“ปากต่อปาก” เทคนิคการตลาดง่ายๆ แต่ได้ผลมหาศาล


การตลาดที่ได้ผลมหาศาลและทำให้ลูกค้าหน้าใหม่อยากเข้ามาใช้บริการสินค้าของคุณได้มากที่สุดก็คือ การบอกต่อแบบปากต่อปากนั่นเอง เพราะมันเหมือนเป็นการบอกเล่าจากผู้ที่ได้ใช้งานสินค้าจริงแล้ว ถ้าสินค้าดีจนต้องมีการบอกต่อแบบนี้ ก็จะกระตุ้นลูกค้าหน้าใหม่ๆ หรือคนที่กำลังลังเลที่จะใช้บริการอยู่ได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การบอกต่อนั้นก็เหมือนกับการรีวิวจากลูกค้าจริง ที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และน่าทดลอง ทำให้เกิดความต้องการอยากใช้สินค้าได้ง่ายขึ้นกว่าการใช้ดาราหรือคนมีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยซ้ำ

ซึ่งนี่คือ 5 เทคนิคในการทำการตลาดแบบปากต่อปากให้ได้ผลลัพธ์มหาศาล

1. เข้าใจความต้องการของลูกค้า
อย่างแรกเลยคือ คุณต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายของตัวเองให้ชัดเจนก่อน จะได้เข้าใจว่าต้องขายใคร ต้องเจาะตลาดแบบไหน แล้วจึงศึกษาพฤติกรรมการบริโภคของคนกลุ่มนั้นเพื่อนำข้อมูลต่างๆ มาช่วยกันวิเคราะห์ความต้องการ และเมื่อทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมายแล้วก็จะทำให้สามารถคิดค้น และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ลูกค้าบอกต่อได้ง่ายขึ้น

2. สร้างความพิเศษให้ลูกค้าที่บอกต่อรู้สึกดี
เรื่องง่ายๆ ในการทำการตลาดให้ลูกค้าอยากบอกต่อเยอะๆ ก็คือ เพียงคุณสร้างประสบการณ์พิเศษให้เกิดขึ้นกับลูกค้าทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งคนที่บอกต่อ และคนที่ถูกบอก โดยการมอบสิทธิพิเศษง่ายๆ เช่น ถ้ามีลูกค้ามาใช้บริการ แล้วบอกว่ามีใครแนะนำมา จะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่ม 5% เป็นต้น ก็จะทำให้ลูกค้าที่บอกต่อรู้สึกว่าตัวเองมีพาวเวอร์ และมีอำนาจมากขึ้น ทำให้อยากจะบอกต่อให้คนมาซื้อสินค้าร้านคุณ รวมถึงลูกค้าใหม่ก็อยากจะมาใช้บริการเช่นกัน

3. มีจุดเด่นให้ลูกค้าอยากบอกต่อ
อย่าลืมสร้างจุดเด่นของสินค้าตัวเองขึ้นมาเด็ดขาดเลยครับ เพราะจะทำให้ลูกค้ารู้ว่าจะคุยหรือบอกต่อในส่วนไหนได้บ้าง เช่น คุณอาจสร้างความแตกต่างจากสินค้าคนอื่นๆ โดยการมอบประสบการณ์หลังการขายที่ดี หรือ อาจจะใช้วัสดุที่ไม่เหมือนใคร ใช้การรักษ์โลกมาเป็นประเด็น ก็จะทำให้ลูกค้าที่เคยใช้บริการ มีจุดที่จะสามารถนำไปพูดคุยบอกต่อได้ด้วยว่าสินค้าคุณนั้นดีกว่ายังไง และทำไมต้องใช้บริการคุณ

4. ให้บริการด้วยใจ ตอบคำถามอย่างมีชั้นเชิง
สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ การบริการนั้นสำคัญ คุณต้องมีคำพูดคำจาที่ลูกค้าอ่าน หรือฟังแล้วลื่นหู ไม่มีท่าทีของความไม่ต้อนรับ รวมทั้งต้องตอบคำถามให้เป็นถึงแม้คำถามนั้นคุณจะเขียนอธิบายเอาไว้หมดแล้วหรือโดนถามบ่อยมากก็ตาม การตอบลูกค้าด้วยใจ ให้บริการอย่างเต็มที่ และช่วยเหลือทุกอย่างที่เขาต้องการจะทำให้เขาจดจำแบรนด์ของคุณในด้านดี และพร้อมจะบอกต่อทันทีเวลาที่มีคนขอให้เขาแนะนำ

5. ตีซี้ลูกค้าให้กลายเป็นขาประจำให้ได้
ถ้าสินค้าของคุณเป็นอะไรที่ใช้แล้วหมดไป หรือสามารถซื้อมาใช้ได้บ่อยๆ ก็สามารถใช้วิธีตีสนิทลูกค้าได้เลย เพราะส่วนมากแล้วพฤติกรรมผู้บริโภคมักจะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง มักจะจมปลักอยู่กับร้านเดิมๆ ถ้ารู้สึกว่ามันลงตัว โอเคแล้วก็จะไม่มองหาร้านใหม่อีก ดังนั้นแค่คุณพยายามตีสนิท เรียกชื่อลูกค้าด้วยชื่อของเขา หรือมีสิทธิพิเศษให้เขากลายมาเป็นลูกค้าประจำ ชวนคุยเรื่องอื่นๆ นอกจากเรื่องการขาย ก็จะทำให้เขารู้สึกคุ้นเคย และอยากแนะนำร้านของคุณต่อไป เพราะเขารู้จักกับเจ้าของร้านนั่นเอง