อัปเดต! เทรนด์ท่องเที่ยว 2564 ใครก็บอกว่าการเที่ยวแบบแบ็คแพ็คจะหายไป จริงหรือไม่?


สำหรับผู้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่พัก อุปกรณ์เดินทาง หรืออื่น ๆ ที่กำลังสงสัยอยู่ว่า เทรนด์ท่องเที่ยวในปี 2564 นี้ จะเป็นอย่างไร เพราะจากวิกฤตโควิด-19 แพร่ระบาดที่ผ่านมาทำให้ทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจได้รับผลกระทบมากมายกันไป บทความนี้จึงขอมาอัปเดตเทรนด์ท่องเที่ยว 2564 นี้ว่า จะเป็นอย่างไร? แล้วที่เขาว่า เที่ยวแบบแบ็คแพ็คจะหายไปจริงหรือไม่? ถ้าอยากรู้คำตอบต้องอ่านด่วน

สถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศปี 2563 ที่ผ่านมา

ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยข้อมูลน่าสนใจที่ได้จากการสำรวจ ตั้งแต่ มกราคม-พฤศจิกายน 2563 ดังนี้

– มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาภายในประเทศไทยกว่า 6,695,840 คน ต่างจากปีที่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันเป็น -79.42% รายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติไม่ปรากฏแน่ชัด แต่มีรายได้จากชาวไทยที่ท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นเงินประมาณ 428,091.49 ล้านบาท ต่างจากปีที่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกัน -56.33%

แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ 2564

หลายท่านคงจะนึกภาพออกได้ชัดเจนว่า ธุรกิจรายย่อยแต่ละธุรกิจ ไปจนถึงประเทศไทย สูญเสียรายได้และเสียหายหนักขนาดไหน แต่จะสถานการณ์การท่องเที่ยวภายในประเทศจะเป็นอย่างไรต่อไป ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีคำตอบในบทวิเคราะห์ “พฤติกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศช่วงวิกฤติโควิด-19” ดังนี้

– คนไทยยังคงมีความเชื่อมั่นต่อภาพรวมของภาวการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศสูงถึง 83.78% โดยประมาณ 53.25% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เตรียมวางแผนท่องเที่ยวจากคนไทยที่ยังเชื่อมั่น ยังมีความกังวลใจในเรื่องของการแพร่ระบาดของโควิด-19 และทุนทรัพย์ในการเดินทาง

– รูปแบบของการเดินทางท่องเที่ยว 83.69% ต้องการเดินทางข้ามจังหวัด ส่วนที่เหลือต้องการเดินทางภายในจังหวัด เพราะกังวลเรื่องของมาตรการความปลอดภัยและระยะเวลาที่ต้องกักตัวหลังจากเดินทางไปเที่ยวข้ามจังหวัด

– สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตได้แก่ เชียงใหม่, กาญจนบุรี, กรุงเทพฯ, กระบี่ และ ชลบุรี

– ททท. ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2564 ไว้ 11.16 ล้านคน ลดลง 32.41% เชื่อว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าปี 2563

เทรนด์การท่องเที่ยวที่น่าสนใจ

เทรนด์การท่องเที่ยวในปี 2564 ที่น่าสนใจและคุณควรรู้ไว้ เพื่อเตรียมปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ได้แก่

1. การรักษาระยะห่างทางสังคมเป็นเรื่องสำคัญ
จากที่เมื่อพูดถึง “การท่องเที่ยว” หลายคนจะนึกถึง ความเพลิดเพลิน ผู้คนพลุกพล่าน เดินชมวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของจุดท่องเที่ยวต่างๆ ปัจจุบันการรักษาระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวสามารถดำเนินไปได้อีกครั้ง

2. ตัดสินใจเดินทางไว
จากที่เคยตัดสินใจวางแผนเที่ยวกันนานข้ามเดือนไปจนถึงเป็นปี การตัดสินใจเดินทางของผู้บริโภคจะตัดสินใจไวขึ้น สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำคือ มีข้อมูลรายละเอียดและตารางเวลาที่เกี่ยวกับสินค้า/บริการของคุณผ่านทางออฟไลน์และออนไลน์ให้สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

3. สนใจเดินทางแบบกลุ่มเล็กมากขึ้น
เพราะการเที่ยวแบบคู่บางครั้งก็ไม่เวิร์คจบทริปมาเลิกคบหรือไม่มองหน้ากันก็มี ที่ผ่านมาจึงจะเห็นว่าคนเที่ยวคนเดียวหรือเลือกหาเพื่อนเที่ยวแบบไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมากขึ้น แต่ต่อไปการจัดทริปเที่ยวอาจจะไปเป็นกลุ่มเล็กๆ เช่น ครอบครัว หรือที่ทำงานเดียวกัน ฯลฯ มากขึ้น นอกจากปลอดภัยไว้ใจได้แล้ว ยังมั่นใจได้ว่าจะเที่ยวได้สนุกแบบไม่ต้องกังวลว่า จะติดเชื้อจากคนที่ไปด้วยเลย

4. แบ็คแพ็คจะกลับมาอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น
หลายธุรกิจกังวลใจว่า นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คที่สร้างรายได้หลักให้แก่ธุรกิจจะกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่? ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดที่ผ่านมาทำให้นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คโดยเฉพาะชาวต่างชาติหายไป เพราะค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน, ที่พัก, เดินทาง ฯลฯ ที่สูงมากขึ้น เพราะการจำกัดจำนวนคน อีกทั้งยังต้องเสียเวลากักตัวอย่างน้อย 14 วัน และมีภาระด้านสาธารณสุขมากขึ้น ทำให้ความนิยมลดลงไปพอสมควร แต่มีแนวโน้มที่จะกลับมาอีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

หวังว่า บทความนี้จะให้คำตอบแก่ผู้ที่กำลังสงสัยอยู่ว่า “แนวโน้มของนักท่องเที่ยวในปี 2564 นี้จะเป็นอย่างไรบ้าง” ไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การเดินทาง อุปกรณ์เดินทาง ร้านค้าอาหาร หรือธุรกิจต่างๆ ที่กำลังคาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ สามารถรับมือจนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยดี และกลับมารุ่งเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ได้อีกครั้ง