ท่ามกลางกระแสการเปิดตัวของ iPhone x และ iPhone 8 มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ค้างคาใจผู้บริโภคก็คือเรื่องของ ราคาสมาร์ทโฟน รุ่นดังกล่าวที่ทำการคำนวณด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเงินทุกสกุลแล้วก็ยังพุ่งขึ้นไปเกิน 3x,xxx อยู่ดี ยิ่งเครื่องหิ้วเข้ามาตอนนี้บางแห่งตั้งราคาทะลุครึ่งแสนไปเรียบร้อย เราจึงอยากจะพาชาว SME ย้อนกลับมาดูกันสักนิดว่าเอาเข้าจริงๆ แล้วมือถือที่พวกเราจำเป็นต้องใช้นั้นควรจะอยู่ในช่วงราคาเท่าไรกันแน่
สำหรับชาวสมาร์ทเอสเอ็มอีอย่างเราๆ ลองมาพิจารณาดูว่า การใช้มือถือทั้งในชีวิตประจำวันและใช้เป็นเครื่องมือทำมาหากินนั้นมีเรื่องอะไรบ้างที่จำเป็นต้องใช้ และจะต้องใช้ความสามารถของเครื่องขนาดไหน
Mobile banking
ให้เข้ากับยุคสมัยนี้ก็คงต้องเป็นเรื่องของธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันของธนาคารต่างๆ ความสามารถพิเศษของเครื่องบางรุ่นที่ทำให้ไม่ต้องพกบัตรเครดิตอีกต่อไป หรือจะเป็นความเร็วในการประมวลผลของกล้อง เพราะจากนี้ไปเราจะต้องสแกน QR Code กันเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ไม่ว่าจะขึ้นรถลงเรือซื้อข้าวหรือแม้แต่การเก็บเงินลูกค้า ซึ่งทุกข้อที่กล่าวมาสมาร์ทโฟนที่อยู่ในช่วงราคาตั้งแต่หลัก 10,000 บาทขึ้นไป ก็เพียงพอที่จะทำให้ชีวิตของคุณในเรื่องที่กล่าวมาข้างต้นได้ทั้งหมดแล้ว
งาน Photo ต้องมา
สมาร์โฟนสมัยนี้เรื่องกล้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาซะอย่างนั้น อันนี้ต้องเข้าใจ เพราะเอสเอ็มอีหลายคนใช้เป็นเครื่องมือหลักในการอัปเดตรายการสินค้าทางหน้าร้านออนไลน์กันเลยทีเดียว รูปสินค้าที่ถ่ายได้ต้องมีตื้นลึกหนาบางให้เห็นกันชัดๆ ถ่ายได้ในที่แสงน้อย ถ่ายเสร็จต้องแทรกตัวหนังสือชื่อรุ่นหรือราคาได้ง่ายๆ และสุดท้ายต้องอัพขึ้น facebook และ IG ได้อย่างทันใจ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้มือถือในราคาต่ำกว่าหมื่นก็สามารถใช้งานได้
Video เรื่องขาดไม่ได้
อันนี้ซิเรื่องสำคัญเพราะตอนนี้มองไปหน้าจอไหนก็มีแต่วิดีโอกันทั้งนั้น โดยเฉพาะรุ่นไหนที่สามารถสร้างหรือกำหนดได้ว่าไฟล์วิดีโอที่ได้จะเป็นสัดส่วนเท่าไร ถ้าเป็นเมื่อไม่นานมานี้ก็จะต้องเป็น 16:9 แต่ทุกวันนี้กลับมาแย่งชิงกันต้องทำแบบ 1:1 ได้ซะอย่างนั้น หรือเอสเอ็มอีบางคนก็ชอบ Live ออกอากาศทาง facebook ก็ต้องเลือกรุ่นที่กล้องหน้าดีๆ ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่อึดๆ ซึ่งมือถือราคาหมื่นต้นๆ ก็ทำงานพวกนี้ได้สบาย
งานบริหารหน้าร้านออนไลน์
สมาร์โฟนรุ่นที่ออกมาช่วงเวลานี้รับรองว่าสามารถโหลดแอปพลิเคชันอย่าง facebook และ IG มาใช้งานและบริหารหน้าร้านได้อย่างสบาย เพราะเรื่องของสเปคเครื่องนั้นถือว่าเพียงพอต่อการรองรับการใช้งานด้านนี้อย่างเหลือเฟือ แม้แต่การเข้าบริหารร้านค้าออนไลน์ที่อยู่บนเว็บไซต์ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ซึ่งเครื่องในราคาต่ำกว่าหมื่นก็รองรับการทำงานแบบนี้ได้แล้ว
จะเห็นได้ว่าด้วยราคาของสมาร์ทโฟนในระดับหมื่นต้นๆ ก็ดูเหมือนจะเพียงพอต่อความต้องการแทบจะทุกอย่างที่จำเป็น แต่ทุกวันนี้ทางผู้ผลิตก็ทำตลาดในทุกช่วงราคา เราก็เลยนำมาฝากกันว่าในช่วงราคาต่างๆ นั้นจะมีรุ่นไหนที่ถูกอกถูกใจกันบ้าง
ราคาสมาร์ทโฟน สบายกระเป๋า
สมาร์ทโฟนในราคาต่ำกว่าหมื่นที่มาพร้อมประสิทธิภาพชนิดที่คุ้มเกินคุ้มมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์นำมาด้วย Samsung Galaxy J7 คุณจะได้มือถือหน้าจอใหญ่ 5.5 นิ้วสเปคแรงใช้ได้ในราคาประมาณ 8,000 บาท หรือในงบประมาณเดียวกันก็จะได้ Sony Xperia XA1, LGQ6, Nokia 5 และ หัวเหว่ย GR5 2017 ที่มาพร้อมกับเลนส์กล้องขั้นเทพ
ราคากลางๆ น่าลงทุน
ส่วนสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคาหมื่นต้นๆ เรื่อยไปจนถึงสองหมื่นนั้น ก็มีให้เลือกมากมาย แต่ละตัวนี่รับรองว่าเอาไปใช้งานที่ต้องการได้อย่างครบถ้วนแน่นอน นำมาด้วย Samsung J7 Pro ที่มีพร้อมระบบ payment สำหรับ visa และ Master ในตัว นอกจากนี้ยังมี Sony XA1 Ultra สำหรับคนชอบของแรงกล้องสวยแถมจอใหญ่มาก และที่เหนือไปกว่านั้นยังสามารถซื้อ Nokia 8 รุ่นใหม่ล่าสุดตอนรับการกลับมาของขาใหญ่อย่างโนเกีย
ราคาสมาร์ทโฟน สูงเพื่อภาพลักษณ์
สำหรับผู้บริหารที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ส่วนตัวก็คงพร้อมจะลงทุนในระดับเกินสองหมื่นขึ้นไป ช่วงราคานี้ก็มีเปิดตัวกันอยู่ไม่น้อยนำมาด้วย Sony XZ Premium งานเนี้ยบกล้องหรูเลิศอลังการงานสร้างสุดๆ แล้วถ้าพูดถึงเรื่องกล้องก็จะมองข้ามหัวเห่วย P10 กับ P10 Plus ไม่ได้เลย เอาโลโก้ของ Leica เป็นประกัน ส่วนเรื่องกันน้ำกันฝุ่นก็ต้องมาอยู่ที่ Galaxy S8 ส่วนรุ่นปิดท้ายในกลุ่มนี้ก็คือ LG G6 ที่แอลจีหวนกลับมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนกันอีกรอบ
ราคาเกิน 30,000 บาท
จัดอยู่ในระดับที่ตอนนี้มี Samsung กับ Apple เท่านั้นที่อัปราคากันขึ้นไปอยู่ตรงนั้น Galaxy Note 8, iPhone8, iPhone 8 Plus และ iPhone X คุณจะซื้อไหมถามใจคุณดู?
