ด้วยความอิสระของโลกสื่อสารสมัยใหม่ที่เปิดพื้นที่ให้โอกาสทุกคนได้แสดงความคิด แสดงตัวตนออกมา โดยมีแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในสื่อออนไลน์มาสนับสนุน หากใครชอบถ่ายรูปก็สามารถใช้ Instagram เป็นสื่อกลางในการสื่อความหมายออกไป หากชอบทำวิดีโอ YouTube ก็เป็นสื่อที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้
จากที่กล่าวเป็นแพลตฟอร์มที่คนส่วนใหญ่ล้วนรู้จักกันดี แต่ในอีกมุมหนึ่งยังมีแพลตฟอร์มที่น่าสนใจถึงแนวทางของการเปิดให้ผู้ใช้ได้สร้างคอนเทนต์ตามใจคิด แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึง Onlyfan
Onlyfan เป็นสื่อโซเชียลมีเดียจากประเทศอังกฤษ เปิดบริการเมื่อปี 2016 ซึ่งมีความคล้ายกับแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter โดยเกิดขึ้นมาจากแนวคิดของ Timothy Stokely ที่อยากให้เหล่าครีเอเตอร์กับผู้สนับสนุนได้ร่วมพูดคุยกัน
อย่างไรก็ตาม หากพูดถึง Onlyfan คนไทยจะรู้เข้าใจว่าเนื้อหาที่อยู่ในนั้นจะเป็นเรื่อง Sex แต่แท้จริงแล้ว Onlyfan ที่ยังมีเนื้อหาอื่น ๆ เช่น สอนทำอาหาร, ร้องเพลง ตลอดคนคอนเทนต์ที่แต่ละครีเอเตอร์จะสร้างสรรค์ขึ้นมา เป็นไปได้ว่าที่ Onlyfan กลายเป็นพื้นที่ในเรื่อง Sex Creator เพราะเป็นเรื่องที่ดึงดูดผู้คนมากกว่าเรื่องอื่น ๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ Onlyfan กลายเป็นพื้นที่สร้างรายได้ให้กับเหล่าบรรดา Sex Creator ได้ผลิตคอนเทนต์ เรียกเก็บค่าสมาชิกกับผู้ติดตาม และSubscribe ทั้งแบบแพ็คเกจรายเดือนไปจนถึงราย 3-12 เดือน โดยสมาชิกสามารถดูวิดีโอได้แบบฟรี ๆ เช่นกัน แต่วิดีโอนั้นจะถูกตัดมาเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ หากอยากดูวิดีโอแบบเต็ม ๆ ต้องจ่ายเงิน
เคสตัวอย่างที่สร้างรายได้จาก Onlyfan แบบเป็นกอบเป็นกำ เช่น เบลลา ธอร์น อดีตนักแสดงดิสนีย์ที่สร้างรายได้ราว 31 ล้านบาท โดยผู้รับชมต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน เดือนละ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการจะทำให้ดังนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งรูปแบบเนื้อหาที่ดึงดูดให้คนติดตาม, คะแนนความนิยมที่จะได้รับ และหากเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จัก หรือเป็นเน็ตไอดอลย่อมสร้างความได้เปรียบกว่าคนทั่วไป
เราต้องเข้าใจก่อนว่ามุมมองเรื่อง Sex ในสังคมไทย และสังคมต่างประเทศไม่เหมือนกัน ของประเทศไทยอาจมีเรื่องศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ในต่างประเทศอาจจะมองว่าเรื่องนี้ปกติ หากใครที่จะเข้ามาตรงนี้ต้องรับกับสิ่งที่ตามมา รวมถึงแรงเสียดทานต่าง ๆ ให้ดี
หากมองในมุมธุรกิจปัจจุบัน Onlyfan มีสมาชิกผู้ใช้งานมากกว่า 130 ล้านราย สร้างรายได้ถึง 12,300 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้บีพีเอส กรุงเทพฯ ต่อด้วย ห้องเมฆาบอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ HP Latex พร้อมด้วยผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์
ธุรกิจร้านอาหาร แม้จะเปิดง่าย แต่ดำเนินการยาก สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการคำนวณต้นทุนที่กลายเป็นปัญหา และอุปสรรคสำคัญ เพราะหากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกำไร-ขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ มองข้ามไปไม่ได้
หลังจาก Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติสหรัฐฯ มีอันต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 9 ปีในประเทศไทย เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำ โดยทุกสาขาจะปิดตัวลงวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้
