ฝูงตั๊กแตนนับล้านบุกเคนยา เกษตรกร สู้กลับจับชั่งกิโลขาย


เกษตรกร “เคนยา” เปลี่ยนศัตรูพืช เป็นผลกำไร! สู้ฝูงตั๊กแตนนับล้านบุกฟาร์ม จับชั่งกิโลขายให้กลุ่ม Startup แปรรูปเป็นอาหารสัตว์-ปุ๋ยอินทรีย์

ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มประเทศในแถบแอฟริกาต้องประสบปัญหาฝูงตั๊กแตนจำนวนมหาศาลนับหลายล้านตัว บุกเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก ต่อทั้งตัวเกษตรกรเอง และกระทบถึงระบบอุตสาหกรรมการเกษตรในภาพรวม

ล่าสุดในปีนี้ ที่ประเทศเคนยาได้เกิดภัยพิบัติจากตั๊กแตนที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยสาเหตุเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทะเลที่อุ่นขึ้นส่งผลให้เกิดฝนนอกฤดูกาล ซึ่งช่วยไข่ของแมลงเติบโตได้ดี จนมีตั๊กแตนจำนวนมหาศาล บุกเข้าทำลายพืชผลและพื้นที่เลี้ยงสัตว์

ฝูงตั๊กแตนมีจำนวนมากถึง 40-80 ล้านตัวต่อตารางกิโลเมตร บินเกาะกลุ่มกันยาวกว่า 60 กิโลเมตร และกว้าง 40 กิโลเมตร เดินทางได้ไกลถึง 150 กิโลเมตรต่อวัน บินเป็นฝูงแล้วพุ่งเข้ากัดกินพืชผลทางการเกษตร ซึ่งตัวที่โตเต็มวัยจะกินได้เท่ากับน้ำหนักของตัวมันเอง

“ตั๊กแตนจะทำลายพืชผลทั้งหมดเมื่อบุกถึงฟาร์ม มีจำนวนมากถึงขนาดที่แยกไม่ออกว่าอะไรเป็นพืช อะไรเป็นตั๊กแตน” โจเซฟ เมเจีย เกษตรกรชาวเคนยา กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มสตาร์ตอัพ The Bug Picture ได้เข้าไปช่วยเหลือบรรดาเกษตรกร โดยทำงานร่วมกับชุมชนในเขต Laikipia, Isiolo และ Samburu ทางตอนกลางของเคนยา ช่วยจับและรับซื้อตั๊กแตน เพื่อนำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์โปรตีนสูง หรือปุ๋ยอินทรีย์สำหรับฟาร์ม

“เราพยายามสร้างความหวังในสถานการณ์ที่สิ้นหวังให้ชุมชนนี้ ปรับเปลี่ยนมุมมองของพวกเขาให้เห็นว่าแมลงเหล่านี้เป็นพืชผลตามฤดูกาล ที่เก็บเกี่ยวและขายเป็นเงินได้ สามารถ” ลอรา สแตนฟอร์ด ผู้ก่อตั้ง The Bug Picture กล่าว

เกษตรกรจะจับตั๊กแตนในเวลากลางคืนโดยใช้แสงไฟล่อขณะที่พวกหลับอยู่ตามพุ่มไม้ โดย The Bug Picture รับซื้อในราคา 50 ชิลลิงเคนยา (ประมาณ 15 บาท) ต่อกิโลกรัม ก่อนจะนำไปทำให้แห้ง จากนั้นจึงบดและแปรรูปเป็นผง เพื่ออาหารสัตว์หรือปุ๋ยอินทรีย์ต่อไป