ผู้เช่าพื้นที่สำนักงานยังคงมองหาพื้นที่คุณภาพสูงในเมืองที่มีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีสิ่งอำนวยความสะดวกแม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะยังคงชะลอตัวในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562 และยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน
รายงานค่าเช่าพื้นที่สำนักงานชั้นนำทั่วโลก (Global Prime Office Occupancy Costs) ฉบับล่าสุด จัดทำโดย ซีบีอาร์อี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก พบว่าจากการสำรวจอาคารสำนักงานชั้นนำใน 122 เมืองทั่วโลก ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานในกรุงเทพมหานครอยู่ในอันดับที่ 86 ของโลก โดยมีค่าเช่าเฉลี่ยของสำนักงานชั้นนำอยู่ที่ 1,208 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
นอกจากนี้ การแข่งขันเพื่อดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าทำงานยังคงมีความรุนแรง และเนื่องจากในเมืองต่างๆ มีปริมาณพื้นที่สำนักงานจำกัดและมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ๆ ไม่มากนัก จึงทำให้ค่าเช่าพื้นที่สำนักงานชั้นนำทำสถิติพุ่งสูงขึ้นโดยตลอด
ตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดอื่นในโลก โดยอาคารสำนักงานชั้นนำระดับเกรดเอที่ดีที่สุดในย่านใจกลางธุรกิจหรือซีบีดีที่มีอยู่ไม่มากนั้น สามารถปล่อยเช่าได้ในราคาที่สูงกว่าค่าเช่าเฉลี่ยอย่างเห็นได้ชัด อาคารเหล่านี้ไม่เพียงอยู่ในทำเลชั้นเยี่ยมแต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าอาคารอื่นที่เป็นคู่แข่ง เช่น ระบบปรับอากาศ ลิฟต์ ประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
อาคารสำนักงานปล่อยเช่าราคาสูงที่สุดในกรุงเทพฯ
1.อาคารเกษรทาวเวอร์ ที่ราคา 1,500 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
2.อาคารปาร์ค เวนเชอร์ ที่ 1,300 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
3.อาคารภิรัชทาวเวอร์ แอท เอ็มควอเทียร์ที่ 1,250 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ซึ่งสูงกว่าค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานระดับเกรดเอในย่านซีบีดีที่ 1,040 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือนสำหรับการเช่าสำนักงานขนาดเล็ก
อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของค่าเช่าได้ชะลอตัวลงในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาและอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ปริมาณพื้นที่สำนักงานใหม่จะมีจำกัดจนถึงปี 2564 แต่หลังจากนั้นปริมาณพื้นที่สำนักงานใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นมากเกินกว่าการเติบโตของความต้องการเป็นประวัติการณ์ โดยอาคารใหม่หลายแห่งจะมีมาตรฐานที่สูงมากในแง่ของการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ และสิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับผู้เช่า หลายบริษัทสร้างแรงจูงใจในยกระดับพื้นที่สำนักงานเพื่อปรับปรุงให้เป็นพื้นที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่น (Agile Workplace) ซึ่งพนักงานจะไม่มีโต๊ะทำงานประจำของตนเองและความหนาแน่นของจำนวนพนักงานจะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเจ้าของอาคารจึงจำเป็นต้องอาศัยลิฟต์และระบบปรับอากาศที่ดีขึ้นเพื่อรองรับจำนวนพนักงานที่เพิ่มเข้ามา อีกทั้งพนักงานก็ยังต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ดีกว่าเดิม และหากบริษัทต้องการพนักงานที่มีความสามารถเข้ามาทำงานด้วย บริษัทนั้นก็ต้องทำให้สำนักงานมีสภาพแวดล้อมที่น่าทำงานมากที่สุด
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบคือจะมีผู้เช่าพื้นที่สำนักงานกี่รายที่จะยินดีจ่ายค่าเช่าที่สูงกว่าค่าเช่าเฉลี่ยของอาคารสำนักงานระดับเกรดเอ เพื่อเช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานที่มีคุณภาพที่ดีกว่าและค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเพิ่มขึ้นมากเพียงใด
อ้างอิง: ซีบีอาร์อี
