“จิตวิทยา” สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี หากพนักงานรู้วิธีการทำอย่างไรที่จะแนะนำสินค้าให้เข้าไปอยู่ในใจของลูกค้า และรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาโดยไม่ต้องกังวล ย่อมเป็นโอกาสที่นำมาไปสู่หนทางปิดการขายได้
เพราะการขายไม่ใช่สักแต่ขายเพียงอย่างเดียว เพราะการทำแบบนั้นเปรียบเสมือนการยัดเหยียดมากจนเกินไปจนท้ายที่สุดลูกค้าก็จะมองภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปในทิศทางลบ แต่การขายที่ดีต้องเข้าใจความรู้สึกของลูกค้า เนื่องจากการขายเป็นเรื่องเกี่ยวกับอารมณ์ที่เกิดจากสถานการณ์ ความสัมพันธ์ ระหว่างลูกค้า-ผลิตภัณฑ์-พนักงานขาย
Smartsme จะพามาดูกลยุทธ์การขายตามหลักจิตวิทยาที่ดีที่สุด เพื่อประสิทธิภาพให้กับกระบวนการขายสินค้าของธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่
กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น
ความอยากรู้อยากเห็นเป็นแรงจูงใจอันทรงพลังของผู้คนส่วนใหญ่ เพราะว่าเมื่อคุณเพิ่มลงไปในคอนเทนต์มันจะกลายเป็นการกระตุกต่อมความคันที่อยากจะหาคำตอบ วิธีเดียวที่จะทำให้พวกเขาหายคันคือทำอะไรบางอย่าง เช่น การเข้าร่วมรายการหรือการซื้อผลิตภัณฑ์ หรือการทดลองใช้
ทำอย่างไรก็ได้ให้คนอยากรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือบริการ ผ่านอีเมล, บล็อก, สื่อสังคมออนไลน์ ผ่านการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ การวัดผลว่าจะสำเร็จหรือไม่ คือลูกค้าเข้าใจเนื้อหาของคุณที่สื่อสารออกไป และตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณในที่สุด
หากไม่ซื้อสินค้าคุณจะสูญเสีย
แม้แต่ผู้ซื้อและลูกค้ายังประสบปัญหาในการปฏิเสธโอกาสที่ดี โดยเฉพาะสถานการณ์ที่พวกเขากำลังคิดถึงสิ่งที่กำลังจะสูญเสียหากปฏิเสธข้อเสนอ คุณสามารถคว้าโอกาสที่จะสูญเสียได้โดยการวางกรอบข้อเสนอของคุณให้ลูกค้ารู้สึกพลาดหากไม่ซื้อสินค้า และลองอธิบายเพิ่มเติมว่าจะมีเรื่องอะไรที่ต้องพลาดหากไม่ซื้อสินค้าในครั้งนี้
แสดงความเชี่ยวชาญเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
ยิ่งคุณมีอำนาจเท่าไหร่ ยิ่งได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ดังนั้น คุณควรจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการแบบครบถ้วน ถ้ายังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ อธิบายให้เห็นภาพเข้าใจง่าย คือคุณควรอยู่ในฐานะที่สามารถตอบคำถามหรือข้อสงสัย เมื่อลูกค้าเข้ามาสอบถาม หากคุณตอบไม่ได้ ลูกค้าก็จะรู้สึกไม่แน่ใจที่จะซื้อสินค้าคของคุณ
แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์
คุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ และบริการผ่านพลังของการพิสูจน์ทางสังคม เช่น การรีวิวจากคนซื้อ โดยคนส่วนใหญ่ไว้วางใจผู้บริโภครายอื่น และเชื่อในผลิตภัณฑ์ที่ถูกรับรอง
โดยปกติความนิยมเป็นตัวแสดงให้เห็นถึงมูลค่าของผลิตภัณฑ์ หากลูกค้ารู้ว่ามีลูกค้ารายอื่นชอบผลิตภัณฑ์ของคุณ พวกเขาจะมองว่าผลิตภัณฑ์มีคุณค่า และยินดีที่จะจ่ายเงินมากขึ้น โดยวิธีหนึ่งในการทำแบบนี้คือการโพสต์บทวิจารณ์ที่ดีจากลูกค้าปัจจุบันลงบนสื่อต่าง ๆ
ใช้การเล่าเรื่องสร้างอิมแพ็ค
พลังของการเล่าเรื่องสร้างอิมแพ็คอย่างสูงในการขาย คุณอาจแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางของผลิตภัณฑ์ หรือจะเป็นเรื่องราวความประทับใจของลูกค้า เหล่านี้สร้างอิมแพ็คได้อย่างมหาศาลมากกว่าการแสดงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์
นอกจากนี้ การเล่าเรื่องยังช่วยให้เกิดความเชื่อมโยงกับลูกค้าได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
ตอบแทนซึ่งกันและกัน
คุณสามารถเสนอบางสิ่งให้กับลูกค้าแบบฟรี ๆ หรือมอบส่วนลดพิเศษ สำหรับลูกค้าใหม่ เปรียบกับการตอบแทนซึ่งกันและกัน เมื่อลูกค้าซื้อของเรา เราก็มอบความพิเศษกลับคืนไป
นอกจากนี้ หากคุณออกสินค้าตัวใหม่ แต่ยังไม่เป็นทางการก็สามารถนำไปให้ลูกค้าทดลองใช้ดูก่อน พร้อมรับฟีดแบ็คกลับมาว่าเป็นอย่างไร เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีก่อนที่จะวางขายอย่างจริงจัง เหล่านี้เป็นการแสดงถึงความสำคัญที่แบรนด์มีให้กับลูกค้า
ที่มา: deskera