ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
เมื่อเรามองพนักงานของเรา บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าบางคนพูดมาก เพ้อเจ้อ บางคนเงียบเป็นเป่าสาก หรือบางคนจะคิดมากอะไรนักหนา แล้วทำไมบางคนเยอะ เยอะเกินไปไหม หรือบางคนชอบโชว์ จะอวดอะไรกัน หรือบางคนชอบเถียงกัน มั่นใจเกินร้อย ให้มาเป็นเจ้าของร้านแทนเลยดีไหม! นั่นคือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเจอ?
ลองไปทำความเข้าใจในความแตกต่างของคนเหล่านี้กัน ตามหลักจิตวิทยาและทฤษฎีพฤติกรรมศาสตร์ ได้แบ่งพฤติกรรมของคนไว้ 4 สไตล์หลักดังนี้
1. ฉันมั่นใจ
พนักงานกลุ่มนี้เป็นพวกที่กล้าตัดสินใจ คิดเร็ว ทำทันที เด็ดเดี่ยว ไม่ค่อยสนใจความรู้สึกคนอื่น ชอบเอาชนะ ชอบเถียง เป็นตัวของตัวเองสูง มักทำอะไรรวดเร็วแต่ไม่ละเอียดรอบคอบ ชอบบรรยากาศที่มีการแข่งขันและพวกเขามักจะชนะผู้อื่นเสมอ ๆ งานอะไรที่ว่าท้าทายพวกเขาจะสนุกตื่นเต้นกับสิ่งเหล่านั้นเสมอ ๆ
วิธีจูงใจ – ให้เขามีโอกาสทำงานที่ท้าทายหรือเปลี่ยนไปทำงานที่แตกต่างจากเดิม – ขอให้ช่วยทำงานหรือคิดเรื่องที่ต้องใช้การวัดผลลัพธ์หรืองานที่ต้องการความรวดเร็วเช่น ยอดขาย – ให้เป็นหัวหน้าโปรเจคใหม่ๆหรือวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ – มอบอำนาจให้พวกเขาดูแล ตัดสินใจ ควบคุมคนในกลุ่มย่อยด้วยตัวเอง
2. ฉันเป็นดาว
ช่างพูด ช่างคุย ช่างประจบ หาเรื่องมาเล่าให้เพื่อนฟังได้ทุกวัน ชอบสนุกเฮฮา ชอบเข้าสังคม ชอบเป็นจุดเด่นหรือให้คนอื่นสนใจ วันไหนไม่มีคนคุยด้วยเขาจะรู้สึกว่า เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้! คนอื่นเป็นอะไรไป! พนักงานประเภทนี้มักจะชอบทำโน่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย จนลืมไปว่าโลกใบนี้ มีเวลาอยู่อย่างจำกัด งานเลยไม่เสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน! วิธีจูงใจ – ชื่นชมพวกเขาต่อหน้าผู้อื่นเสมอๆ – ให้เขาอยู่แถวหน้า หรือหาเวทีได้แสดงความโดดเด่น – เปิดโอกาสให้เขาได้เป็นผู้นำทำกิจกรรมต่างๆ
3. ฉันใส่ใจ
พนักงานประเภทนี้เป็นพวกที่น่ารักสุดๆ เพราะใครให้ทำอะไรก็ทำ ไม่ชอบต่อล้อต่อเถียง รักและนึกถึงเพื่อนมากกว่าตัวเอง มักเป็นที่ระบายความรู้สึกของเพื่อนๆ เพราะเป็นผู้ฟังที่ยอดเยี่ยม ไม่ค่อยชอบการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่มีจะส่งกับพนักงานประเภทนี้มากที่สุดคือ ฉันต้องเปลี่ยนแปลงอะไรแบบทันทีอีกแล้ว! เพราะเขาจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและอาจไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งที่เขามักทำเป็นปกติ
วิธีจูงใจ – ให้เขาทำงานร่วมกับเพื่อนๆ หรือใกล้ชิดกับคนที่เขาไว้วางใจ – พูดคุย ทักทาย สอบถามสารทุกข์สุกดิบของเขาเสมอ ๆ – สร้างบรรยกาศการทำงานเป็นทีมและสร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น
4. ฉันเป๊ะ
มนุษย์สายย่อ ยังต้องแพ้สายนี้เลย เพราะพนักงานสายนี้ เห็นเงียบๆ แต่ทุกอย่างเขาคาดหวังว่าต้องเป๊ะเว่อร์ ละเอียดรอบคอบ เชื่อมั่นในความคิดตนเอง อาจเป็นเพราะพวกเขามักชอบคิดวิเคราะห์ ค้นหาขุดคุ้ยได้อย่างคม ชัด ลึก แบบน่ากลัว จนบางครั้งรู้สึกว่าคนสไตล์นี้ก็คิดมากเกินไป ย้ำคิดย้ำทำ หากใครมาขัดจังหวะหรือแสดงความคิดเห็นแบบงูๆ ปลาๆ ไม่รู้จริงกับพวกเขาละก็ เตรียมตัวโดนตอกกลับแบบหงายเงิบได้เลย (คำเตือน : อย่าได้พูดหรือแสดงความคิดเห็นแบบมั่วๆ แบบไม่รู้จริงเด็ดขาด เพราะคุณอาจโดนตอกกลับว่า ทำไมไม่รู้ซักเรื่อง)
วิธีจูงใจ – ให้พวกเขาได้ทำงานที่ต้องใช้เวลาในการคิดวิเคราะห์ – งานที่ต้องการความละเอียด ซับซ้อน ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก – หากจะมอบหมายงาน บอกพวกเขาล่วงหน้าเสมอๆ ให้พวกเขาได้เตรียมตัว
ลักษณะพฤติกรรมของพนักงานที่แตกต่างกัน 4 สไตล์นี้ ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างแพร่หลายทั่วโลก ไม่ได้เป็นการบอกว่าสไตล์ไหนดีกว่ากัน และก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความฉลาดหรือไม่ฉลาดแต่อย่างใด เพราะคนแต่ละแบบก็โดดเด่นไม่เหมือนกัน มีจุดที่ดี หรือต้องปรับแตกต่างกัน มีสิ่งที่สำคัญกว่า คือคุณได้เคยสังเกตเห็นลักษณะพฤติกรรมที่แตกต่างของพนักงานตนเองบ้างรึเปล่า!
ถ้ายัง? อย่าเพิ่งรีบตัดสินพวกเขาจากเพียงภายนอก เพราะมันอาจจะทำให้เราสูญเสีย หรือมองข้ามสิ่งดี ๆ ที่อยู่ในตัวพวกเขาไป
