“อยากเป็นเศรษฐีให้ขายสินค้า แต่ถ้าอยากเป็นมหาเศรษฐีให้ขายแบรนด์” เราคงเคยได้ยินประโยคนี้กันบ้าง คำถามคือแล้วแบรนด์อะไรบ้างที่ดังและมีมูลค่าแบรนด์สูงที่สุดในโลก? เมื่อถาม Google พบว่า 100 อันดับแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดประจำปี 2015 จัดอันดับโดย BrandZ ซึ่งเป็นโครงการที่ศึกษามูลค่าแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก ที่จะมีการจัดทำขึ้นทุกปีโดย Millward Brown โดยพิจารณาจากข้อมูลทางการเงิน รวมทั้งมูลค่าในตลาดหลักทรัพย์ประกอบกันด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://thaimarketing.in.th/2015/05/28/here-are-top-100-brands-world/
25 อันดับแรกเป็นชื่อที่เราคุ้นหูเป็นอย่างดี การทำให้แบรนด์ดังและมีมูลค่าสูงที่สุดติด 1 ใน 25 ของโลกมีหลายปัจจัย แต่การที่นำเอารายชื่อแบรนด์มาคุยกันวันนี้ เพราะว่าตามหลักฮวงจุ้ยแบรนด์แล้ว ชื่อแบรนด์มีความสำคัญมาก ธุรกิจหลายอย่างเจ๊งเพราะชื่อก็มีเยอะ รวยเพราะชื่อก็มีมาก ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการตั้งชื่อแบรนด์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์โลกที่เปลี่ยนไป นักธุรกิจรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อมากขึ้น ชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์ที่ตั้งตามกระแสมีโอกาสดับไปตามกระแสด้วยเช่นกัน
หากใครต้องการตั้งชื่อแบรนด์ Global ติดหู ดังง่าย ๆ โดยที่ไม่ต้องทุ่มงบโปรโมทแบรนด์มาก ฮวงจุ้ยแบรนด์มีหลักการตั้งชื่อให้ประสบความสำเร็จว่า ไม่ควรเกิน 6 ตัวอักษร เมื่อเรียกแล้วไม่เกิน 3 พยางค์ และให้ดีที่สุดคือออกเสียงแค่พยางค์เดียว แต่มีความหมายในตัวครบถ้วนในความหมายเชิงบวก
แค่ฟังเท่านี้อาจมีบางคนเริ่มมึนแล้ว เพราะชื่อเด็ด ๆ ไม่ใช่ว่าจะตั้งกันง่าย ๆ ใช้เวลาพอสมควร ที่พบเห็นส่วนมากมักจะเอาชื่อหุ้นส่วนผสมกัน ตั้งตามชื่อตัวเอง ตั้งตามชื่อลูก ซึ่งก็นับว่าเป็นความคิดที่ดีค่ะ แต่บางชื่อเมื่อรวมกันแล้วไม่ได้เรื่องในแง่ของธุรกิจ ทั้งเรียกยาก จำยาก แถมชื่อแปลก ๆ ด้วย
แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากการตั้งชื่อตรงกับหลักเกณฑ์ฮวงจุ้ยแบรนด์ที่พอจะนึกออก เช่น Apple, Samsung, IBM, VISA, TRUE, TOP, KFC, AIS, Coca-Cola (ที่เราเรียกสั้นๆ ว่า Coke) และ McDonalds มีผลทำให้คนจำได้ง่ายขึ้น มีผลทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของตัวอักษร ที่นิยมนำมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์จะมี 8 ตัวอักษรมงคล ได้แก่ “A, K, H, S, T, M, I และ G” ความเป็นมงคลนี้ไม่ได้เกิดจากการรับรู้ของมนุษย์ที่จดจำแบรนด์ดังระดับโลกมาเป็นเวลานาน ดังนั้นใครที่กำลังจะตั้งชื่อแบรนด์ ชื่อร้าน ชื่อกิจการใหม่ ถ้าเราเกาะกระแสไปด้วยก็จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลในชื่อของเรา ที่สำคัญคือลูกค้าจดจำได้ง่ายด้วยค่ะ
A ยอดฮิต ติดอันดับแรก ๆ หมายถึงเป็นอันดับหนึ่ง
K รู้สึกถึงพลัง ความยิ่งใหญ่ อำนาจ ผู้ปกครอง King
H ความรู้สึกดี ๆ เกิดขึ้นเสมอ กับคำว่า Happy
S ความพิเศษ ยิ่งใหญ่ ไม่ธรรมดา กับ Super หรือภาษาไทยมักพูดว่า สุดยอด
T อันนี้อยู่เมืองไทยคงจะนึกถึง T-Thailand ก่อนเลย แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ T จะพบเห็นได้ง่ายตามท้องถนนและในโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ที่หมายถึงพลังแห่งความรัก ความศรัทธา สินค้าที่ชื่อแบรนด์ขึ้นต้นด้วยตัว T จึงขายดีมากในยุโรป
M ตัวอักษรนี้เรียกได้ว่าเห็นกันเกือบทุกวัน โดยเฉพาะคุณผู้ชาย Man ให้ความรู้สึกถึงความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำ
I ตัวอักษร I กลายเป็นตัวอักษรยอดฮิตติดหูคนมากกว่าครึ่งโลก เมื่อ Apple ออก iPhone มาให้สาวกกันอย่างต่อเนื่อง อาจารย์เองก็เคยเป็นสาวกมาก่อนค่ะ ปัจจุบันชอบจดบันทึก เลยเปลี่ยนมาเป็นสาวก Samsung แทน
G ถ้าเราใช้แบรนด์ที่ขึ้นต้นด้วยตัว G=Good นอกจากมีความหมายที่ดีในตัวเองอยู่แล้ว G ยังเป็นตัวอักษรที่คนมากกว่าค่อนโลกเห็นทุกวันด้วยการค้นหาข้อมูลจาก Google
หากเราเกาะกระแสแบรนด์ดังระดับโลก อย่างน้อยลูกค้าเราจะรู้สึกผูกพันเชื่อมโยงกันแบบอัตโนมัติ ข้อดีคือเพิ่มโอกาสในการนำเสนอขายมากขึ้น และหากเรามีสินค้าที่ดี ระบบการบริหารที่ยอดเยี่ยม ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นแบรนด์ไทยติดระดับโลกบ้าง
ทั้งหมดนี้คือข้อควรพิจารณาเบื้องต้น อาจารย์ต้องการให้ทุกคนตั้งชื่อมาแล้วโชคดี ประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้ ในปีวอก ธาตุไฟ ที่ถ้าใครดัง ใครใหญ่ ใครเด่น ก็จะประสบความสำเร็จได้ดี
ส่วนเรื่องการตั้งชื่อแบรนด์ให้ดังและรวยยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ทั้งความหมายของชื่อ อายุของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ตัวอักษรดีหรือไม่ดี การสื่อถึงสินค้าบริการของเรา และอื่นๆ อีกมากมาย ขอให้ใช้ความตั้งใจ คิดพิจารณาให้ดีก่อนตั้งชื่อนะคะ ขอให้โชคดี เฮง ๆ รวย ๆ ค่ะ
