โทมัส อัลวา เอดิสัน ได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า “การที่จะมีไอเดียที่ยิ่งใหญ่ได้ เราต้องมีไอเดียเยอะๆ ก่อน” เช่นเดียวกัน การที่เราจะเป็นยูทูปเบอร์ที่ประสบความสำเร็จได้ เราต้องทำวิดีโอเยอะๆ ก่อน เพราะถ้าเรายิ่งทำเยอะ เราจะมีประสบการณ์เยอะ ทำให้เรารู้ว่าคนดูชอบเนื้อหาอะไร ถ่ายวิดีโอแบบไหน ตัดต่อคลิปอย่างไร จากประสบการณ์ถ่ายวิดีโอมา 13 ปี ทำช่องยูทูปมาอีก 8 ปี กลั่นกรองมาเป็นคำแนะนำ 7 ข้อสำหรับการถ่ายทอดเรื่องราวผ่าน Youtube
1.เลือกนำเสนอในสิ่งที่ตัวเองชอบ
คนดูวิดีโอในยูทูปไม่ค่อยสนใจหรอกว่า เราจะมีรูปร่างหน้าตา น้ำเสียง ท่าทางเป็นอย่างไร ถ้าคลิปที่เราทำไปมันมีประโยชน์กับเขา ดูแล้วสามารถเอาไปใช้ได้จริง ดูแล้วเกิดกำลังใจในชีวิต หรือดูแล้วมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้ช่องของเรามียอดวิวและคนติดตามเยอะๆ
คนดูเขาสนใจเพียงว่า ดูคลิปแล้วเข้าใจหรือเปล่า ยิ่งถ้าเราสรุปให้เข้าใจแบบง่ายๆ คนดูยิ่งชอบ
เราควรจะเลือกทำในสิ่งที่เราชอบและถนัดที่สุดก่อน เพราะมันจะทำได้ง่าย และควรโฟกัสทำเพียงแค่เรื่องเดียวให้สำเร็จก่อน ค่อยไปทำช่องที่มีเนื้อหาอื่นๆ ต่อไป
2.เตรียมเนื้อหาในการทำ
หลักง่ายๆ ในการคิดเนื้อหา คือ ให้เราเอาคำที่ต้องการพิมพ์ลงใน Google หรือ Youtube เราจะเห็นคำที่เขาแนะนำมาให้เรา คำเหล่านั้นเป็นคำที่ถูกค้นหาบ่อยๆ ซึ่งสามารถเอามาเป็นไอเดียในการทำคลิปวิดีโอ
เคล็ดลับคิดเนื้อหาทำวีดีโอ ภายใน 1 นาที
3.ใช้งานอุปกรณ์ทำวิดีโอให้เหมาะกับงาน
ในยุคนี้การทำวิดีโอเป็นเรื่องง่ายมาก เพราะเราใช้แค่มือถือเครื่องเดียว ก็สามารถถ่ายทำและตัดต่อได้เลย อุปกรณ์ทำวิดีโอเบื้องต้นที่ผมจะขอแนะนำคือ โทรศัพท์มือถือ ในตอนนี้กล้องวิดีโอที่ติดมากับมือถือ มีความคมชัดสูงมาก เพราะแต่ละค่ายรู้ดีว่า นิสัยของคนไทยชอบถ่ายรูปและวิดีโอ จึงจัดสเปกกล้องอย่างดีมาพร้อมกับโทรศัพท์
ถ้าใครพอมีงบประมาณ อยากจะซื้อกล้องตัวใหม่ สิ่งที่ผมอยากจะแนะนำ คือ ให้เลือกซื้อกล้องที่มีรูเสียบไมโครโฟนด้วย เพื่อให้คลิปของเราได้ยินเสียงชัดเจน ทำให้มีโอกาสได้ยอดวิวและคนติดตามมากขึ้น เพราะต่อให้เราถ่ายคลิปออกมาอย่างสวย แต่ถ้าเสียงฟังไม่รู้เรื่อง คนก็ไม่อยากดู
4.เลือกรูปแบบการทำวิดีโอ
-การพูดหน้ากล้อง เป็นรูปแบบที่ทำได้ง่ายและได้ผลดี เพราะมันสามารถเข้าถึงอารมณ์ของคนดูได้ดีกว่าแบบอื่นๆ จากการถ่ายทอดผ่านท่าทาง แววตาและน้ำเสียง
-การทำสไลด์โชว์ เป็นการเอารูปภาพหรือคลิปวิดีโอ มาประกอบกับเสียงพากษ์หรือเสียงเพลง วิธีนี้เหมาะกับคนที่ยังทำใจไม่ได้ที่จะโชว์หน้าตัวเองออกสื่อ…555 ซึ่งแอปฯ ตัดต่อวิดีโอที่แนะนำคือ Kinemaster
-การบันทึกภาพวิดีโอจากหน้าจอ เหมาะสำหรับที่จะสอนความรู้เรื่องต่างๆ เพราะโปรแกรมสามารถบันทึกทุกอย่างที่อยู่บนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น Powerpoint, กล้องเว็บแคมที่เห็นหน้าเรา, เสียงพากษ์หรือเสียงที่มาจากคอมพิวเตอร์
-การทำอนิเมชั่น เหมาะสำหรับการเล่าเรื่องต่างๆ คลิปวิดีโอจะมีลูกเล่นเยอะ ดูน่าสนใจกว่ารูปแบบอื่นๆ เราจะใช้โปรแกรมที่เรียกว่า After Effect ช่วยในการทำ
5. เปิดช่องยูทูปและอัพโหลดคลิป
เราสามารถเปิดช่องยูทูปผ่านแอปฯ Youtube ในมือถือ โดยให้เราคลิกที่มุมบนขวาของแอปฯ ถ้าขึ้นชื่อช่อง แสดงว่าเรามีช่องเรียบร้อยแล้ว หรือถ้าขึ้นคำว่า สร้างช่อง ให้เราตั้งชื่อได้เลย ส่วนวิธีการอัพโหลดวิดีโอ ก็สามารถทำผ่านแอปฯ ได้อีกเช่นกัน
6.ออกแบบหน้าปกวิดีโอให้สวยงาม
การที่จะทำให้คนคลิกเข้ามาดูคลิปของเรา ปัจจัยที่สำคัญอันดับต้นๆ คือ หน้าปกวิดีโอ ต่อให้เราทำคลิปมาดีขนาดไหน คนก็ไม่สามารถรู้ได้ถ้าเขาไม่คลิกเข้ามาดู หลักการง่ายๆ ในการออกแบบหน้าปก คือ เราต้องมีรูปภาพขนาดใหญ่ 1 รูป ที่สื่อความหมายถึงเนื้อหาในวิดีโอ และมีข้อความขนาดใหญ่ที่เป็นใจความหลักในวิดีโอ เช่น ผมทำคลิปสอนวิธีการสร้างงานพีอาร์ด้วยยูทูป ข้อความก็จะเป็น “พีอาร์อย่างไรให้โดน”
7.โปรโมทคลิปผ่านสื่อ
เมื่อเราอัพโหลดวิดีโอลงยูทูปแล้ว ให้เราไปเอาลิ้งค์ยูทูปมาก่อน จากนั้นเอาลิ้งค์ไปโปรโมทตามสื่อต่างๆ เช่น Facebook Fan Page, Webboard ต่างๆ เช่น Pantip เพื่อให้คนรู้จักเรามากยิ่งขึ้น ถ้าเราทำเนื้อหาออกมาดี ก็จะมีคนช่วยแชร์ต่อให้เราเอง หรือถ้าเราอยากโปรโมทมากยิ่งขึ้น อาจจะทำการลงโฆษณาทาง Facebook หรือ Google ด้วยก็ได้
สุดท้ายนี้ ถ้าท่านไหนอยากสร้างรูปแบบใหม่ของงานด้านการประชาสัมพันธ์ หรือ PR บน Youtube แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ผมเป็นหนึ่งในวิทยากรของหลักสูตร DPR 4.0 สอนวิธีการสร้างสรรค์งานแบบจับมือทำ หากสนใจลองเข้าไปดูที่ https://academy.pmgcorporation.co.th/dpr.php แล้วพบกันครับ
