ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง สำหรับธุรกิจร้านอาหาร จาก 3 กูรูตัวจริงเรื่องการตลาด


ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาทำธุรกิจร้านอาหารกันมากขึ้น ซึ่งสื่อดิจิทัลมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมทำการตลาด รวมทั้งเป็นการเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจของร้านอาหารอีกทางหนึ่ง สื่อดิจิทัลเป็นเหมือนทางลัดในการที่จะนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและอยู่รอดได้ ซึ่งธนาคารกรุงเทพเองเล็งเห็นถึงความสำคัญตรงจุดนี้ และมีความต้องการที่จะให้ทุกคนได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้สำเร็จด้วยสื่อดิจิทัล จึงจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ขึ้น

ภายในงานมีผู้บรรยายให้ความรู้อยู่ 3 ทั้งหมด 3 ท่านคือ คุณชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย (ครูชัย) นักการตลาดดิจิทัลและเจ้าของแฟนเพจ M.I.B Marketing in Black คุณอาริยะ คำภิโล เจ้าของร้าน Jones’ Salad และสุดท้ายคุณเอกลักษณ์ วิริยะโกวิทยา (หลุยส์) COO และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Wongnai.com

 

M.I.B Marketing in Black

ใจความสำคัญในการการบรรยายของคุณชัยพนธ์ นั้น เน้นย้ำในเรื่องการทำธุรกิจร้านอาหารให้สำเร็จในยุคออนไลน์ โดยการใช้หลักกลยุทธ์ 3S ดังนี้

  1. Start with WHY เริ่มจากการตั้งคำถาม

Deep WHY = Emotion คือแนวคิดที่ว่า ลูกค้าใช้บริการเราเพราะอะไร เช่น การขายเวย์โปรตีนให้กลุ่มคนออกกำลังกายเพื่อซิกแพ็ก นั่นหมายความว่า สิ่งที่ลูกค้าต้องการไม่ใช่อาหารเสริม แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงคือความเท่ รูปร่างดี หรือคนที่ต้องการกระเป๋าแอร์เมส นั่นหมายความว่าลูกค้าไม่ได้ต้องการเพียงกระเป๋า แต่สิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริงคือความพิเศษ ความเหนือชั้น เหนือระดับ หรืออย่างสตาร์บัค ร้านกาแฟที่ไม่ได้ขายเพียงกาแฟ แต่ขายความพรีเมี่ยม ขายบริการ ขายความเป็นบ้านหลังที่สาม

ดังนั้นการหา Deep WHY คือการสร้างความแตกต่าง ซึ่งคุณชัยพนธ์ ได้ชี้แจงถึง Deep WHY ในส่วนของธุรกิจร้านอาหารว่าสามารถสร้างได้ ดังนี้

Signature Menu ต้องมีเมนูเด็ดประจำร้าน เป็นอาหารเด่นที่ทำให้คนคิดถึงเมนูของเรา

Service มีบริการที่ดี เพราะการบริการเป็นเรื่องของความรู้สึก การสร้างความประทับใจในเรื่องของการบริการที่ดี จะติดตรึงใจลูกค้าได้ยาวนาน

Customer Experience สร้างองค์รวมทุกอย่างให้ลูกค้าประทับใจ จนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ลูกค้าตั้งใจไป ซึ่งทุกองค์ประกอบรวมกันต้องแล้วเหมาะสม

  1. Storytelling เล่าเรื่องให้โดนใจ

ผู้คนชอบฟังเรื่องเล่า Brand Storytelling จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในปัจจุบันโลกออนไลน์ได้เข้าถึงทุกคน ทำให้ใครก็สามารถเล่าเรื่องของตัวเองได้ โดยหลักในการเล่าเรื่องคือ 5P

Person ใช้คนเป็นตัวดำเนินเรื่อง

Piece ใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบเป็นตัวเล่าเรื่อง

Process นำเอาขั้นตอนการผลิตมาใช้เล่าเรื่อง

Past นำประวัติความเป็นมาของร้านมาเล่าเรื่อง

Passion ใช้แรงบันดาลใจของตนเองมาเล่าเรื่อง

ส่วนหัวใจในการทำ Storytelling คือ

Show don’t tell (จะบอกลูกค้ายังไง ว่าร้านเราอร่อย โดยไม่พูดคำว่าอร่อย) แสดงให้ลูกค้าเห็น โดยไม่ต้องอวดอ้างสรรพคุณ

Stunning Visual เพราะภาพสามารถกระตุ้นความต้องการกินอาหารได้ดี การถ่ายภาพและใช้ภาพประกอบที่ดีจึงเป็นทั้งการกระตุ้นลูกค้าและสร้างแบรนด์ไปในตัว

และ S สุดท้าย ก็คือ

  1. Share Value Content

หมั่นแชร์คอนเทนต์คุณภาพ อาจเป็นเนื้อหาที่ให้ความรู้และประโยชน์กับลูกค้า ที่สำคัญ คอนเทนต์นั้นต้องเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจร้านอาหารของเราด้วย

“คอนเทนต์ที่ดีที่สุด ไม่ไช่คอนเทนต์ที่แพงที่สุด แต่เป็นคอนเทนต์ที่ช่วยเหลือผู้คนได้มากที่สุด” คุณชัยพนธ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

Jones’ Salad

จากนั้นเป็นการสัมมนาในช่วงที่สอง บรรยายโดยคุณอาริยะ คำภิโล เจ้าของร้าน Jones’ Salad

ซึ่งคุณอาริยะกล่าวถึงแนวคิดใหม่ในการทำธุรกิจร้านอาหารคือ อาจไม่ต้องพร้อมแบบเพอร์เฟ็กต์ ทำไปเรียนรู้ไปก็สามารถประสบความสำเร็จได้

เมื่อขยายกิจการ ปัญหาที่จะตามมาคือเรื่องการรักษาและควบคุมคุณภาพ ซึ่งคุณอาริยะมีหลักการบริหารร้าน Jones’ Salad ด้วยหลักมาตรฐานร้านอาหาร QSC คือ

            Q = Quality หรือ “คุณภาพ” คือคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการที่เป็นไปตามความคาดหวังของผู้กำหนดและสามารถทำให้ผู้ใช้บริการหรือผู้บริโภคพึงพอใจได้ แต่คุณภาพไม่ได้มีเพียงแค่สินค้าและบริการเท่านั้น ยังต้องมีทั้งในบุคคลและองค์กรอีกด้วย

            S = Service หรือ “การบริการ” คือการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าผู้มาใช้บริการ หรือรับบริการและต้องพยายามทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจมากที่สุด มีความกระตือรือร้นที่จะคอยสังเกตลูกค้าตลอดเวลาว่าลูกค้าต้องการอะไรและอยากได้ความช่วยเหลืออย่างไรแล้วรีบบริการทันที ต้องบริการด้วยความรวดเร็ว และพร้อมอยู่เสมอในการให้บริการ

            C = Cleanliness หรือ ความสะอาด สำหรับธุรกิจร้านค้าและบริการนั้นจำเป็นมากที่จะต้องมีหลักเกณฑ์ในการจัดการ เพราะความสะอาดเป็นคุณสมบัติสำคัญของร้านอาหารที่ดี ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวนั้นได้แก่ การจัดการสถานที่และการดำเนินการประกอบอาหาร การผลิตอาหารที่ปลอดภัย ความสะอาด การควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบ

จากนั้นคุณอาริยะ ได้พูดถึงเรื่องกลยุทธ์การตลาดที่จะสำเร็จได้ด้วยสื่อดิจิทัล ซึ่งร้าน Jones’ Salad นั้น ในปัจจุบัน คุณอาริยะได้ใช้การตลาดผ่านสื่อดิจิทัลอย่างเต็มที่ เนื่องจากมั่นใจในพลังของโซเชียล โดยแนะนำให้มองโลกออนไลน์กับออฟไลน์ให้เป็นเรื่องเดียวกัน แล้วจะทำการตลาดได้ง่ายขึ้น

สำหรับการสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลอย่าง Facebook ในการทำการตลาดนั้น คุณอาริยะแนะนำว่าควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจ Algorithm ตลอดจนหลักการทำงานของ Facebook เพราะจะช่วยให้การโพสต์คอนเทนต์ได้ผลมากขึ้น

เนื้อหาที่จะทำให้คอนเทนต์น่าสนใจคือ เนื้อหาที่มีรูปประกอบสวยงาม เป็นเนื้อหาแปลกใหม่ น่าสนใจ เป็นเรื่องราวเชิงลึกที่ไม่มีใครเคยรู้มาก่อนแล้วนำมาเปิดเผย หรือเรื่องราวที่เป็นดราม่า คือมีที่มาที่ไป มีคนสนใจเยอะ และมีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ซึ่งคอนเทนต์ลักษณะนี้จะเป็นที่น่าสนใจ ถ้าร้านอาหารสามารถนำเสนอเรื่องราวลักษณะนี้ให้สอดคล้องกับธุรกิจของตัวเองได้ ก็จะทำให้มีคนเข้ามาสนใจเยอะ

โดยคุณอาริยะ ได้ตัดสินใจทำคอนเทนต์เพื่อการตลาด ผ่าน “ลุงโจนส์” ซึ่งเป็นการ์ตูนที่แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับอาหาร โดยรวบรวมความรู้ทางโภชนาการ งานวิจัยต่าง ๆ ที่มักจะมีความซับซ้อน เข้าใจยาก มาพยายามนำเสนอใหม่ ให้เห็นภาพและเข้าใจง่ายขึ้น ให้ทุกคนมีสุขภาพดีและรับประทานอาหารคลีนได้อย่างมีความสุข

สุดท้าย คุณอาริยะ เจ้าของร้าน Jones’ Salad ได้เน้นย้ำว่า ธุรกิจต้องอยู่ได้ด้วย Branding และ Marketing ที่ดำเนินการควบคู่กันไป คอนเทนต์ที่ทำต้องสะท้อนตัวตนที่ชัดเจนของธุรกิจ ลูกค้าได้ประโยชน์จากเนื้อหา และเชื่อว่า คอนเทนต์จากใจนั้นจะสามารถส่งต่อเรื่องราวได้อย่างแน่นอน

 

Wongnai.com

การสัมมนาในช่วงที่สาม “โปรโมตร้านอาหารอย่างไร ให้ดัง โดนใจลูกค้า เข้าตานักรีวิว” โดย คุณเอกลักษณ์ วิริยะโกวิทยา (หลุยส์)  COO และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Wongnai.com

Wongnai (วงใน) เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้ทุกคนค้นหาร้านอาหาร และร่วมแบ่งปันร้านอาหารอร่อย ๆ ผ่านการเขียนรีวิว จนตอนนี้มีผู้ใช้งานมากกว่าหนึ่งล้านคน โดยคุณเอกลักษณ์กล่าวถึงการใช้โซเชียลมีเดียว่า

ข้อดีของสื่อดิจิทัลคือจ่ายทีละน้อยได้ และสามารถวัดผลได้ชัดเจน เพราะสามารถดูยอดคนที่เข้ามาในเพจหรือเว็บไซต์ได้ อีกทั้งยอดกดไลก์หรือยอดแชร์ ก็สามารถรู้ได้เช่นกัน

โดยคอนเทนต์ที่ดีและเหมาะกับการนำเสนอนั้น หลักคือ

  1. เนื้อหาต้องมีมากกว่าโฆษณา
  2. สม่ำเสมอ
  3. มีเอกลักษณ์ชัดเจน

4.เป็นคอนเทนต์ที่แตะถึงอารมณ์

5.สนุก และสามารถสร้างการโต้ตอบได้

จากนั้นคุณเอกลักษณ์ ได้กล่าวถึงเครื่องมือสำหรับร้านอาหาร ในการทำการตลาดให้สำเร็จได้ด้วยสื่อดิจิทัล ซึ่งประกอบไปด้วย 5 สิ่งที่สำคัญ ดังนี้

  1. เว็บไซต์ : เพื่อสร้างแบรนด์
  2. Google : SEO & SEM
  3. สื่อโซเชียล : Facebook, IG, Twitter
  4. สื่ออื่นๆ
  5. แอพแต่งภาพ และทำ Artwork เอง Canva, VSCOCAM

สุดท้าย คุณเอกลักษณ์ได้กล่าวสรุป ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญไว้ว่า สำหรับร้านอาหาร การรีวิวนั้นสำคัญที่สุด และไม่มีวิธีที่ง่ายในการเพิ่มจำนวนการรีวิว ดังนั้น หากเป็นไปได้ ต้องหมั่นชวนลูกค้าประจำของร้านเราให้เขียนรีวิว ซึ่งอันดับร้านในรีวิวมีผลต่อจำนวนคนดู และร้านที่มีรีวิวอันดับต้น ๆ คนที่เข้ามาดูมีโอกาสเจอร้านนั้นมากกว่า และมีโอกาสเลือกไปใช้บริการสูง