อย่างที่ทราบดีว่า สังคมผู้สงวัย กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ซึ่งปัจจัยมาจากหลายๆ สาเหตุ หนึ่งในนั้นคือเมื่อเทคโนโลยีเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ประกอบกับความก้าวหน้าทางการแพทย์และระบบสาธารณสุข ทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวมากขึ้น เฉลี่ย 77 ปี ทำให้โครงสร้างประชากรไทยเปลี่ยนแปลงไปมาก
มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ มีรายงานเรื่อง สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจคือ ประเทศไทย กำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยจากข้อมูลของ United Nations World Population Ageing พบว่า หลังจากปี 2552 ประชากรที่อยู่ในวัยพึ่งพิงได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุ จะมีจำนวนมากกว่าประชากรในวัยแรงงาน และในปี 2560 จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชากรเด็กน้อยกว่าผู้สูงอายุ สถานการณ์นี้เป็นผลมาจากการลดภาวะเจริญพันธุ์อย่างรวดเร็ว และการลดลงอย่างต่อเนื่องของระดับการตายของประชากร ทำให้จำนวนและสัดส่วนประชากรสูงอายุของไทย เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
จากสถานการณ์ดังกล่าวนี้เอง ทำให้ Startup รุ่นใหม่ จับ Pain Point มาสร้างโอกาส โดยการสร้างพื้นที่ให้เป็น”คอมมูนิตี้ออนไลน์”สำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ ภายใต้ชื่อ “Young Happy” (ยัง แฮปปี้) ซึ่งผู้ร่วมก่อตั้งประกอบด้วย ณฎา ต้นสวัสดิ์ ธนากร พรหมยศ, จุติพร อู่ไพบูลย์ และ ธีรศักดิ์ มูลตุ้ย
จุดเริ่มต้นของการพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าว มาจากการที่ ธนากร หนึ่งในผู้ก่อตั้งสอนคุณแม่เล่นมือถือ แต่เกิดปัญหาคือ บางครั้งสอนแล้ว แต่คุณแม่ไม่เข้าใจ หรือถามซ้ำๆ หลายครั้ง จึงเกิดความคิดที่ว่าผู้สูงวัยหลายๆ คน ก็น่าจะประสบปัญหาคล้ายๆ กัน จึงปิ๊งไอเดียของการทำแอปฯ ดังกล่าวขึ้นมา แล้วชักชวนเพื่อนๆ มาทำงานร่วมกัน
‘YoungHappy’ มีเป้าหมายคือ อยากให้ผู้สูงอายุในเมืองไทยมีโอกาสหาความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิตผ่านแอปพลิเคชัน ที่มีกิจกรรม และเบอร์โทรศัพท์ ให้โทร.พูดคุยได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้จะดำเนินการมาเพียงปีครึ่ง แต่ธุรกิจนี้ได้มีโอกาสที่ดีในการเป็นส่วนหนึ่งของรายการใหญ่อย่าง Accelerator โครงการบ่มเพาะธุรกิจใหม่ของรัฐบาลมาเลเซีย และ Startup กลุ่มนี้ยังเป็นตัวแทนประเทศไทยไปชนะงานประกวดธุรกิจเพื่อสังคมของสหประชาชาติอีกด้วย
สำหรับ กลุ่มเป้าหมายของ YoungHappy จะเป็นกลุ่มผู้เกษียณอายุ ในเมืองกรุง ที่ยังแข็งแรง และยังสามารถดูแลตัวเองได้ เนื่องจากคนกลุ่มนี้แม้จะมีสุขภาพกายแข็งแรงดี แต่ในเรื่องของสุขภาพใจอาจจะไม่ได้รับการดูแลจนรู้สึกเหงาหงอย ส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่รู้ว่ามีกิจกรรมที่ไหนให้ไป ประกอบกับสภาพของชุมชนเมืองไม่ได้มีความสนิทสนมกันอย่างใกล้ชิด ไลฟ์สไตล์จะเป็นการต่างคนต่างอยู่ จึงยิ่งทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว
นอกจากนี้ ผู้สูงอายุ มีความรู้สึกเบื่อหน่าย วิตก เครียด และซึมเศร้าง่าย ซึ่งเกิดจากเมื่อเกษียรจากการทำงาน ไม่มีกิจกิจกรรมให้ทำ รวมถึงหากเกิดอุบัติเหตุ หรือต้องการความช่วยเหลือ เมื่อลูกหลานไม่อยู่บ้านกลายเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ที่ทุกครอบครัวต้องเจอ
อีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญคือ สตาร์ทอัพกลุ่มนี้มองว่า ผู้สูงวัยสนใจที่อยากจะเล่นโซเชียลมีเดียเป็น เพราะอยากจะพูดคุยกับลูกหลานเวลาคิดถึง หลายคนเบื่อหน่ายหรือมองข้ามกับการที่ผู้ใหญ่ในครอบครัวมักจะส่งรูปภาพสวัสดีทุกๆ เช้า ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งทราบหรือไม่ว่า นั่นเป็นการบ่งบอกหรือแสดงออกให้ทุกคนรู้ว่าเขามีตัวตน และอยากจะติดต่อสื่อสารทั้งกับเพื่อนๆ วัยเดียวกัน และลูกๆ หลานๆ ซึ่งครอบครัวจะต้องทำความเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายในการเรียนรู้การใช้โซเชียลมีเดียสำหรับพ่อแม่ และผู้สูงอายุ
สิ่งต่างๆ เหล่านี้เอง ทำให้ แอปพลิเคชัน Young Happy พัฒนาฟังก์ชั่นต่างๆ ให้ครอบคลุมพฤติกรรมของผู้สูงวัย โดยสร้างพื้นที่บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ได้แก่ ไลน์ เฟซบุ๊ก และเว็บไซต์ ให้เหมาะสำหรับการใช้งานแต่ละบุคคล
เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น และยังเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยเหลือผู้สูงวัยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย ซึ่งจะมีคอลเซ็นเตอร์คอยรับเรื่องเมื่อต้องการความช่วยเหลือ โดยการใช้งาน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทั้งระบบ Android และ iOS
จากการศึกษาตลาดของผู้สูงวัยในด้านต่างๆ ทำให้พวกเขาสรุปสโลแกนของ YoungHappy ออกมาเป็น ‘สนุก มีคุณค่า พึ่งพาตัวเองได้’ นั่นคือเน้นตอบโจทย์ผู้สูงอายุเหล่านี้ ที่ต้องการจะมีความสุข และทำสิ่งดีๆ ให้สังคม โดยไม่เป็นภาระใคร
ศูนย์กลางของธุรกิจนี้ คือแอปฯ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวของผู้สูงวัย ในแอปฯ มีทั้งบทความที่มีข้อมูลถูกต้องให้อ่านและแชร์ต่อได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ ที่ YoungHappy จัดเอง หรือไม่ก็จัดร่วมกับองค์กรอื่นๆ ตั้งแต่การไปเที่ยวด้วยกัน ดูหนังด้วยกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ทาง Young Happy มีการช่วยเหลือผู้สูงวัยจัดกิจกรรมนอกเหนือจากการสร้างคอมมูนิตี้ออนไลน์ ซึ่งมีการจัดเวิร์คช็อปสำหรับผู้ที่อยากจะพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น ให้ความรู้ดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัย ไม่ว่าจะเป็นสอนใช้งานมือถือ เล่นโซเชียลมีเดีย สอนตัดต่อคลิปวีดิโอ อีกทั้งยังวางแนวทางสำหรับการสร้างอาชีพให้กับผู้สูงวัยด้วย โดยเริ่มต้นจากการสอนวิธีการชงกาแฟ กับคอร์ส Happy Job (แฮปปี้ จ๊อบ) ฝึกเป็นบาริสต้า ต่อยอดเป็นงานอดิเรกและงานเพื่อหารายได้ โดยหลักสูตรจัดทำขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ สอนแบบง่ายๆ เรียนไปแบบช้าๆ โดยผู้ที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนได้ และผู้ที่เรียนจบหลักสูตรยังได้รับใบ ประกาศนียบัตรเพื่อต่อยอดในการสมัครงาน หรือนำไปเปิดร้านเป็นของตัวเองได้
สำหรับผู้สูงวัยเข้าร่วมกิจกรรมกับทาง Young Happy โดยเหตุผลหลัก คือ หากิจกรรมยามว่างหลังเกษียณราชการ ต้องการดูแลตนเองได้ โดยไม่อยากพึ่งพาและเป็นภาระของลูกหลาน และอยากมีอาชีพยามชราที่สามารถทำได้ สิ่งสำคัญอีกอย่างในแอปฯ คือ Call Center (คอลเซ็นเตอร์) ที่พร้อมให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม โทร.ได้ทุกเรื่องตั้งแต่ขอความช่วยเหลือเรื่องต่างๆ หรือหาเพื่อนพูดคุยแก้เหงาก็ยังได้
อย่างไรก็ตาม รูปแบบธุรกิจที่สร้างขึ้นมานั้น ท้ายที่สุด เป้าหมายหลักของ Young Happy ก็เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาสังคมผู้สูงวัยในส่วนที่สามารถให้ความรู้ และการใช้งานเทคโนโลยีที่เป็นเรื่องยากให้เข้าใจง่ายขึ้น ลดปัญหาและช่องว่างระหว่างครอบครัว เป็นแพลตฟอร์มที่ชวนผู้สูงอายุมาเข้าสู่โลกออนไลน์ ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมทางออฟไลน์ ช่วยให้ผู้สูงวัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย มีความสุข และกลับมาสนุกกับคอมมูนิตี้เล็กๆ ได้อีกครั้ง
