“อาจจะไม่เหมือนเดิม” สรุป 3 เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ปี 64 ที่คนทำธุรกิจต้องติดตาม


บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก มินเทล (Mintel) ได้ทำบทสรุปการตลาดผู้บริโภคเผยแพร่ 3 เทรนด์อาหารที่สำคัญสำหรับธุรกิจการให้บริการด้านอาหารทั่วโลก พร้อมทั้งเสนอแบบรายงานผลการวิเคราะห์และรายละเอียดการตลาดเชิงลึก อีกทั้ง ยังมีข้อเสนอแนะในการทำการตลาดวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่พร้อมปฏิวัติวิถีการบริโภคของตัวเอง โดยแบ่งเป็นสามช่วงใหญ่ นั่นคือ เทรนด์ในปัจจุบัน (12 เดือน) เทรนด์ในช่วงถัดไป (มากกว่า18 เดือนขึ้นไป) และเทรนด์ในอนาคต (มากกว่า 5 ปีขึ้นไป)

 

● จิตใจที่เต็มอิ่ม: นวัตกรรมสูตรอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่ที่นำเสนอวิธีการช่วยรักษาสุขภาพจิตและปรับทัศนคติด้านอารมณ์ให้ดียิ่งขึ้น อันเป็นการสร้างพื้นฐานใหม่ในการเลือกบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ

 

● คุณภาพที่ต้องเปลี่ยนโฉม: แบรนด์ธุรกิจด้านอาหารจะต้องเตรียมตัวพร้อมตอบสนองต่อความท้าทายในเทรนด์อาหารที่เปลี่ยนแปลง คำจำกัดความใหม่ที่ควรตระหนักรวมไปถึง คุณภาพ ความไว้วางใจ และ ‘ความจำเป็น’

 

● อาหารสำหรับคนแนวเดียวกัน: แบรนด์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจะต้องสามารถสร้างความสมดุลด้านอารมณ์ให้กับผู้บริโภค โดยผู้บริโภคมีทัศนคติมองภาพลักษณ์และรู้สึกสัมผัสได้ถึงความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ควบคู่ไปกับการมองตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้บริโภคที่มีทัศนคติและไลฟ์สไตล์ที่เหมือนกัน

 

คุณเดซี่ ลี รองผู้อำนวยการของมินเทล ด้านอาหารและเครื่องดื่ม (Mintel Food & Drink) ได้กล่าวถึงลักษณะการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคตอันใกล้ต่อการจัดการพัฒนาสูตรอาหารและเครื่องดื่ม การทำ packaging และการตลาดที่ได้รับอิทธิพลจากกระแสด้านสุขภาพ ค่านิยม และความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

จิตใจที่เต็มอิ่ม

เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป แนวโน้มการตลาดในแบรนด์ธุรกิจการให้บริการด้านอาหารจะเคลื่อนไหวไปตามกระแสชีวจิตผ่านการนำเสนอรูปแบบผลิตภัณฑ์และสูตรอาหารที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด อันเป็นที่การคาดการณ์ได้ว่าเมื่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ลดลงและสถานการณ์สังคมเริ่มฟื้นตัวขึ้น ผู้บริโภคจะมีการปรับลักษณะพฤติกรรมการบริโภค โดยเริ่มหันมาสนใจการรับประทานอาหารอย่างมีสติและศึกษาหาข้อมูลที่เชื่อถือได้ผ่านทางเทคโนโลยีสารสนเทศในการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ รวมถึงการลดการบริโภคอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพให้น้อยลง

 

“การแพร่ระบาดใหญ่ทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดี และปีหน้า ๆ นี้ ผู้บริโภคจะปรับพฤติกรรมการบริโภคโดยเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีผลประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น”

 

“แบรนด์ธุรกิจการให้บริการด้านอาหารที่มีสูตรส่วนผสมที่ตอบสนองต่อประสาทสัมผัสด้านอารมณ์ที่หลากหลายจะช่วยส่งเสริมให้ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจการให้บริการด้านอาหารให้เป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น สำหรับการพัฒนาตนเองในด้านสุขภาพร่างกาย รวมไปถึงสุขภาพจิตและใจ เราได้ทำการประเมินผลการคาดการณ์ไว้ว่านวัตกรรมสูตรอาหารและเครื่องดื่มแนวใหม่นี้จะกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาเรียนรู้ถึงประโยชน์จากการบริโภคอาหารที่ดี อันมีผลส่งต่อระดับสุขภาพร่างกายและจิตใจที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางจิตวิทยาด้านอาหารแบบใหม่ในการตลาดนี้”

 

คุณภาพที่ต้องเปลี่ยนโฉม

ผลวิเคราะห์การประเมินการตลาดยังได้มีการบ่งชี้ไปยังกลุ่มผู้บริโภคแนวใหม่ที่เสาะหาโอกาสประสบการณ์การบริโภคแบบ ‘hometainment’ ที่สุดพิเศษสำหรับการรับประทานอาหารที่ออกแนวหรูหราดูมีราคา แต่สะดวกสบาย เพราะสามารถรับบริการดังกล่าวนี้ได้ที่บ้านเลย นอกจากนี้ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลือกสนับสนุนและใช้ผลิตภัณฑ์และการบริการจากแบรนด์และร้านค้าที่มีนโยบายที่เป็นธรรมและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีความเป็นไปได้สูงที่ผู้บริโภคจะคาดหวังผลิตภัณฑ์และการบริการที่ปราศจากการติดต่อแบรนด์และร้านค้าโดยตรง นั่นหมายถึง การเข้าถึงและใช้ผลิตภัณฑ์และบริการดังกล่าวได้ด้วยตนเอง และภายในอีก 5 ปีข้างหน้าและปีถัด ๆ ไปนี้ แบรนด์ผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการต่าง ๆ และผู้ประกอบการรายย่อยที่มีการลงทุนธุรกิจการให้บริการด้านอาหาร ปรับเปลี่ยนร้านค้าปลีกย่อยให้เข้าถึงสะดวกผ่านทางออนไลน์และมีการให้ความสำคัญกับอาหารเพื่อสุขภาพ จะได้รับความนิยมมากที่สุดท่ามกลางกลุ่มอื่น ๆ”

 

“ในส่วนของค่านิยม ผู้บริโภคในสถานการณ์โควิด-19 นี้ ต่างมองเห็นถึงความสำคัญกับการบริโภคที่เหมาะสมและจำเป็น โดยเริ่มจากการบริโภคที่น้อยลงและเลือกรับซื้อผลิตภัณฑ์และบริการที่ได้ผลตอบรับที่ดีที่สุด”

 

“เป็นที่คาดเดาได้ว่า เมื่อตลาดได้กลับมาเปิดขึ้นอีกครั้ง วิถีการใช้ชีวิตของผู้บริโภคจะเดินไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้บริโภคจะมีความคาดหวังในการซื้อผลิตภัณฑ์และบริการที่สะอาด ถูกสุขอนามัย รวดเร็ว และสะดวก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์หรือการบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม หรือธุรกิจอาหารที่เกี่ยวข้อง โดยภายในปีข้างหน้า แบรนด์ธุรกิจด้านอาหารจะต้องเตรียมตัวพร้อมตอบสนองต่อความท้าทายของเทรนด์อาหาร ภายใต้คำจำกัดความนิยามใหม่ของคำว่า ‘คุณภาพ’ และรับมือกับการสร้างตลาด E-commerce เพื่อตอบรับการเข้าถึงของลูกค้าผู้บริโภคในทุกระดับ ทั้งนี้ การเน้นการซื้อผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการที่มีคุณภาพและมีราคาที่เหมาะสมนั้น จะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจแบรนด์ต่าง ๆ ประกอบการทำงานอย่างโปร่งใสมากขึ้นในเรื่องของราคาผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการ ที่สามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลด้านส่วนผสม กรรมวิธีการผลิตและราคาสำหรับกลุ่มเป้าหมาย”

อาหารสำหรับคนแนวเดียวกัน

ในอีก 12 เดือนถัดไป กลุ่มบริษัทธุรกิจการให้บริการด้านอาหารจะสามารถใช้กลยุทธ์ทางการตลาดโน้มน้าวผู้บริโภคให้เข้ามาสนใจและใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ โดยโปรโมทภาพลักษณ์ของแบรนด์นั้น ๆ ให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ ปรับมุมมองของผู้บริโภคให้มองแบรนด์เหล่านี้เป็นอีกวิธีทางในการแสดงออกความเป็นตัวตนของตัวเอง และเป็นอีกช่องทางในการสร้างชุมชนที่มีทัศนิคติและรสนิยมคล้าย ๆ กันที่เคยมีมาก่อนช่วงการระบาดใหญ่ของโรคไวรัสโควิด-19 วิธีปรับตัวเข้ากับเทรนด์ที่กำลังจะมาถึงของแบรนด์ต่าง ๆ นี้ เริ่มจากการหันมาดำเนินงานผ่านโซเชี่ยลมากขึ้น อีกทั้ง ยังสร้างชุมชนโลกออนไลน์ที่ทางแบรนด์สามารถที่จะเข้าถึงและช่วยเหลือผู้บริโภค พร้อมทั้งยังสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการทำงานผ่านโซเชี่ยลมาวิเคราะห์สรุปผลเพื่อปรับปรุงทรัพยากรและชื่อเสียงของแบรนด์ได้ง่ายอีกด้วย

“ผู้บริโภคต่างล้วนตระหนักถึงความสำคัญของชุมชนมนุษย์มากขึ้นนับตั้งแต่ที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยแต่ละคนต่างมองหาและสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มบุคคลหรือชุมชนที่มีทัศนคติคล้ายกัน แบรนด์ในกลุ่มบริษัทธุรกิจการให้บริการด้านอาหารเหล่านี้ควรที่จะใช้ข้อได้เปรียบของตนเองในการดึงดูดลูกค้าที่มีรสนิยมและค่านิยมตามลักษณะเอกลักษณ์ของแบรนด์ กระนั้น ชุมชนเหล่านี้ที่มีกลุ่มบุคคลที่มีทัศนคติค่านิยมร่วมกันจะสามารถเติบโตไปได้ไกล รวมถึงการกระจายเครือข่ายผู้บริโภคและขยายฐานผู้บริโภคเพื่อสร้างความแตกต่างได้อีกด้วย”

 

Source : Mintel