นักลงทุนแห่ชิงเค้กธุรกิจค้าปลีกใน ‘เวียดนาม’


สํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ รายงานว่าการแข่งขันในตลาดค้าปลีกของเวียดนามเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศวางแผนที่จะเปิดร้านขายสินค้าใหม่ และการซื้อกิจการของผู้ค้าปลีกบางราย เช่น Maximark และ Ocean Mart

ทั้ง Vincommerce บริษัทในเครือกลุ่ม Vingroup ได้เข้าซื้อกิจการค้าปลีกของ Fivimart เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ซึ่งการซื้อกิจการดังกล่าวจะช่วยบริษัทขยายเครือข่ายค้าปลีกของตนเป็นผู้ค้าปลีกใหญ่ที่สุดในเวียดนาม โดยมีซุปเปอร์มาร์เก็ต VinMart จำนวน 100 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ VinMart+ กว่า 1,400 แห่ง และคาดว่าในปี 2020 บริษัทจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ต VinMart รวม 200 แห่ง และร้านสะดวกซื้อ VinMart+ รวม 4,000 แห่ง

ในขณะที่บริษัท The Saigon Union of Trading Cooperatives (Saigon Co.op) ผู้ค้าปลีกรายใหญ่ยังได้เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ต Co.opmart แห่งใหม่ในจังหวัด An Giang ในภูมิภาคสามเหลี่ยมปากแม่น้าโขงของเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีซุปเปอร์มาร์เก็ต Co.opmart ทั่วประเทศทั้งหมด 99 แห่ง และในปี 2018 จะเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ต Co.opmart และ Co.opXtra เพิ่ม 4 – 5 แห่ง และร้านสะดวกซื้ออาหาร Co.op Food เพิ่มอีก 10 แห่งในนครโฮจิมินห์และกรุงฮานอย

นอกจากผู้ค้าปลีกในเวียดนาม ผู้ค้าปลีกต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในเวียดนามยังมีแผนขยายเครือข่ายของตนเองด้วย โดยในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2018 กลุ่ม Central ของไทย ซึ่งเป็นเจ้าของของซุปเปอร์มาร์เก็ต BigC ในเวียดนามได้เปิดศูนย์การค้า GO! My Tho ณ นคร My Tho จังหวัด Tien Giang และกลุ่ม Central เคยประกาศแผนการเพิ่มเงินทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเปิดร้านขายสินค้าในเวียดนามภายใน 5 ปีข้างหน้า

นอกจากนั้น กลุ่ม Aeon ของญี่ปุ่น ได้วางแผนในปี 2025 บริษัทจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนามทั้งหมด 20 แห่ง ส่วนกลุ่ม Lotte ของเกาหลีใต้ก็วางแผนในปี 2020 บริษัทจะมีซุปเปอร์มาร์เก็ตในเวียดนามทั้งหมด 60 แห่ง

ส่วนบริษัท Mobile World Investment Corp. (หรือบริษัท The Gioi Di Dong) ตั้งเป้าหมายว่า จนถึงสิ้นปี 2018 บริษัทจะมีร้านขายอาหาร Bach Hoa Xanh ทั้งหมด 500 แห่ง จาก 405 แห่งในปัจจุบัน

สำหรับผู้ค้าปลีกรายใหม่อย่าง 7-Eleven และ GS25 วางแผนว่าในช่วง 10 ปีข้างหน้าจะเปิดร้านสะดวกซื้อในเวียดนามทั้งหมดกว่า 1,000 แห่ง และ Family Mart จะเปิดร้านขายสินค้าในปี 2020 ทั้งหมด 700 แห่ง

บริษัทให้คำปรึกษา A.T. Kearney ได้วางเวียดนามไว้อันดับที่ 6 ในดัชนีการพัฒนาค้าปลีกทั่วโลกประจาปี 2017

นาย Vu Vinh Phu ประธานสมาคมซุปเปอร์มาร์เก็ตฮานอย (Hanoi Supermarket Association) เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ค้าปลีกในเวียดนามมีการเติบโตอย่างแข็งแรง แต่การค้าปลีกสมัยใหม่ยังมีสัดส่วนเพียง 1 ใน 4 ของการค้าปลีกทั้งหมดของเวียดนาม ตลาดค้าปลีกของเวียดนามจึงยังมีศักยภาพ

อย่างไรก็ตามผู้ผลิตสินค้าของเวียดนามเผชิญกับความยากลาบากในการจัดหาสินค้าให้แก่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในประเทศ เนื่องจากอัตรา Discount rate ของซุปเปอร์มาร์เก็ตสูงถึง 30 – 40% ส่งผลให้ราคาสินค้าของผู้ผลิตสินค้าในเวียดนามมีการแข่งขันน้อยกว่าสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ

source | The Saigon Times