ทุกวันนี้โลกของเรามีการแข่งขันกันทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะกับธุรกิจออนไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นง่าย ทำได้ทุกคน และด้วยความง่ายนี้เอง การลด แลก แจก แถม จึงเกิดขึ้น รวมถึงแข่งขันกันในด้านการให้บริการที่ดี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ชื่นชอบอะไรที่รวดเร็ว หวือหวา ใจร้อนมากขึ้น ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไม่สามารถละเลยการตอบแชทแบบรวดเร็วได้
เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดเครื่องมือต่างๆ และเทคนิคใหม่ๆ ในการตอบแชทขึ้นมามากมายที่จะช่วยให้คุณทำธุรกิจออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว ตรงใจ และให้ข้อมูลกับลูกค้าได้ทันท่วงที ปิดการขายได้ยอดทะลุแสนแบบที่ตั้งใจ
1. ตั้งข้อความอัตโนมัติเอาไว้เลย
อันดับแรกเริ่มด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการเซตตั้งค่าตอบกลับข้อความอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่ Facebook มีมาให้อยู่แล้วครับ เมื่อลูกค้าทักมาครั้งแรก ข้อความอัตโนมัติของคุณจะเด้งขึ้นทันที ซึ่งข้อความตรงนี้คุณต้องตั้งค่าเอง โดยการพิมพ์ว่าจะให้ตอบกลับว่าอะไร
เช่น บอกเงื่อนไขในการใช้บริการคุณเอาไว้เลยว่า ให้ลูกค้าส่งรูปสินค้าที่ต้องการมา พร้อมบอกขนาด บอกปริมาณ และจำนวนที่ต้องการสั่ง หรือโอนเงินพร้อมส่งสลิปหลักฐานการโอนกลับมา และกรอกข้อมูลส่วนตัวต่างๆ
การบอกถึงขั้นตอนการใช้บริการตั้งแต่ข้อความตอบกลับ จะทำให้ลูกค้าหมดคำถามในการสั่งซื้อ และช่วยประหยัดเวลาในการแชทลง ปิดการขายได้ไวขึ้น และสร้างยอดขายได้มากกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด
2. ใครเมนท์อะไรมา ให้ตอบกลับผ่าน Inbox ได้เลย
สำหรับเทคนิคนี้เป็นเคล็ดลับขั้นเซียนที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มือเก๋าเขาทำกัน เนื่องจากการตอบคอมเมนท์ที่ลูกค้าถามมาโดยตรง จะทำให้การสนทนาสิ้นสุดทันที รวมถึงทำให้ลูกค้าที่สนใจสินค้าคนอื่นๆ จะหมดคำถาม ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องให้ข้อมูลสินค้าทุกอย่างจนครบแล้วตั้งแต่ต้น แต่การที่คนยังคอมเมนท์เข้ามา แสดงว่าเขาสนใจ การตอบกลับผ่านทาง Inbox จะช่วยให้เกิดปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างคุณและเขา เป็นพื้นที่ส่วนตัว ที่คุณจะหว่านล้อม และปิดการขายได้ง่ายขึ้น
พร้อมกับที่คุณยังสามารถเสนอโปรโมชั่นพิเศษเอาใจลูกค้าบางท่านได้แบบไม่ต้องกลัวคนอื่นมาทวงขอใช้สิทธิ์บ้างอีกด้วย
3. ทำ Shortcut ข้อความที่ต้องตอบบ่อยๆ เอาไว้เลย
คำถามที่เจอบ่อยๆ ในการขายสินค้า คุณในฐานะเจ้าของแบรนด์ และตอบแชทเองเป็นประจำ ย่อมรู้กันดีว่าจะต้องเจอคำถามไหนบ่อยๆ เช่น หลังลูกค้าสนใจใช้บริการแล้ว ก็มักจะถามว่าโอนเงินที่ไหน ซึ่งคุณสามารถทำภาพเลขบัญชีตัวใหญ่ๆ พร้อมชื่อ นามสกุล และเบอร์โทร ให้ลูกค้าเห็นชัดๆ ได้เลยทันที ดีกว่าคุณต้องมานั่งพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง ซึ่งจะทำให้เสียเวลากว่ากันเยอะมาก อีกทั้งหลังจากโอนแล้ว คุณยังสามารถก็อปปี้ข้อความจาก Shortcut ที่บอกไว้ว่า “โอนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งสลิปหลักฐาน พร้อมชื่อ ที่อยู่ เบอร์ติดต่อ กลับมาได้เลยครับ” มาวางในช่องแชทได้เลยทันที นับว่าประหยัดเวลาในการตอบกลับอย่างมาก และทำให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สะดวก และรวดเร็ว ไม่ต้องเหนื่อยพิมพ์ใหม่บ่อยๆ ด้วย
4. ใช้สถานะบน Chat Facebook ให้เป็นประโยชน์
ใครเคยเล่น MSN มา คงคุ้นเคยกับการตั้งสเตตัส หรือสถานการณ์ออนไลน์เหล่านี้ดี ซึ่งในแชทเฟซบุ๊กเราก็สามารถตั้งค่าได้ ว่าช่วงเวลาไหนร้านปิด ช่วงเวลาไหนแชทว่าง ช่วงเวลาไหนไม่สะดวก ซึ่งการตั้งค่าแบบนี้จะทำให้ลูกค้าที่ทักมาทราบว่าร้านของเราอาจอยู่นอกเหนือเวลาทำการ ทำให้เขาเข้าใจและอดทนรอได้มากกว่าตั้งออนไลน์ไว้ แต่ไม่ยอมตอบกลับเขาสักที แบบนี้จะทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึก และไม่อยากกลับมาใช้บริการอีก
รวมถึงการตั้งค่าแบบนี้ยังส่งผลกระทบต่อการคิดคำนวณอัตราการตอบกลับที่ Facebook ทำการจัดอันดับด้วย ถ้าคุณตั้งออนไลน์ แต่ลูกค้าทักมาแล้วคุณตอบช้า Facebook จะแจ้งหน้าเพจว่า เพจนี้ใช้เวลาในการตอบนาน ซึ่งทำให้ลูกค้าหมดความเชื่อถือไป แต่ถ้าคุณตั้งสถานะเป็นไม่ว่างและมีลูกค้าทักมา Facebook จะยังคงรักษาตำแหน่งการตอบกลับอย่างรวดเร็วของคุณไว้เช่นเดิม
5. ลงทุนกับ Chatbot ดึงลูกค้าทุกช่องทางเข้าแชทคุณ
คำว่าแชทบอทเราคงเคยได้ยินกันมาผ่านๆ หูมาบ้างแล้ว แต่คุณแม่ค้าพ่อค้าออนไลน์อาจจะยังไม่เคยได้ใช้งานจริง และคิดแค่ว่าแค่มีระบบตอบกลับอัตโนมัติที่ Facebook แถมมาให้ก็พอแล้ว แต่นั่นยังไม่ใช่ที่สุดครับ เพราะ Chatbot ไม่เพียงแต่จะช่วยตอบแชทคำถามให้คุณเท่านั้น แต่มันยังตอบคอมเมนท์ ตอบตามโพสต์ ดึงคอมเมนท์เข้าอินบ็อกซ์ สั่งซื้อผ่านอินบ็อกซ์ และแจ้งเตือนผ่านไลน์ได้อีกต่างหาก เป็นศูนย์รวมแห่งการตอบแชทเลยก็ว่าได้
ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าคีย์เวิร์ดที่จะให้แชทบอทตอบกลับได้อีกด้วย เช่น ลูกค้าพิมพ์ถามว่า “จ่ายเงินยังไง” แชทบอทก็จะตอบกลับเป็นช่องทางการจ่ายเงินให้ทันที ลดต้นทุนการจ้างคนตอบ ลดเวลาในการทำงาน และช่วยให้คุณมียอดขายเพิ่มขึ้นแบบที่คุณต้องการ