พนักงาน คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทมาโดยตลอด เรียกได้ว่าบริษัทไหนมีพนักงานดีก็มีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง ทุกบริษัทจึงต่างแสวงหาพนักงานที่ดีและมีคุณภาพ เพื่อเข้ามาร่วมงานกับองค์กรของตนเอง แต่การคัดเลือกพนักงานต้องใช้บรรทัดฐานและหลักเกณฑ์ที่ดีในการพิจารณา เพื่อให้บริษัทได้พนักงานที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
อาจารย์อิศรา ดิสรเตติวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท ที่ปรึกษา ซี เอส อาร์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การที่จะทำให้ พนักงานหรือ คนภายนอก อยากเข้ามาทำงานในองค์กรนั้น ผู้ประกอบการต้องทำให้บุคคลเหล่านั้นมองเห็นความก้าวหน้า มั่นคง และการเติบโตทางสายอาชีพ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า บุคคลนี้ สามารถทำงานได้ตรงกับความต้องการของเรา
เริ่มต้นเลยก็คือ ทางบริษัทต้องคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นของ พนักงาน ว่า เหมาะสมกับตำแหน่งที่เราเปิดรับหรือไม ซึ่งสิ่งนี้วัดได้จากการศึกษาและประสบการณ์ จากนั้นต้องมีการทดสอบและประเมิน ทักษะในการทำงาน เช่น ทักษะด้านภาษา หรือ ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ ต่อมาทดสอบความรู้และทักษะเฉพาะสายงานของแต่ละตำแหน่ง สิ่งเหล่านี้สามารถวัดได้จากการสัมภาษณ์หรือการสอบข้อเขียนที่ทางบริษัทได้จัดทำขึ้น
ในกระบวนการคัดเลือกบุคลากรที่จะเข้ามาทำงานนั้น ต้องดูว่ามีความรู้เพียงพอกับตำแหน่งงานของบริษัทหรือเปล่า ดูอุปนิสัย คุณลักษณะ ทัศนคติ และดูว่าบุคคลนั้นมีความกระตือรือร้นที่จะทำงานมากน้อยเพียงใด และต้องจัดสรรคนที่เข้ามาทำงานให้เหมาะกับตำแหน่งงานด้วย
แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจวัดความสามารถของบุคคลได้ไม่ทั้งหมด ทางบริษัทอาจจัดการแสดงบทบาทสมมุติขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเหตุการณ์ที่พบบ่อยในบริษัท การจัดบทบาทสมมุตินี้ เป็นกรณีศึกษา ว่าถ้าหากเจอเหตุการณ์แบบนี้เขาจะทำอย่างไร สิ่งนี้สามารถยืนยันสมรรถภาพของบุคคล และยังเป็นการวิเคราะห์บุคคลนี้ได้ด้วย
หากทางบริษัทรับบุคลากรที่ไม่มีคุณภาพ หรือ ไม่เหมาะสมกับงานเข้ามาทำงาน จะเป็นการสิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณ ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องจัดหาหาบุคคลที่เป็นมืออาชีพมาร่วมงาน เพื่อให้บริษัทมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จ
ผู้ประกอบการหลายท่านอาจมีคำถามว่า ทำไมเวลาเลือกคนเข้ามาทำงานในบริษัท บุคคลเหล่านั้น ถึงทำงานอยู่ในบริษัทได้ไม่นานหรือบางครั้งผู้ประกอบการอาจไม่ได้บุคคลที่ต้องการ ซึ่งปัจจัยที่สำคัญมีดังนี้
เงินเดือน และการขึ้นเงินเดือนเป็นสิ่งสำคัญ การให้โบนัส หรือการทำให้พนักงานรู้ว่า ถ้าทำงานกับบริษัทนานๆ เขาจะได้อะไรจากบริษัท เช่น ประกันสังคม ซึ่งบริษัท SME จำเป็นต้องมี เนื่องจากส่วนใหญ่ SME มีการทำงานที่หนัก
ลูกจ้างมักมองว่า บริษัท SME ไม่มั่นคง เริ่มต้นเลยก็คือ ผู้ประกอบการต้องมีทิศทางของบริษัทที่ชัดเจน ผู้ประกอบการต้องอธิบายให้พนักงานฟังได้ ทิศทางของบริษัทจะไปทางไหน อนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไร
ผู้ประกอบการมักไม่ฟังความคิดเห็นของพนักงาน ในหลักความเป็นจริงแล้ว ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ของพนักงาน และเมื่อพนักงานทำประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการอาจจะตอบแทนพนักงานด้วยผลตอบแทนระยะยาว บริษัทจะต้องมีการคิดทางเชิงกลยุทธิ์ เพื่อดึงดูดพนักงานให้อยากทำงานกับทางบริษัท
ผู้ประกอบการต้องมีวัดมาตรฐานหรือมีเกณฑ์วัดมาตรฐานบุคลากรให้ชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้เป็นการให้ความเป็นธรรมแก่พนักงาน ผู้ประกอบการต้องแจ้งพนักงานให้ชัดเจนว่าเกณฑ์การวัดของบริษัทเป็นอย่างไร ต้องเขียนโครงให้ชัด ผู้ประกอบการต้องให้ผลตอบแทนที่แตกต่างตามความทุ่มเทของพนักงานแต่ละคน คนใดทำมากก็ให้มาก ทำน้อย ถ้าทางบริษัทมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เมื่อให้ผลตอบแทนแล้วเรายังสามารถอธิบายให้พนักงานแต่ละคนฟังได้ด้วย
การรักษาพนักงานให้อยู่นานๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยหลักการแล้ว ส่วนใหญ่บริษัท SMEs มักมีพนักงานออกบ่อยมา เมื่อพนักงานได้รับการสอนงานจนเก่งแล้ว ก็จะลาออกไปอยู่บริษัทอื่นที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งสิ่งนี้ ผู้ประกอบการต้องพิจารณาผลตอบแทนต่างๆ ที่ทางบริษัทมีให้แก่พนักงาน ว่าเหมาะสมกับงานที่เรามอบหมายให้เขาหรือเปล่า
อีกทั้งก่อนที่ผู้ประกอบการจะรับบุคลากรเข้ามาทำงาน ทางบริษัทต้องกำหนดสิ่งที่ทางบริษัทต้องการก่อน ว่าบุคคลแบบไหนที่เหมาะกับตำแหน่งงาน ผู้ประกอบการควรคัดสรรบุคลากรที่จะเข้ามาร่วมงานให้ดีที่สุด และต้องคำนึงไว้เสมอว่า บุคคลากรที่มีคุณภาพคือแรงผลักดันของบริษัทให้มีความเจริญก้าวหน้า
[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]