ร้านกาแฟในอังกฤษ หันมาใช้น้ำนมจากพืชกับสูตรเครื่องดื่ม และอาหาร
สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน รายงานว่าปัจจุบันผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญต่อประเด็นด้านสุขภาพควบคู่ไปกับบริโภคอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศอังกฤษมีการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มจากพืชเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนน้ำนมจากสัตว์มากขึ้น จากการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร จะเลือกซื้อน้ำนมจากพืช (Plant milk) แม้จะมีราคาสูงกว่าน้ำนมจากสัตว์ เช่น โอ๊ต มะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว กัญชง ถั่ว ข้าวบาร์เลย์ ข้าว เมล็ดเจีย และอื่นๆ สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้น้ำนมจากพืชทดแทนทั้งในเครื่องดื่ม และส่วนผสมอาหาร และเริ่มมีความนิยมมากขึ้นในกลุ่มบาริสต้า ที่เริ่มใช้น้ำนมพืชมาเป็นสูตรการปรุงเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ร้านกาแฟหลายร้านได้ทยอยยกเลิกการคิดค่าน้ำนมจากพืชกับลูกค้าเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคมากขึ้น โดยตลาดเครื่องดื่มน้ำนมจากพืช มีมูลค่ามากถึง 226 ล้านปอนด์ ในปี 2019 และคาดว่าในปี 2025 มูลค่าตลาดจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2 เท่า หรือเป็นมูลค่า 479 ล้านปอนด์ หรือจะเติบโตมากถึง 13.8% โดยคาดว่าน้ำนมอัลมอนด์จะมีการเติบโตมากที่สุดถึง 16.6% ในช่วงปี 2020-2025 เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้น และมีแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต […]



ประชาชน ร้อยละ 51.4 เห็นว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของพรรคการเมืองต่างๆ จะเกิดผลดี เข้าถึงข้อมูลพรรคการเมืองได้ง่ายขึ้น, คนรุ่นใหม่จะมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น แต่ร้อยละ 48.6 เห็นว่าจะเกิดผลเสีย เพราะข้อมูลที่ได้อาจไม่น่าเชื่อถือ มีการบิดเบือนและจะมีการแสดงความเห็นใส่ร้ายโจมตีคู่แข่ง ทำให้เกิดความขัดแย้ง ทั้งนี้ ประชาชนร้อยละ 63.0 มองว่า หากมีการเสนอข้อมูลต่างๆทางการเมือง ผ่านเน็ตไอดอล หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิด จะมีผลต่อการเลือกตั้งค่อนข้างมาก และ ร้อยละ 47.9 ไม่เห็นด้วย หากมีการห้ามใช้โซเชียลมีเดียหาเสียง เพราะจะรู้สึกเหมือนถูกปิดกั้นข้อมูล ,เหมือนประเทศยังไม่พัฒนา ไม่มีอิสระ แต่ร้อยละ 34.3 มองว่าถ้าใช้โซเชียลหาสียง ประเทศจะวุ่นวายแตกแยก