดีย คือประเทศผลิตน้ำตาลรายใหญ่ และส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากบราซิล โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่าการจำกัดการส่งออกของอินเดียมีความรุนแรงเพียงพอที่จะกระทบต่อราคาทั่วโลก ซึ่งการกระทำของอินเดียในครั้งนี้คล้ายกับรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ หลังเกิดสงครามในยูเครนที่ส่งผลกระทบต่อราคาอาหารปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายส่วน โดยก่อนหน้านี้ มาเลเซียได้ระงับการส่งออกไก่ เริ่มตั้งแต่ 1 มิ.ย., อินโดนีเซียระงับส่งออกปาล์มน้ำมัน เช่นเดียวกับอินเดียที่ระงับการส่งออกข้าวสาลี และบางประเทศได้วางโควตาในการขนส่งธัญพืช ที่มา: timesofindia, economictimes

“อิมแพ็ค” เปลี่ยนพื้นที่รกร้างริมทะเลสาบเมืองทอง เป็นสวนเกษตรปลูกกล้วยกว่า 10,000 ต้น

หากใครที่อยู่ในเมืองทองธานีคงสงสัยกับพื้นที่ทางผ่านถนนทางออกติวานนท์ ซึ่งมีพื้นที่ว่างเปล่าว่าจะเกิดไอเดียอะไรในพื้นที่แห่งนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ IMPACT Arena, Exhibition and Convention Center ได้โพสต์ข้อความชี้แจงเรื่องนี้แล้วว่า หลาย ๆ ท่านที่เดินทางผ่านถนนทางออกติวานนท์คงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี ฝั่งตรงข้ามดับเบิ้ลเลค คอนโดมิเนียม เดิมทีเป็นพื้นที่รกร้าง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นสวนเกษตรขนาดใหญ่ ปลูกกล้วยกว่า 10,000 ต้น จากความประสงค์ของซีอีโอ คุณพอลล์ กาญจนพาสน์ ที่ต้องการนำที่ดินเปล่า 50 ไร่ริมทะเลสาบเมืองทองธานี มาสร้างประโยชน์ทำโครงการเกษตรปลูกต้นกล้วย เพื่อเป็นวัตถุดิบสนับสนุนครัวอิมแพ็คและแบ่งปันช่วยเหลือสังคมในโอกาสต่างๆ รวมถึงการสร้างพื้นที่สีเขียว ส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เมืองทองธานีน่าอยู่ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา โครงการสวนเกษตรแห่งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น โดยการเกลี่ยหน้าดิน จากนั้นเลือกกล้าพันธุ์กล้วยจาก จ. นครนายก 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ กล้วยน้ำว้าและกล้วยหอม ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีต้นทุนน้อย ดูแลง่าย โตไว ออกผลผลิตได้เร็ว มาปลูก และทีมอิมแพ็คช่วยกันดูแลรดน้ำ ตัดหญ้า ผ่านมา 4-5 เดือนต้นกล้วยเหล่านั้นเติบโต และไม่นานคงออกหน่อ ออกผล ให้เก็บเกี่ยวผลผลิตจำนวนมากแน่นอน ที่มา: เฟซบุ๊กแฟนเพจ […]

หุ้นกู้ซีพีออลล์จองซื้อผ่านแอปฯ “เป๋าตัง” ถูกจำหน่ายเต็มวงเงิน 8,000 ล้านบาท หมดเป็นที่เรียบร้อย

วันนี้ (24 พ.ค. 65) เป็นวันแรกที่มีการเปิดขายหุ้นกู้ดิจิทัลซีพีออลล์ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจประชาชนที่อยากจะลงทุนเป็นอย่างทำให้ ทำให้หุ้นกู้ดังกล่าวถูกจำหน่ายเต็มวงเงิน 8,000 ล้านบาทไปเป็นที่เรียบร้อย สำหรับหุ้นกู้ดิจิทัล ซีพี ออลล์ นั้นมีอายุ 5 ปี ให้อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน (ตลอดอายุเงินกู้) โดยเปิดให้จองขั้นต่ำ 1,000 บาท โดยจะเสนอขายผ่านช่องทางออนไลน์วอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อเปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้าถึงหุ้นกู้ได้อย่างเท่าเทียม ตอบโจทย์ความต้องการลงทุนในกิจการที่มีความมั่นคง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมค้าปลีกที่มีศักยภาพในการเติบโต เรื่องที่เกี่ยวข้อง ซีพี ออลล์ เปิดขายหุ้นกู้ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 3.25% ต่อปี ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

ปากีสถานขึ้นดอกเบี้ยเป็น 13.75% เพื่อกู้เงินจาก IMF ให้ผ่าน ขณะที่เงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นที่ 2 ของเอเชีย

ดูเหมือนว่าวิกฤตด้านเศรษฐกิจตกต่ำกำลังรุกคืบในประเทศที่อยู่ภูมิภาคเอเชียกลาง หลังจากก่อนหน้านี้ ศรีลังกาต้องเผชิญกับสถานการณ์ขาดแคลนพลังงาน ไม่มีเงินซื้อน้ำมันมาใช้ในประเทศจนเกิดการประท้วงจากประชาชน รวมถึงมีการคาดการณ์ว่าอีก 2 เดือนข้างหน้าสถานการณ์จะเลวร้ายลงกว่าเดิมอีก อีกหนึ่งประเทศที่ต้องตามติด คือปากีสถาน ที่ตอนนี้ธนาคารกลางได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.5% เป็น 13.75% ซึ่งเป็นการปรับครั้งที่ 2 ในระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน ธนาคารกลางให้เหตุผลว่า นโยบายที่ออกมาในครั้งนี้จะช่วยให้อุปสงค์ที่อยู่ในระดับปานกลางก้าวไปสู่ความยั่งยืนมากขึ้น ในขณะที่ยังคงรักษาการคาดการณ์เงินเฟ้อ และมีความเสี่ยงต่อเสถียรภาพภายนอก โดยประเทศกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ รวมถึงเงินเฟ้อที่มีอัตราสูง, ปริมาณเงินสำรองที่ลดลง และสกุลเงินที่อ่อนค่า นอกจากนี้ มีการมองว่าอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ปากีสถานต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาจากการที่ได้พูดคุยกับ IMF เพื่อบรรลุข้อตกลงเข้าเงื่อนไขเงินช่วยเหลือในรูปแบบของสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเจรจาสำเร็จจะทำให้ปากีสถานรับเงินจำนวน 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากแพ็คเกจกู้ภัยมูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ตกลงไว้เมื่อปี 2019 ด้าน Miftah Ismail รัฐมนตรีคลังปากีสถาน ซึ่งอยู่ที่โดฮามีแนวโน้มที่จะพูดคุยกับ IMF เพื่อขอถอนเงินที่ได้รับการสนับสนุนในภาคน้ำมัน และพลังงานตามที่ตกลงไว้เมื่อเดือนก่อน ไม่เพียงเท่านั้น ปัญหาเงินเฟ้อภายในประเทศยังส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ภายในประเทศที่ปรับตัวขึ้นราคา โดยปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของปากีสถานอยู่ที่ 13% เป็นรองแค่ศรีลังกาที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 30% และมีการคาดการณ์ว่าค่าเงินรูปีของปากีสถานมีแนวโน้มอ่อนค่าลง ที่มา: reuters

สปป.ลาว แนะนำประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น เพื่อสำรองน้ำมันไว้ทำเรื่องที่สำคัญ

สปป.ลาว เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องเผชิญกับวิกฤตพลังงาน โดยเฉพาะเรื่องของน้ำมันที่ปริมาณมีไม่พอกับความต้องการของประชาชนภายในประเทศ เราจึงได้เห็นภาพผู้คนออกมาต่อแถวเพื่อซื้อน้ำมันตามสถานีบริการน้ำมันก่อนที่จะหมดลง ด้วยสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทำให้กระทรวงอุตสาหกรรม และสมาคมการค้าเชื้อเพลิงและก๊าซ สปป.ลาว วอนประชาชนให้ประหยัดการใช้เชื้อเพลิง และงดเดินทางโดยไม่จำเป็น เพื่อสำรองน้ำมันเบนซินใช้ในการทำฟาร์ม และกิจกรรมสำคัญอื่น ๆ ซึ่งการเชื้อเพลิงอย่างประหยัดจะเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาการขาดแคลนนี้ได้ เกษตรกรบางรายถึงกับบ่นว่าพวกเขาไม่สามารถปลูกพืชผลได้ เพราะว่าขาดแคลนน้ำมัน และเรียกร้องให้รัฐบาลรีบแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน Vongsone Phimmavongsa หัวหน้าสาขาวิสาหกิจปิโตรเลียม สปป.ลาว ในจังหวัดคำม่วน พูดถึงสถานการณ์เกี่ยวกับการจัดหาเชื้อเพลิงในท้องถิ่นว่า จังหวัดคำม่วนเป็นอีกหนึ่งในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบขาดแคลนเชื้อเพลิง สถานีบริการน้ำมันบางที่เริ่มไม่มีน้ำมัน นั่นหมายความว่าผู้ขับขี่รถยนต์ไม่สามารถใช้ยานพาหนะของตนเองได้ เช่นเดียวกับบางพื้นที่ สถานีบริการน้ำมันเปิดเพียง 1 หรือ 2 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น และไม่ให้นำภาชนะมาใส่น้ำมัน พร้อมทั้งขายน้ำมันไม่เกินคันละ 400,000 กีบ ส่วนรถรถแทรกเตอร์ไม่สามารถซื้อน้ำมันได้เกิน 20 ลิตรต่อครั้ง โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ สปป.ลาว เรียกร้องข้อจำกัดเดียวกันนี้ในวิสาหกิจปิโตรเลียมในแขวงอื่น ๆ ทั้งในแขวงสาละวัน, เซกอง และเวียงจันทน์ ที่จำกัดการขายน้ำมันคันละ 200,000 กีบ ต่อคัน สถานการณ์ตอนนี้ ทุกจังหวัดใน สปป.ลาว ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม โดยรัฐบาลมีความพยายามด้วยการแก้ไขสถานการณ์ด้วยการมองหาวิธีบรรเทาอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ไม่เอื้ออำนวย […]

“จุรินทร์” กุมบังเหียนประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเอเปค อภิมหาอำนาจ จีน-รัสเซีย-อเมริกา พร้อมหน้า

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค (Ministers Responsible for Trade Meeting: MRT) ณ ห้อง World Ballroom ชั้น 23 โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอต้อนรับท่านรัฐมนตรีการค้าเอเปค ผู้แทนสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่านเข้าสู่การประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปคประจำปี 2022 ซึ่งประเทศไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมขึ้นในรูปแบบกายภาพอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เอเปคมีความจำเป็นต้องจัดการประชุมผ่านระบบออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับการประชุมรัฐมนตรีการค้าครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีได้ร่วมหารือเพื่อกำหนดแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินการเอเปคให้มีความคืบหน้าต่อไป โดยเฉพาะวาระการดำเนินการสำคัญ คือ FTAAP รวมทั้งการส่งเสริมการค้าในระบบพหุภาคีและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการเติบโตในสถานการณ์ โควิด-19 และอนาคต ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพได้กำหนดธีมหลักในการประชุมเอเปคในปีนี้ คือ “Open. Connect. Balance” OPEN คือการเปิดกว้างไปสู่ทุกโอกาสด้านการค้าการลงทุน และการส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจและการขับเคลื่อนการจัดทำ FTAAP ผ่านมุมมองใหม่ที่เรียนรู้จากสถานการณ์โควิด-19 เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ทุกภาคส่วนในสังคม ส่วน CONNECT คือการเชื่อมโยงในทุกมิติโดยเฉพาะการฟื้นฟูการเดินทางระหว่างกันที่สะดวกและปลอดภัย รวมทั้งความเชื่อมโยงทางดิจิทัลและห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค […]

1 … 13 14 15 … 266