สหรัฐฯ สั่งแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ท่ามกลางความวิตกราคาน้ำมันจะปรับขึ้นอีก


ความไม่สงบที่ก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างรัสเซียกับยูเครนจนส่งผลกระทบไปทั่วทั้งโลก โดยหนึ่งเรื่องที่เห็นผลอย่างชัดเจน คือ “น้ำมัน” ที่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่จบง่าย ๆ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศมาตรการห้ามน้ำเข้าก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันจากรัสเซียเป็นที่เรียบร้อย

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงการณ์ออกมาว่าสหรัฐฯ ระงับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งมีผลโดยทันที ส่วนสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านี้จะให้เวลา 45 วัน ในการจัดการ รวมถึงการสั่งห้ามบริษัท-นักลงทุนสหรัฐฯ เข้าไปลงทุนในภาคพลังงานของรัสเซีย

แน่นอนว่าการออกมาตรการคว่ำบาตรของผู้นำสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่ปูตินสั่งการให้กองทัพรัสเซียบุกเข้าไปในยูเครน โดยการหยุดนำเข้าน้ำมัน และพลังงานจากรัสเซียก็เป็นการหยุดสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ

สำหรับสถิติการนำเข้าน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสำเร็จรูปอื่น ๆ จากรัสเซีย ของสหรัฐฯ พบว่าเฉลี่ยอยู่เดือนละ 20.4 ล้านบาร์เรล คิดเป็น 8% ของการนำเข้าเชื้อเพลิงทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีของรัสเซีย ได้ออกมาเตือนชาติตะวันตกแล้วว่า หากตัดสินใจแบนการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันโลกที่ราคาจะพุ่งทะลุ 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9,900 บาทต่อบาร์เรล) โดยเฉพาะตลาดน้ำมันในยุโรปที่ยังคงต้องพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซีย