เช็กตัวเองดีๆ คุณเป็น “หัวหน้า” หรือ “เจ้านาย”


ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของบริษัท แน่นอนว่าคุณต้องสวมหมวกที่ชื่อว่า “ผู้นำ” ซึ่งหมวกใบนี้คุณจะสามารถควบคุมทุกคนในบริษัทให้ไปในทิศทางเดียวกัน และเชื่อฟังคำสั่งของคุณได้ แต่สีของหมวกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามการกระทำของคุณ ซึ่งมันอาจจะกลายเป็นสีขาว ที่หมายถึงความเป็นผู้นำก็ได้ หรือจะกลายเป็นสีดำ ที่หมายถึงความเป็นเจ้านายก็ได้เช่นกัน และแน่นอนว่าสีทั้ง 2 สีนี้จะส่งผลต่อความรู้สึกของลูกน้องโดยตรงอย่างที่คุณคาดไม่ถึง

ความแตกต่างระหว่าง เจ้านาย และ ผู้นำ

ความแตกต่างระหว่าง เจ้านาย และ ผู้นำ นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่กระบวนการคิด วิเคราะห์ และมุมมองที่คุณมีต่อลูกน้อง ซึ่งสามารถนิยามคร่าวๆ ได้ดังนี้

ผู้นำ : เน้นในด้านของการพัฒนาบุคคล และบุคลากรให้เป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น ไม่ยึดติดกับความคิดตัวเอง แต่เปิดรับฟังความเห็นจากคนรอบตัว ลูกน้องสามารถเสนอความคิดได้ และมองว่าเพราะมีลูกน้องที่ดีจึงทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ
เจ้านาย : ให้ความสำคัญกับการคุมลูกน้องให้อยู่หมัด ทุกคนต้องทำตามคุณ ยึดความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ใช้กฎระเบียบ และผลงานขั้นสุดท้ายที่คนนั้นได้ทำ ในการวัดค่าของคนแต่ละคน มองว่าตัวเองอยู่คนละฐานะกับพนักงาน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความสำเร็จของเขาแต่เพียงผู้เดียว

พนักงานทุกคนอยากมี “หัวหน้า” ที่เป็น “ผู้นำ”

การทำงานให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยการทำงานเป็นทีม ซึ่งทุกวันนี้ หัวหน้าแบบ “เจ้านาย” ไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องอีกเสมอไป เพราะคุณจะสามารถควบคุมคนได้ก็จริง แต่บริษัทของคุณจะไม่มีวิสัยทัศน์ และทำให้ล้าหลังจนตามบริษัทอื่นๆ ที่ร่วมกันแสดงความคิดเห็น ร่วมกันเปลี่ยนแปลง ไม่ทันอย่างแน่นอน ดังนั้นหัวหน้าที่เป้น “ผู้นำ” จึงเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องการ
โดยเฉพาะในยุคที่มีเด็กรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเกิดขึ้นมากมาย และพร้อมจะแสดงฝีมือ และแนวคิดใหม่ๆ เพื่อพัฒนาองค์กรให้เดินหน้าต่อไป ถ้าคุณปิดกั้นเขาเหล่านี้ด้วยหมวกสีดำของความเป้น “เจ้านาย” คุณจะไม่มีวันได้หลุดพ้นจากกรอบเดิมๆ อย่างแน่นอน
ดังนั้นการวางตัวให้เป็นหัวหน้าที่ลูกน้องรักใคร เปลี่ยนตัวเองจากเจ้านายให้กลายเป็น “ผู้นำ” ได้นั้น คุณต้องเริ่มจากการทำสิ่งเหล่านี้…

1. แก้ไขเมื่อเกิดปัญหา
ผู้นำที่ดีจะมองปัญหาเป็นสิ่งที่ควรจะต้องแก้ไข เขาจะไม่มัวมาเสียเวลาหาคนผิดว่าเป็นเพราะใคร แต่จะร่วมด้วยช่วยกันระดมสมองว่าจะสามารถก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ยังไงมากกว่า

2. ใส่ใจความรู้สึกของพนักงาน
ผู้นำที่ดีจะไม่มองพนักงานแค่เพียงคนที่ทำงานให้เขาแค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขาจะมองลึกลงไปถึงความสุขของพนักงานเหล่านั้น ว่ามีความรู้สึกยังไง เกิดปัญหาตรงไหนหรือเปล่า และแน่นอนว่าเขาจะเปิดโอกาสให้พนักงานได้บอกเล่าความในใจออกมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม

3. ชื่นชมพนักงานเมื่อสร้างความดีความชอบ
ผู้นำที่ดีจะต้องไม่เอาความดีความชอบไปแต่เพียงผู้เดียว เขาจะทำการชื่นชมพนักงานอยู่เป็นประจำ ให้กำลังใจและมอบรางวัล เมื่อพนักงานคนนั้นทำความดี ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นการซื้อใจพนักงานได้เป็นอย่างดี ทำให้ทำงานอย่างมีความสุข และรู้สึกแฟร์กับพลังที่เขาลงแรงไป

4. รับฟังทุกคำพูดของลูกน้อง
ผู้นำที่ดีจะรับฟังความคิดเห็นของลูกน้องทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน รวมถึงเรื่องส่วนตัว เขาจะไม่มอบหมายงานที่ทำให้ลูกน้องลำบากใจ แต่จะพูดคุยและหาข้อสรุปที่ลงตัวกับทุกฝ่าย การรับฟังลูกน้องจะทำให้พวกเขาสบายใจที่จะอยู่กับคุณ และมีโอกาสที่จะทำงานกับองค์กรนี้ไปอีกนาน