เผย 4 เหตุผลหลักที่ทำให้พนักงานคนไหนก็ไม่ทนอยู่


ปัญหาการทำงานที่ใหญ่ที่สุดและหนักใจมากที่สุดไม่ใช่เรื่องการดีลกับลูกค้า แต่เป็นเรื่องของการจัดการพนักงานในทีมต่างหาก เรื่องนี้หัวอกผู้ประกอบการคงเข้าใจดีถึงความปวดหัวที่ต้องคอยวุ่นสัมภาษณ์งานกับพนักงานใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะคนเก่าทำไม่ทน รับมาได้ไม่นานก็ลาออก เหตุผลไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่สู้งาน แต่มันอาจจะมาจากการกระทำของคุณเองก็ได้ที่ไม่สามารถรั้งคนเก่งไว้ให้อยู่กับองค์กรของคุณ

หลอกลวงถึงเรื่องโบนัส
ไม่ว่าใครทำงานก็หวังจะได้เงินเยอะๆ กันทั้งนั้น และเรื่องของโบนัสนี้ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เพราะหลายคนใช้ตัวเลือกนี้ในการสมัครงานเพื่อหวังจะได้กำไรชีวิตในตอนท้ายปี แต่เมื่อคุณรับเขาเข้าทำงานโดยบอกว่าจะมีสวัสดิการโบนัสให้ และไม่สามารถทำได้ตามที่พูดไว้ ก็แน่นอนว่าจะเกิดความผิดหวังในตัวองค์กร ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และต่อให้เก่งแค่ไหนหรืองานสบายยังไงเขาก็ไม่สบายใจที่จะอยู่กับคุณอยู่ดี

ไม่มีความยืดหยุ่นใดๆ
การทำงานทุกวันนี้สามารถที่จะทำที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะร้านกาแฟ ที่บ้าน หรือแม้แต่โรงพยาบาลถ้าถึงคราวเจ็บป่วยจริงๆ ดังนั้นในเรื่องของการฟิกระยะเวลาการเข้างาน ออกงานนั้นแทบจะไม่จำเป็นอีกต่อไป ขอเพียงคุณมีความยืดหยุ่นในสิ่งต่างๆ และวัดผลด้วยค่าของงานก็จะซื้อใจพนักงานได้อย่างง่ายดาย เป็นการนำร่ององค์กรของคุณสู่องค์กรยุคใหม่ตามแบบฉบับของสากล แต่ถ้าคุณยังคงทำงานโดยดูจากเวลาเข้างาน ออกงาน และตีค่าคนสำเร็จคือคนทำงานเกินเวลาล่ะก็ นั่นแปลว่าคุณกำลังให้ค่ากับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ และทำหน้าที่ความรับผิดชอบของตัวเองไม่ได้

สิ่งอำนวยความสะดวกไม่พร้อม
ในทุกๆ องค์กรย่อมต้องเจอความยากง่ายแตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในปัญหาหนักใจของพนักงานที่ทำให้เขาพร้อมใจกันลาออกก็คือ เรื่องของเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่พร้อมแม้แต่อย่างเดียว สิ่งของบางอย่าง เครื่องมือบางชิ้นจะช่วยให้พนักงานทำงานได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นถ้าคุณลงทุนกับมัน แต่เพราะความขี้เหนียวหรือความประหยัดนี้ที่ทำให้พนักงานทำงานหนักจนเกินไป และสุดท้ายก็อยากจะลาออกจากองค์กรเพราะมีที่อื่นสบายกว่ากันในฐานเงินเดือนเท่ากัน

ไม่รู้ความเป็นไปของบริษัท
ทุกคนทำงานก็หวังจะได้เลื่อนขั้นขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือเงินเดือนที่มากกว่าเดิม แต่บางองค์กรก็มีวัฒนธรรมที่ขัดกับหลักความต้องการของพนักงาน โดยเขาจะไม่เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหว หรือไม่ทำให้โปร่งใสว่าใครจะได้รับการเลื่อนขั้น เมื่อไหร่ ยังไง ทำให้พนักงานทำงานโดยไม่มีความหวัง และหมดแรงใจที่จะอยู่ที่องค์กรของคุณต่อไป ในทางกลับกันพนักงานจะรู้สึกมีความสุขมากกว่า และมีใจในการทำงานที่เยอะขึ้นถ้าเขาทราบว่าเมื่อไหร่จะถึงคราวการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง โดยสิ่งเหล่านี้ไม่ควรใช้ระบบอาวุโสเป็นที่ตั้งเท่านั้น แต่ควรวัดจากการทำงานจริง ผลงาน และฝีมือที่ผ่านมาของทุกคน