5 เคล็ดลับการเลือกซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรแบบไม่ขาดทุน


การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็เหมือนกับอาชีพค้าขายอื่น ๆ เรื่องที่ทางและทำเลของร้านถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะหากร้านตั้งอยู่ในทำเลที่ดี โอกาสที่จะสามารถทำการค้าและสร้างกำไรก็จะสูงขึ้นเช่นเดียวกับที่อยู่อาศัยหากตั้งอยู่ในย่านทำเลทอง โอกาสที่จะสามารถขายทอดตลาดหรือปล่อยเช่าก็จะง่ายขึ้นและได้ราคาที่สูงขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ศาสตร์ในการเลือกซื้อบ้านในทำเลที่ดี ต้องคำนึงว่า ผู้อยู่อาศัยสามารถเดินทางได้สะดวกหรือไม่
และย่านนั้นเป็นที่ต้องการสำหรับคนส่วนมากหรือไม่ วันนี้ มีเคล็ดลับการเลือกซื้อบ้าน
เพื่อเก็งกำไรแบบไม่ขาดทุนมาฝากกัน

วิธีการเลือกซื้อบ้านมี 5 ข้อ

1.ทำเลที่สะดวกในการเดินทางเข้าถึง

บ้านเช่าที่ดีควรตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะด้วยรถยนต์หรือการขนส่งสาธารณะต่าง ๆ
เช่น BTS MRT รถสองแถว รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นต้น

 

2.ถนนมีความกว้างขวาง

ถนนที่ใช้สำหรับเข้า – ออกสัญจรภายในหมูบ้านควรมีความกว้างพอให้รถยนต์สามารถเดินทาง ไป – มาได้อย่างสะดวก
และการมีบริเวณหน้าบ้านที่กว้างขวางทำให้เรามีพื้นที่ที่สามารถจอดรถหรือทำกิจกรรมหน้าบ้านได้

3.อยู่ใกล้ตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต

ว่ากันว่า ปัจจัยหลักในการเลือกที่อยู่อาศัยสักแห่งคือเรื่องอาหารการกิน หากทำเลนั้นแวดล้อมไปด้วยแหล่งอาหารจะถือว่าทำเลนั้นอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ควรเลือกซื้อบ้านที่มีทำเลอยู่ใกล้กับตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ผู้เช่าจะได้สามารถจับจ่าย
ซื้อของเพื่อทำอาหารได้ง่าย ๆ

4.มีแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่พักผ่อน

นอกจากเรื่องการเดินทางและแหล่งอาหารแล้ว การเลือกซื้อบ้านที่อยู่ใกล้ที่ให้พักผ่อนหย่อนใจ ถือเป็นอีกจุดขายที่สำคัญ
เช่น อยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, คอมมูนิตี้ มอลล์, โรงภาพยนตร์ เป็นต้น

 

5.ตั้งอยู่ในย่านเศรษฐกิจ

หากจะลงทุนซื้อบ้าน ควรเลือกซื้อบ้านบนทำเลที่ยังคงมีความน่าสนใจและมีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาได้ในอนาคต
เพื่อให้การลงทุนของเราคุ้มค่ามากที่สุด

 

วิธีการคำนวณค่าเช่า

วิธีคำนวณค่าเช่า
ในส่วนของการตั้งราคาค่าเช่าต่อเดือนสามารถคำนวณได้หลากหลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุด คือ ให้ลองเปรียบเทียบราคากับบ้านเช่าอื่น ๆ ในละแวกนั้นที่มีขนาดใกล้เคียงกัน เพื่อดูว่า ราคาตลาดของละแวกนั้น ๆ อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ ทั้งนี้ จะขอยกตัวอย่างวิธีคิดคำนวณค่าเช่าบ้านแบบง่าย ๆ
โดยมีตัวแปรสำคัญอยู่ 3 สิ่ง คือ

1.ราคาซื้อขายบ้าน
2. ค่าเช่ารายเดือน(ของพื้นที่ใกล้เคียง)
3. ตัวคูณค่าเช่า

โดยสูตรการคำนวณ คือ ตัวคูณค่าเช่า = ราคาบ้าน / ค่าเช่ารายเดือน
ตัวอย่าง จากการสำรวจราคาค่าเช่าของบ้านใกล้เคียง
สมมติราคาบ้านที่ซื้อมาเป็น 2,000,000 บาท ค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ 9,000 บาทต่อเดือน
ตัวคูณค่าเช่า = 2,000,000 / 9,000 = 222.22

ดังนั้น หากเราซื้อบ้านมาในราคา 1,800,000 บาท และต้องการปล่อยเช่าบ้านโดยเทียบราคาตัวคูณค่าเช่าที่ 222.22 จะสามารถคำนวณ
ค่าเช่ารายเดือนได้ ดังนี้

ค่าเช่ารายเดือน = ราคาบ้าน / ตัวคูณค่าเช่า
= 1,800,000 / 222.22 = 8,100.081

ดังนั้น อาจใช้ราคานี้เป็นฐานในการตั้งราคาค่าเช่าต่อเดือนได้อาจปรับขึ้นมากหรือน้อยก็แล้วแต่ปัจจัยรอบข้างตามที่กล่าวไว้ข้างต้น
บวกกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น ค่าตกแต่งภายใน ค่าเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยแต่ก็เป็นการลงทุนที่ต้องใช้ทุนทรัพย์อยู่พอสมควรเช่นกัน แต่หากใครเล็งเห็นว่า อยากจะลงทุนในตลาดนี้ แต่ขาดเรื่องเงินทุน อาจลองปรึกษาเรื่อง สินเชื่อบ้าน กับทางธนาคารดูก่อน
เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนต่อไป