หลาย ๆ คนเวลาเห็นคนอื่นได้ดี มีความสุข หรือประสบความสำเร็จ ก็อาจจะเกิดความอิจฉาขึ้นในใจ และอยากให้ตัวเองไปถึงในจุดนั้นบ้าง ซึ่งบอกเลยครับว่าความอิจฉาไม่เคยนำสิ่งดี ๆ กลับมาให้ใคร ความยินดีต่างหาก ที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จเหมือนอย่างคนอื่นเขาได้
ซึ่งมีผลงานการวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดบอกถึงเรื่องนี้ด้วยว่า นิสัยมองโลกในแง่ดีนั้นจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้ายแรงได้ อีกทั้งการมีความสุขกับความสำเร็จของผู้อื่นก็จะทำให้ตัวเราเองก้าวเข้าสู่ความคิดแง่บวกมากขึ้น และนั่นจะส่งผลดีกับตัวเราได้มากกว่าที่คิด
ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง
การยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่นจะทำให้เราเป็นคนคิดบวกมากที่สุด ซึ่งมันส่งผลดีต่อสุขภาพได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งงานวิจัยจากฮาวาร์ดข้างต้นก็ได้พบเช่นกันว่า ทัศนคติในเชิงบวกจะช่วยปกป้องเราจากโรคหัวใจ อีกทั้งยังป้องกันโรคร้ายอย่าง มะเร็ง หอบหืด และโรคติดเชื้อในระบบหายใจได้ด้วย ซึ่งนี่เป็นผลตอบแทนที่ดี จากการมองโลกในแง่บวกนั่นเอง
ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
การที่เราสามารถพึงพอใจและร่วมยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่นได้จะทำให้เรามีความสุขเข้ามาแทนความอิจฉา หรือความรู้สึกแย่ เช่น ถ้าเราเห็นเพื่อนเราได้งานดี ๆ แต่ตัวเรายังก้าวอยู่ที่เดิม แทนที่เราจะไปอิจฉาหรือรู้สึกอยากให้เพื่อนตกงาน เราก็อาจจะมองว่า มันเป็นโอกาสดีของเราที่มีคนรู้จักทำงานในบริษัทดี ๆ เป็นอีกหนึ่งคอนเนคชั่นที่เราสามารถขอความช่วยเหลือได้
ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น ช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้
จากข้อเมื่อกี้เรายังสามารถยกตัวอย่างง่าย ๆ ถึงความสำเร็จจากการยินดีกับคนอื่นได้ด้วยนะ เช่น ถ้าเพื่อนเราทำงานอยู่ในบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียง แล้วเกิดเขาประกาศรับคนเพิ่ม เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งเก้าอี้ตัวนั้นเป็นคนแรกๆ เพราะมีคอนเนคชั่นดีๆ นั่นเอง ดังนั้นลองหันมายินดีกับความสำเร็จของคนรอบตัวดูให้มากขึ้นกว่านี้อีกสักนิด แล้วชีวิตของเราจะประสบความสำเร็จตามได้ไม่ยากเลยล่ะ
ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่น ช่วยให้เรามีแรงผลักดันทำสิ่งต่าง ๆ
ความสำเร็จของคนรอบตัวจะช่วยผลักดันให้เราก้าวไปข้างหน้า เกิดความตั้งใจจริงที่จะผลักดันตัวเองไปสู่จุด ๆ นั้นบ้าง ซึ่งการที่เราเฝ้าแต่อิจฉาริษยา ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น กลับกันการที่เราแสดงความยินดี และเปิดใจมองโลกในแง่ดี ก็จะช่วยให้เรามองเห็นหนทางที่จะกลายเป็นอย่างคนที่ประสบความสำเร็จ เอาเวลาไปทุ่มเทกับการพัฒนาตัวเอง แทนการขัดแข้ง ขัดขาคนอื่น ซึ่งแรงผลักดันตรงนี้แหละที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จตามไปติด ๆ