การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำคนกังวลจนหันมาสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น


การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาจำนวนมากต้องปรับวิถีการดำเนินชีวิตตามมาตรการของภาครัฐฯ ที่ออกเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น การกักตัวอยู่ที่บ้าน, ไม่เดินทางไปในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด ตลอดจนไม่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง

ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าตามสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านในช่วงเวลาปกติ ทั้งห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร กลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดผู้คนไปเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ด้วยยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าไปอย่างมากจึงทำให้ผู้คนไม่ต้องกังวลในเรื่องการหาอาหารมารับประทาน เพราะสามารถสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชันได้

การสำรวจเรื่อง “การใช้บริการ Online Food Delivery ของคนไทย” ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ที่ทำการเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคม 2563 จำนวน 376 คน พบว่ามีผู้ใช้บริการสั่งออนไลน์มากถึง 85% โดยกลุ่ม Gen Y (อายุ 19-38 ปี) ใช้บริการมากที่สุด 51.09% รองลงมา คือกลุ่ม Gen X (อายุ 39-54 ปี), กลุ่ม Baby Boomer (อายุ 55-73 ปี) และกลุ่ม Gen Z (อายุ 19 ปี) ตามลำดับ

นอกจากนี้ ความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจสั่งซื้ออาหารออนไลน์มากขึ้น โดยกลุ่ม Gen Y เลือกใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์ เพราะกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มากที่สุด คือ 40.2% รองลงมาคือ Gen Z 30.0% Baby Boomer 28.6% และสุดท้ายคือ Gen X 26.9% ตามลำดับ โดยมีตัวเลขเฉลี่ยทั้งหมด 33.96%

สำหรับช่องทางการสั่งอาหารออนไลน์ จะแบ่งเป็น 3 ด้านด้วยกัน ดังต่อไปนี้

1.แพลตฟอร์ม หรือแอปพลิเคชันที่เป็นตัวกลางในการช่วยสั่งอาหาร ไม่ว่าจะเป็น Grab Food, Line Man, Foodpanda, Get Food และอื่น ๆ คิดเป็น 88.47%

2.แพลตฟอร์มของร้านอาหารโดยตรง คิดเป็น 62.93%

3.เลือกสั่งผ่าน Inbox หรือ Direct Message ของร้านใน Social Media คิดเป็น 13.08%

โดยอาหารที่มีการสั่งมากที่สุด คือ Fast Food เช่น ไก่ทอด เบอร์เกอร์ พิซซ่า คิดเป็น 61.06% รองลงมาคือ อาหารตามสั่ง คิดเป็น 47.04% และก๋วยเตี๋ยว/อาหารประเภทเส้น คิดเป็น 40.50%