เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน หากกล่าวถึงอุตสาหกรรมการผลิตในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และการรับมือกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ซึ่งปัจจัยสำคัญในการรับมือการเปลี่ยนแปลงคือ แรงงาน ที่ในวันนี้ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการผลิตมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้จัดทำการสำรวจและวิจัยในภาคอุตสาหกรรมการผลิตชี้ว่า การปรับปรุงพัฒนาแรงงานของตนเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ภาคอุตสาหกรรมการผลิตกำลังอยู่ในช่วงการปฏิวัติทักษะโดยได้รับแรงผลักดันเบื้องต้นจากระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์
จะเห็นได้ว่าตำแหน่งงานในภาคการผลิตแบบในอดีต ได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นรูปแบบใหม่ที่จะทำให้สายงานผลิตสามารถทำงานได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้ง ความเปลี่ยนแปลงนี้ยังเป็นแรงผลักดันที่ดีสำหรับความประพฤติในเชิงบวก และยังก่อให้เกิดความท้าทายกับผู้ผลิตเกินกว่าจะละเลยได้ โดยในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มีความกดดันเกี่ยวกับการนำระบบดิจิทัลมาใช้น้อยกว่าและการเปลี่ยนแปลงด้านแรงงานอาจเป็นไปอย่างช้า ๆ แตกต่างจากอุตสาหกรรมการผลิต
นอกจากนี้ กลุ่มผู้ผลิตที่นำระบบอัตโนมัติมาใช้มากที่สุดเป็นผู้สร้างงานมากที่สุด จากผลสำรวจระบุว่าผู้ผลิตร้อยละ 87 วางแผนที่จะเพิ่มหรือคงไว้ซึ่งจำนวนพนักงานอันเนื่องมาจากการใช้ระบบอัตโนมัติเป็นปีที่ 3 ต่อเนื่องกัน ระหว่างการสร้างงาน และการขาดแคลนบุคลากรที่มีความสามารถเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 12 ปี
ดังนั้นการเพิ่มพูนทักษะให้แรงงานปัจจุบันอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดี และเมื่อองค์กรไม่สามารถหาบุคลากรผู้มีความสามารถจากภายนอกได้ การค้นหาโดยการสร้าง การซื้อ การยืม และการต่อยอดบุคลากรผู้มีความสามารถเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ทางด้านผลการดำเนินงานจากผลวิจัยดังกล่าว ระบุว่า หุ่นยนต์ หรือระบบอัตโนมัติ เป็นเครื่องมือช่วยให้ผู้ผลิตสามารถระบุความต้องการในการพัฒนาทักษะของตนได้ และยังกำลังช่วยสร้างงานให้มนุษย์ ผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อการจ้างงาน ประเภทงานที่ยังคงอยู่ และประเภทงานที่จะสูญหายไปหรือเปลี่ยนแปลงไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้า อันเนื่องมาจากผลกระทบของระบบดิจิทัล
นอกจากนี้การทำงาน ระหว่าง แมนพาวเวอร์กรุ๊ป กับ เอ็มเอ็กซ์ดี ทำให้ทราบว่าเกือบครึ่งของตำแหน่งงานทั้งหมดในภาคการผลิตคิดเป็นร้อยละ 49 ต้องมีการเปลี่ยนแปลงภายใน 3-5 ปีข้างหน้า เนื่องจากอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ กว่า 1 ใน 4 ของตำแหน่งงานในพื้นที่การผลิตในโรงงานจะสูญหายไป ขณะเดียวกันยังได้ระบุตำแหน่งงานใหม่ขึ้นอีก 165 ตำแหน่ง
ซึ่งตำแหน่งงานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญการทำงานร่วมกับหุ่นยนต์ อีกทั้งงานวิจัยยังพบด้วยว่า การใช้เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับการทำให้เกิดพลังที่เข้มแข็งในองค์กร แต่ยังต้องพัฒนา “ผู้บริหารดิจิทัล” ซึ่งเป็นกลุ่มผู้นำที่มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์และพร้อมทำงานในระบบดิจิทัล รวมถึงมีความทุ่มเทในการสร้างวัฒนธรรมและสมรรถนะที่จำเป็นภายในองค์กร เพื่อสร้างโอกาสและขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพและสำเร็จลุล่วง
นอกจากนี้ ผลวิจัยยังระบุอีกว่าร้อยละ 16 ของบริษัทคาดการณ์ว่าจะเพิ่มจำนวนพนักงานในสายงานไอที ซึ่งจะเป็นการขยายช่องว่างที่มีอยู่ระหว่างอุปสงค์และอุปทานแรงงาน ในขณะที่ร้อยละ 38 ขององค์กรกล่าวว่าการฝึกอบรมทักษะด้านเทคนิคที่เป็นที่ต้องการและเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ขณะที่ในการฝึกอบรมทักษะด้านการสื่อสารและประสานงานเป็นเรื่องที่ยากกว่า อีกทั้งความต้องการทักษะด้านนี้เพิ่มสูงขึ้นในทุกอุตสาหกรรม โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและร้อยละ 22 ในทวีปยุโรป พร้อมกันนี้ยังมีการระบุอีกว่าภายใน 5 ปี คนในกลุ่มมิลเลนเนียลและรุ่นแซดจะมีจำนวนมากกว่า 2 ใน 3 ของแรงงานทั่วโลก และแรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 87 ต้องการงานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น งานสัญญาจ้าง, งานพาร์ทไทม์, และงานชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม องค์กรธุรกิจทุกขนาดอาจจะเผชิญกับปัจจัยและปัญหาต่างกันออกไป ตัวอย่าง องค์กรหรือบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความต้องการทักษะที่สำคัญและเร่งพัฒนาอย่างรวดเร็วอาจต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการแย่งชิงบุคลาการที่มีความสามารถสูง และเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะดังกล่าว บริษัทต้องยอมลงทุนทั้งด้านเวลา ทรัพยากร และวางกลยุทธ์ในการฝึกอบรมเพิ่มมากขึ้น
ส่วนทางด้านหองค์กรหรือบริษัทที่มีขนาดเล็กลงมาอาจจะมีงบประมาณในการลงทุนน้อยกว่า และยังมองว่าการฝึกอบรมข้างต้นใช้เวลานานเกินไป รวมทั้งต้องวางแผนอย่างรัดกุมและพยายามหาทางให้บริษัทยังคงเป็นผู้นำในตลาดให้ได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในบริบทเช่นนี้ การวางแผนกำลังคนจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กรทุกประเภท
ในอนาคตจะมีลักษณะของการพัฒนาตำแหน่งและบทบาทหน้าที่ของการทำงานอย่างรวดเร็ว การปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ปัจจุบันโดยการเพิ่มพูนทักษะ การว่าจ้างด้วยตนเอง และการว่าจ้างจากบริษัทภายนอก ไม่มีอุตสาหกรรมใดที่รอดพ้นจากการปฏิวัติเทคโนโลยีดิจิทัลแต่ทุกอุตสาหกรรมจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Source : แมนพาวเวอร์กรุ๊ป