SCB EIC คาดเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวมากสุดในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 จากมาตรการปิดเมืองทั่วโลกทำให้เกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคส่งออกของไทยผ่านเศรษฐกิจโลกที่หดตัวและปัญหาด้านห่วงโซ่การผลิต
Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 จะหดตัวที่ -1.8%YOY ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 1/2557 และหดตัวมากที่สุดตั้งแต่ไตรมาส 4/2554 โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาได้เข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคแล้ว หลัง GDP แบบ %QOQ sa หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส
ท่องเที่ยวและส่งออกกระทบถ้วนหน้า
เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านการหดตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก โดยภาคการผลิตด้านโรงแรมและภัตตาคารหดตัวไปกว่า -24.1%YOY โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการที่แท้จริงหดตัวต่อเนื่องเป็นไตรมาส 2 ที่ -6.7%YOY การส่งออกภาคบริการหรือการท่องเที่ยวหดตัวกว่า -29.8%YOY ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงไปถึง -38.0%YOY ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา
ด้านการส่งออกแม้ในภาพรวมจะสามารถขยายตัวได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่การขยายตัวส่วนใหญ่มาจากการส่งออกทองคำที่จะไม่ถูกนับเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หากหักทองคำมูลค่าการส่งออกจะหดตัว ส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมลดลง -2.7%YOY โดยเป็นการหดตัวของหลายสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ข้าว รถยนต์ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น
สินค้าจำเป็นช่วงกักตัวส่งผลบวกเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกได้รับผลบวกจากการบริโภคสินค้าจำเป็น ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการกักตุนสินค้าก่อนที่จะมีการปิดเมือง ทำให้สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตในบ้านและการทำงานที่บ้านมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ เฟอร์นิเจอร์ และการสื่อสาร (ค่าอินเทอร์เน็ต) เป็นต้น โดยสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวได้ดีจากความต้องการสินค้าที่มีมากขึ้น แต่การลงทุนภาคเอกชนพลิกกลับมาหดตัว -5.5%YOY หลังจากขยายตัว 2.6%YOY ในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นการหดตัวทั้งในส่วนของลงทุนก่อสร้าง (-4.3%YOY) และลงทุนเครื่องมือเครื่องจักร (-5.7%YOY) โดยเฉพาะในหมวดรถยนต์
ความล่าช้า พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ส่งผลลบ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยจากความล่าช้าของการอนุมัติ พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ส่งผลให้การบริโภคและการลงทุนภาครัฐหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า โดยรายจ่ายอุปโภคบริโภคของรัฐบาลดลง -2.7%YOY ขณะที่การลงทุนภาครัฐหดตัวที่ -9.3%YOY ปัจจัยหลักมาจากการก่อสร้างของรัฐบาลที่หดตัวสูงถึง -29.6%YOY แม้จะมีการขยายตัวของการก่อสร้างรัฐวิสาหกิจที่ขยายตัว 20.8%YOY ส่วนด้านการลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรภาครัฐขยายตัวที่ 4.2%YOY
คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีเศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีมาตรการภาครัฐและมาตรการเปิดเมืองบางส่วนช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่มีความเสี่ยงสำคัญหากไวรัสโควิด-19 เกิดการระบาดซ้ำอีกระลอก ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจหดตัวเพิ่มเติมได้
อ้างอิง: SCB EIC