กรมส่งเสริมการค้าฯ เร่งดันธุรกิจไทย ภายใต้โครงการ PM Award 2014 เพื่อก้าวสู่ตลาดโลก


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการ Prime Minister’s Business Enterprise Award 2014 (PM Award 2014 ) ผลักดันธุรกิจไทย ปี 57 หวังธุรกิจส่งออกมีแนวโน้มปรับตัวดีกว่าที่ผ่านมา อีกทั้งเชิญชวนผู้ส่งออกไทยให้มีมาตรฐานเทียบนานาชาติ พร้อมส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์การออกแบบของคนไทยให้เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยมาโดยตลอด ซึ่งในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายขยายการส่งออกอยู่ที่ 5%  และในเดือนมกราคม 2557 มีมูลค่าการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ได้ขยายตัวอยู่ในตลาดหลัก คือ ตลาดสหภาพยุโรป ขยายตัว 4.6% ตลาดญี่ปุ่นขยายตัว 1.8% และตลาดสหรัฐอเมริกาขยายตัว 0.4%

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  ได้จัดโครงการ Prime Minister’s Business Enterprise Award 2014 หรือ PM Award 2014 จำนวน 7 ประเภท รวม 31 รางวัล เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในหลายๆด้าน โดยเฉพาะสร้างภาพลักษณ์ประเทศในฐานะผู้ส่งออกสินค้าและการบริการที่มีคุณภาพ ทั้งนี้รางวัล PM Award จะเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญในปี 2558 ที่ประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเป็นเครื่องมือการันตีมาตราฐานสินค้าบริการของไทยอย่างยั่งยืนอีกด้วย

สำหรับรางวัล PM Award 2014 มี 7 ประเภท คือ 1)รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter) 2)รางวัลสินค้าค้านวัตกรรมที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม(Best Green Innovation) 3)รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand) 4)รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design Excellence Award : Best Demark) 5)รางวัลธุรกิจบริการยอดเยี่ยม(Best Service Enterprise Award) 6)รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์มีการส่งออก คุณภาพยอดเยี่ยม (Best OTOP Export Recognition) 7)รางวัลผู้ประกอบธุรกิจเกิดใหม่ยอดเยี่ยม (Best Business Startup)

อย่างไรก็ตาม PM Award 2014 ถือว่าเป็นรางวัลความสำเร็จสูงสุดสำหรับผู้ส่งออกและบริการประเภทต่างๆ ซึ่งตั้งแต่ปี 2535 ถึง 2556 รวม 21 ปี มีบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกได้รางวัลดังกล่าวกว่า 414 บริษัท จึงเกิดการยอมรับอย่างกว้างขวางในต่างประเทศ ทั้งยังเพิ่มความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการจากประเทศไทยให้กับผู้นำเข้าและผู้ซื้อจากต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้รางวัลดังกล่าวยังจุดประกายให้เกิดความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพได้มาตราฐานเป็นที่ยอมรับระดับสากลอย่างต่อเนื่อง นางนันทวัลย์ กล่าวทิ้งท้าย

ทางด้านคุณนิธิพัฒน์ สมสมาน นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนนิเมชั่นและคอมพิวเตอร์กราฟฟิกไทย และกรรมการผู้จัดการบริษัท เดอะ มังค์ สตูดิโอ ผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการ PM Award 2013 กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของการทำแอนนิเมชั่นเกิดจากการที่ได้ไปประเทศอินเดีย แล้วมีผู้ประกอบการชาวฝรั่งเศสส่งงานมาให้คนอินเดียทำ แต่เขาไม่สามารถแต่งเติม หรือสร้างสรรค์งานชิ้นนั้นออกมาได้ ดังนั้นจึงมองกลับมายังคนไทยว่า คนไทยมีความสามารถมากกว่าที่จะแทรกความคิดสร้างสรรค์ หรือแก้ไขได้ดีเยี่ยม ซึ่งตรงข้ามกับอินเดียที่เขาไม่สามารถแตกกรอบงานออกมาได้ นอกจากนี้คนไทยไม่ใช่แค่แรงงานราคาถูก แต่ควรโฟกัสที่แรงงานไทยมีฝีมือมากกว่า

หลังจากที่ได้เข้าร่วมโครงการ PM Award 2013 มีผลตอบรับเป็นอย่างดีคือ ในส่วนของครีเอทีฟ ซึ่งได้รางวัลออสการ์ เป็นรางวัลของต่างประเทศ อาทิ การทำแอนนิเมชั่นโฆษณาโค้ก เป็นต้น จากการเข้าร่วมโครงการ PM Award 2013 ครั้งนี้สามารถทำให้การบริหารบริษัทประสบความสำเร็จได้ในระดับดีมาก สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ PM Award 2014 นี้ ทางภาครัฐจะมีการเข้าตรวจสอบ ทั้งด้านบัญชี มาตรฐานต่างๆ เพื่อการจัดการให้มีความมั่นใจขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบธุรกิจอีกด้วย

คุณพัชรพล สุทธิธรรม กรรมการบริหาร บริษัท ไอ แคร์ ยู จำกัด กล่าวว่า จุดเริ่มต้นในการทำเครื่องสำอาง มาจากตอนเรียนปริญญาโทช่วงอายุ 18 ปี ซึ่งอาจารย์ให้คิดแบบจำลองสินค้าธุรกิจตนเอง  ดังนั้นจึงมีความคิดที่อยากจะทำธุรกิจจริงๆขึ้นมา โดยสินค้าชิ้นแรกเป็นเครื่องสำอางมีชื่อว่า IREAL และเริ่มจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ครั้งแรกด้วยตนเองตอนอายุ 20 ปี จากนั้นจึงเข้าไปปรึกษากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และต่อมาได้จดสิทธิบัตรกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อส่งออกนอกประเทศ สำหรับส่วนการเข้าร่วมโครงการ PM Award 2013 ครั้งนี้ ได้ผลตอบรับกลับมาเป็นอย่างดี เนื่องจากโครงการ PM Award 2013 มีการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด และล่าสุดได้เซ็นสัญญากับประเทศออสเตรเลีย และประเทศอเมริกา เพื่อจะได้จำหน่ายสินค้าในประเทศได้ เพราะฉะนั้นการเข้าร่วมโครงการ PM Award 2013 ทำให้สินค้ามีการการันตี และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสมัครในปีนี้ขอแนะนำว่า ให้ทำตัวเข้มแข็งที่สุด เมื่อเข้มแข็งแล้วเราจะได้ต่อสู้ แล้วเข้าสู่การค้าระหว่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยม