ส่อง! ผลประกอบการ Q3/63 เครือข่ายมือถือ เทียบฟอร์ม 3 ค่ายยักษ์ฝ่าวิกฤตโควิด-19


จะเห็นได้ว่าด้วยสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นำมาสู่ผลกระทบต่อผู้ที่ดำเนินธุรกิจ ซึ่งบางส่วนมีรายได้ลดลงจากเดิม กำไรหดตัว ไปจนถึงขึ้นขาดทุนก็มี

โดยในบทความนี้ เราจะพามาสำรวจผลประกอบการของค่ายมือผู้ให้บริการเครือข่ายชื่อดังในประเทศไทยประจำไตรมาส 3/2563 ซึ่งแต่ละรายจะมีตัวเลขออกมาเป็นอย่างไรนั้น มาดูกันเลย

AIS กำไรลด แต่ยังเป็นเบอร์ 1 ของตลาด

ผลประกอบการของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในไตรมาส 3/2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 41,715 ล้านบาท ลดลง 1.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ และลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน อีกทั้งบริษัทมีกำไรสุทธิ 6,764 ล้านบาท ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

สำหรับธุรกิจเคลื่อนที่ของ AIS ยังคงมีจำนวนเลขหมายของลูกค้าสูงที่สุดในตลาดที่ 40.9 ล้านหมายเลข แบ่งเป็นลูกค้ารายเดือน จำนวน 9.7 ล้านราย ลดลง 235,000 ราย ลูกค้าแบบเติมเงิน 31.2 ล้านราย ลดลง 313,000 ราย ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี และส่งผลต่อเนื่องมายังไตรมาส 3

ขณะที่การใช้งานดาต้าของลูกค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.2 กิกะไบต์ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 1.3% และสัดส่วนลูกค้าที่ใช้ 4G ยังเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านของ AIS Fiber ที่ยังคงดำเนินการไปได้ด้วยดี โดยมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 53,000 ราย ทำให้มีลูกค้ารวม 1.26 ล้านราย สร้างรายได้ 1,785 ล้านบาท เติบโต 21% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

แม้ว่าธุรกิจของ AIS จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุน สร้างเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเปิดประสบการณ์ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิง และคอนเทนต์ที่เหนือกว่าจากเทคโนโลยี 5G ทั้ง AR, VR และ Cloud Game พร้อมเปิดบริการแพ็กเกจ 5G ครั้งแรกของเมืองไทย ตลอดจนวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลให้ภาคธุรกิจไทยเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

DTAC กำไรสุทธิลดลง 18.3%

DTAC รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 พบว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 19,053 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากไตรมาสก่อน และลดลง 6.1% จากไตรมาสเดียวกับของปีก่อน อีกทั้งบริษัทมีกำไรสุทธิ 1,463 ล้านบาท ลดลง 18.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน

โดยในไตรมาส 3/2563 DTAC มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 18.7 ล้านหมายเลข ลดลง 1.07 แสนเลขหมายจากไตรมาสก่อน โดยเป็นผลหลักมาจากการลดลงในระบบเติมเงิน เนื่องจากการฟื้นตัวที่ล่าช้าจากสถานการณ์ที่ยืดเยื้อของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

ส่วนของ TRUE นั้นยังไม่มีการประกาศผลประกอบการในไตรมาส 3/2563 ออกมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ก็มีการออกมาคาดการณ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ บล.หยวนต้า ที่ประเมินว่า TRUE จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 648 ล้านบาท เช่นเดียวกับเอเชียพลัส ที่คาดการณ์ว่า TRUE จะมีกำไร 601 ล้านบาท