วิธีตั้งชื่อ Startup ที่จะทำให้ไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง


ใครที่กำลังจะเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจที่เรียกว่าสตาร์ทอัพ เรามีข้อแนะนำสำคัญเรื่องหนึ่งที่จะไม่ทำให้คุณตกม้าตาย นั่นก็คือเรื่องของการตั้งชื่อ ลองพิจารณาดูก็ได้ว่าบรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการนี้ แต่ละคนก็มีความสามารถในการตั้งชื่อชนิดที่เรียกว่าไม่ธรรมดากันเลยทีเดียว เราก็เลยอยากให้คุณมีชื่อเท่ๆ เอาไว้ใช้บ้าง นี่คือคำแนะนำของเรา

คำแนะนำสำหรับการตั้งชื่อ Startup

1.เลือกชื่อที่ไม่เกิน 2 พยางค์

เหตุผลที่ชื่อไม่ควรจะเกิน 2 พยางค์ก็คือ ถ้ามันยาวกว่านี้มันจะยากต่อการจดจำ ไม่เชื่อลองดูรายชื่อของบรรดาผู้ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกเหล่านี้ จะเห็นว่าล้วนแล้วแต่เป็นชื่อ 2 พยางค์ทั้งนั้น

-Google
-Facebook
-Dropbox
-Flickr
-Tumblr

2.ทำให้มันง่ายสำหรับตัวคุณเอง

เชื่อว่าหลายคนเคยใช้วิธีที่หลากหลายในการตั้งชื่อมาแล้ว บางครั้งการพยายามเล่นคำมากเกินไป ก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดี เพราะมันอาจจะดูเท่แต่ไม่ค่อยสื่อความหมายที่ชัดเจน ทำให้ต้องเสียเวลาอธิบายมากเกินไป บางครั้งคำง่ายๆ อย่างคำจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เราทำก็เพียงพอกับการตั้งชื่อแล้ว ขอให้เป็นคำที่ตัวคุณเองพูดแล้วไม่สับสน คนฟังฟังแล้วพอจะเดาได้ว่ามันคือสินค้าหรือบริการอะไร ก็คงจะเพียงพอแล้ว ใช่แล้ว 2 พยางค์ที่เป็นคำจริงๆ ไม่ต้องพยายามสร้างคำใหม่

3.อย่าให้ชื่อโดเมนรบกวนการตั้งชื่อ Startup ของคุณ

ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพหลายคน เอาแต่วุ่นวายกับการจดชื่อโดเมนที่ต้องการให้ได้ก่อน ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่นับวันโดเมนที่ถูกใจนั้นเหลือน้อยลงทุกที บางคนถึงขั้นถ้าจดโดเมนแบบนี้ไม่ได้ ก็ถึงกลับไปเปลี่ยนชื่อธุรกิจของตัวเองเลยก็มี เดี๋ยวนี้โลกยอมรับกับการที่ชื่อของธุรกิจกับชื่อโดเมนไม่เหมือนกันแล้ว ไม่เชื่อลองดูจากชื่อและโดเมนเหล่านี้ดู

-DropBox ใช้โดเมนว่า getdropbox.com
-Pocket ใช้โดเมนว่า getpocket.com
-Bitly ใช้โดเมนว่า bit.ly
-Delicious ใช้โดเมนว่า del.icio.us

การเลือกชื่อธุรกิจให้เหมือนกับชื่อโดเมนได้นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าต้องเลือกก็ให้เลือกชื่อธุรกิจที่ถูกใจเราเอาไว้ก่อน ส่วนชื่อโดเมนแตกต่างไปบ้างก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ Startup ของคุณกำลังแก้ไขปัญหาเรื่องอะไรอยู่ต่างหาก

อ้างอิง: