แบรนด์สินค้าหรูกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากร้านค้าถูกปิดให้บริการชั่วคราว ตลอดจนกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง เหล่านี้จึงทำให้แบรนด์หรูเริ่มเดินเข้าสู่โหมดวิกฤตกันเป็นที่เรียบร้อย
McKinsey บริษัทที่ปรึกษาคาดการณ์ว่าตลาดสินค้าแบรนด์หรูทั่วโลกจะหดตัว 35%-39% ในปี 2020 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สอดคล้องกับ Vicky Bullen ซีอีโอของ Coley Porter Bell บริษัทที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ เผยว่าพฤติกรรมการแต่งตัว และเกาะกระแสแฟชั่นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเกิดกิจกรรมทางสังคม เช่น ออกไปทำงาน, ออกไปสังสรรค์ หรือออกไปเที่ยว ซึ่งจะทำให้คนเห็นเสื้อผ้าที่สวมใส่
แต่ด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่นำมาสู่มาตรการล็อกดาวน์ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค เพราะแทนที่จะอวดกระเป๋าหรู หรือรถยนต์ที่อาจไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักเท่าไหร่กับในช่วงสภาวะเศรษฐกิจขาลง จึงทำให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่มากยิ่งขึ้น
ตามรายงานของ Malinda Sanna ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอของ Spark Ideas ระบุว่า สุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจะก้าวขึ้นมาเป็นความหรูหราแบบใหม่ โดยงานวิจัยในเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐฯ พบว่าผู้คนจะควักเงินซื้อสินค้าที่มีราคาไม่ต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมในระดับ high-end ได้แก่ จักรยาน Peloton รวมถึงคอร์สออกกำลังกาย ไม่เพียงเท่านั้น กิจกรรมออกกำลังกายเหล่านี้พวกเขามองว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้อยู่ร่วมกับครอบครัว
ข้อจำกัดการกลับมาเปิดร้าน
แม้ว่าแบรนด์หรูหลายแห่งในทวีปเอเชีย เช่น เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน จะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ แต่จำนวนของผู้บริโภคที่เดินทางมายังร้านค้าอาจมีสัดส่วนที่ลดลงจากเดิม ด้วยมาตรการเข้มงวด ทั้งในเรื่องการตรวจวัดอุณห๓มิ และการสวมหน้ากาอนามัย ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเลือกซื้อสินค้า ซึ่งไม่ใช่การสร้างประสบการณ์ที่มีต่อสินค้าแบรนด์เนมเท่าไหร่นัก ดังนั้น ร้านแบรนด์เนมหรูจึงต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ด้วยเข้าถึงแบบรายบุคคล ซึ่งจำเป็นมากในเวลานี้
อย่างไรก็ตาม สินค้าแบรนด์หรูที่ยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้หลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเป็นสินค้าประเภท “quiet luxury” ที่เป็นแบรนด์เหนือกาลเวลาที่ได้รับผลกระทบไม่มาก ไม่ว่าจะเป็น Hermès, Prada และ Bottega Veneta
อีกหนึ่งประเด็นที่น่าจับตามอง คือความต้องการสินค้าแฟชั่นของผู้คนไม่ได้ลดลงไปจากเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่มีจำนวนจำกัด ดูได้จาก Nike ที่จับมือกับ Dior เปิดตัวรองเท้าสนีกเกอร์ Air Jordan 1 OG ซึ่งมีผู้สนใจลงทะเบียนสั่งซื้อมากกว่า 5 ล้านคนเมื่อเดือนที่ผ่านมา นั่นบ่งบอกว่าผู้บริโภคยังพร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อสินค้า หากสามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับพวกเขาได้
ที่มา: CNBC