คลัง ไม่ห่วงปัญหาการเมืองลากยาว เตรียมพร้อมทั้งงบประมาณปี 63 เงินบัตรสวัสดิการ เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีสัญญาณทรงตัว

นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง กล่าวว่า การเมืองไทยหลังการเลือกตั้ง หากมีเสถียรภาพจับมือตั้งรัฐบาลได้รวดเร็วจะดึงความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ เพราะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ถึงแม้การจัดตั้งรัฐบาลอาจยืดเยื้อไปบ้าง ก็ยังมี ครม.บริหารประเทศ และสภา สนช.ดูแลด้านกฎหมาย จึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องบัตรสวัสดิการฯ ครม.ได้เติมเงินเข้าไปในกองทุนสวัสดิการฯไปแล้ว ส่วนเรื่องงบประมาณปี 63 ครม.รับทราบหลักการจัดทำกรอบงบประมาณรายจ่ายไปแล้ว เหลือเพียงการเสนอสภาพิจารณาโครงการใช้จ่าย
สำหรับภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนกุมภาพันธ์ 62 มีสัญญาณทรงตัว โดยใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวลงเล็กน้อย สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ หดตัวร้อยละ -0.5 ต่อปี ขณะที่การบริโภคสินค้าคงทนจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งยังคงขยายตัวที่ร้อยละ 9.2 ต่อปี ขณะเดียวกันปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่กลับมาขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 69.0 เนื่องจากบรรยากาศการเลือกตั้ง สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเริ่มคลี่คลายลง การกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีน และกำลังซื้อที่สูงขึ้นเนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชนยังมีการขยายตัวในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ขยายตัวร้อยละ 9.0 ต่อปี ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 โดยพบว่ายอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตันที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 10.1 ในขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศหดตัวที่ร้อยละ -3.0 ต่อปี สำหรับภาษีการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวที่ร้อยละ 7.4 ต่อปี จากการขยายตัวในหมวดภาษีธุรกิจเฉพาะที่กรมที่ดินจัดเก็บให้ร้อยละ 14.8 ต่อปี ขณะที่ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างหดตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ -0.1 ต่อปี โดยมีสาเหตุสำคัญจากการหดตัวของดัชนีราคาหมวดเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก และหมวดสุขภัณฑ์
เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี และเสถียรภาพภายนอกประเทศอยู่ในระดับที่มั่นคง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ระดับต่ำร้อยละ 0.7 ต่อปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.6 ต่อปี สำหรับอัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ของกำลังแรงงานทั้งหมด สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นเดือนมกราคม 2562 อยู่ที่ร้อยละ 41.7 ต่อ GDP ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งเพดานไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ต่อ GDP สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ระดับสูงที่จำนวน 212.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.-
Source : สำนักข่าวไทย