ICE MONSTER น้ำแข็งไสตัวตึง !! ที่เจน 90’ คิดถึง


ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จู่ ๆ ก็มีกระแสธุรกิจน้ำแข็งไส ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’ โหมกระพือ ถูกขุดขึ้นมาพูดถึงเป็นวงกว้าง หลังจากมีประเด็นดราม่า(นิดหน่อย) เรื่องของ ‘เมนูปังชา’ อย่างที่หลายคนทราบกันดี

ประเด็นดังกล่าวกระทบชิ่ง ! ทำเอาหนึ่งในผู้บริหารแฟรนไชส์ ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’ ที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกโดยย้อนกลับไปกว่า 10 ปีที่แล้ว คือ คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ถือโอกาสออกมาแง้ม ๆ ผ่านสื่อต่าง ๆ ว่า มีลุ้นจะนำกลับมาบริหารอีกครั้ง ทำเอาสายหวานหรือสาวกน้ำแข็งไส ต่างตั้งตารออย่างมีความหวังกันเลยทีเดียว

SMART SME ไม่รอช้า ขอถือโอกาสนี้ ย้อนวันวานยังหวานอยู่ สำหรับวัยรุ่นยุค 90’ หลาย ๆ คนที่เคยได้สัมผัสรสชาติของน้ำแข็งไส ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’ ให้หายคิดถึง ถือเป็นการเรียกน้ำย่อย และชิมลางไปพลาง ๆ ก่อน เผื่อว่า ‘พี่หนุ่ม’ จะหยิบธุรกิจนี้กลับมาปัดฝุ่นบริหารจริงจังอีกครั้ง

มาลองติดตามเส้นทางความเป็นมาของแบรนด์ดังกล่าว ตลอดจนหลักการบริหารแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จของแฟรนไชส์ ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’ ที่เคยได้ชื่อว่า เป็นต้นแบบและแบรนด์เบอร์ต้น ๆ ของแฟรนไชส์น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะในเมืองไทยก็ว่าได้

เปืดประวัติ ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’

ปี พ.ศ.2546 (ปี 2003) โลกได้รู้จักกับเมนูน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ เมนูของหวานเย็น ๆ ที่ใช้น้ำแข็งมาทำให้เป็นเหมือนเกล็ดหิมะ มีส่วนผสมของผลไม้สดหลากหลายชนิด ราดด้วยซอสและท็อปปิ้งอื่น ๆ อีกแบบจุก ๆ เช่น เยลลี่ คอนเฟล็กซ์ ซีเรียล คุ๊กกี้ ขนมหวานต่าง ๆ จัดเสิร์ฟในภาชนะเป็นถ้วยไอศกรีมกิ๊บเก๋น่ากินแบบสุด ๆ

โดยไอเดียนี้ จากข้อมูลสื่อต่าง ๆ ระบุว่า กำเนิดเกิดขึ้นจากนักธุรกิจชาวฟิลิปปินส์ที่ชื่อว่า ‘เจอราร์ด ลิม’ (Gerard Lim) ที่หยิบไอเดียจากขนมหวานชนิดนี้มาพัฒนาจนกลายมาเป็นแบรนด์ ‘ไอซ์ มอนสเตอร์’ (Ice Monster) ในชื่อ บริษัท ไอ ดู ไอซ์ จํากัด โดยเมนูดังกล่าวได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักผ่านสื่อโซเชียลฯ โด่งดังไปในหลาย ๆ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทยเองด้วยเช่นกัน จึงเริ่มมีนักลงทุน นักธุรกิจสนใจในการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำเข้ามาบริหารในประเทศ

ซึ่งเจ้าแรก ๆ ที่หลายคนจำได้ เปิดตัวในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ.2549 (ปี 2006) ในชื่อ ‘ไอซ์ มอนสเตอร์’ นี่เอง โดยเริ่มทำตลาดเปิดให้บริการสาขาแรกที่สยามสแควร์ จากนั้นได้ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

โดยข้อมูลในปี พ.ศ.2552 เปิดเผยว่า ไอซ์ มอนสเตอร์ ในไทยมีสาขาทั้งหมด 33 แห่ง ก่อนจะเริ่มหายไปทีละสาขาอย่างน่าใจหาย ซึ่งหลายคนที่เป็นวัยรุ่นยุค 90’ ถ้ายังจำกันได้ คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารและหุ้นส่วนของแบรนด์นี้ด้วยเช่นกัน

โดยธรรมชาติ เทรนด์กระแสธุรกิจมีขึ้นถึงขีดสุด ก็ย่อมมีวันเอาท์ !! ธุรกิจน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะก็เช่นกัน ที่ย่อมต้องถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์อาหารรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์และโดนใจของผู้บริโภคในแต่ละยุคสมัยมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม กราฟการเติบโตของ ‘ไอซ์มอนเตอร์’ ต้องบอกว่า สามารถไต่ระดับแตะ Everest ถึงขีดสุดมาแล้วเช่นเดียวกับอีกหลาย ๆ แบรนด์แฟรนไชส์ในยุคนั้น ซึ่งมีปัจจัยที่หนุนนำที่ทำให้ ICE MONSTER ‘ไอซ์มอนเตอร์’ ประสบความสำเร็จ ได้แก่..

ปัจจัยความสำเร็จหนุน..‘ไอซ์ มอนสเตอร์’ คือ ต้นแบบร้านน้ำแข็งไสพรีเมียม

• ภาพลักษณ์เป็นแบรนด์พรีเมียม เป็นร้านขนมหวานน้ำแข็งไส ในยุคนั้นถือเป็นเจ้าแรก ๆ เพราะยังไม่มีใครเคยทำตลาดอย่างจริงจังในประเทศไทย

• เป็นรูปแบบการลงทุน TYPE คือ Shop และ Kiosk ที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นชัดเจน มีระบบการบริหารจัดการร้านที่ได้มาตรฐาน

• การคัดเลือก Location ของแบรนด์ โดยต้องเป็นสถานที่ที่เปิดแล้วต้องได้ยอดขายตามเป้าและประสบความสำเร็จแน่นอน ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ , เส้นทางการคมนาคมหรือตามแหล่งท่องเที่ยว หัวเมืองใหญ่

• การจัดทำโปรโมชันของร้านและแต่ละสาขาอย่างสม่ำเสมอ มีเมนูออกใหม่ ๆ ตามฤดูกาล และเข้าถึงกลุ่มลูกค้า รวมถึงการตั้งราคาขายที่เข้าถึงทุกกลุ่มผู้บริโภค จับต้องได้ อิ่มอร่อยคุ้มค่า เช่น ลดราคาเหลือเมนู 99 บาท จากราคาปกติ 125 บาท เป็นต้น

• มีผู้บริหารหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักในสังคมไทย ทำให้แบรนด์น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนนำทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จในระยะเวลารวดเร็ว

ถอดบทเรียน ‘ไอซ์มอนเตอร์’ จดจำ..และนำไปทำตาม

อย่างไรก็ตาม แอดมิน เชื่อว่า น้ำแข็งไสเกล็ดหิมะ ไม่มีวันตาย ! แค่รอคนนำกลับมาปัดฝุ่น รอจังหวะเวลา โอกาสที่เหมาะสมอีกครั้ง รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ที่เข้ามาแล้วก็ผ่านไป แต่เดี๋ยวก็จะกลับมาสู่เทรนด์อีกครั้ง วนซ้ำเป็นเช่นนี้

แต่สำหรับเพื่อน ๆ ที่เป็นสายหวาน เป็นเดอะแก๊งที่เติบโตมากับ ‘ไอซ์มอนเตอร์’ หรือร้านน้ำแข็งไส ร้านไอศกรีม ร้านบิงซู ที่เคยเป็นตำนาน แล้วอยากต่อยอดไอเดียนั้น เปิดเป็นร้านของตัวเอง แต่ก็กลัวจะไปไม่รอด กลัวต้องปิดกิจการเข้าสักวัน..

แอดมิน มีข้อแนะนำสำหรับการเตรียมความพร้อม เพื่อให้ร้านขนมหวานหรือร้านน้ำแข็งไสของคุณไปต่อได้ยาว ๆ มาฝากกัน ทั้งนี้ วิธีดังกล่าวนี้ ไม่ใช่ว่าทำตามแล้วธุรกิจจะไม่มีวันเจ๊ง ! แต่เป็นการลดความเสี่ยง ล้อมคอกไว้ก่อนที่วัวจะหาย เพื่อให้คุณได้บริหารธุรกิจและเก็บเกี่ยวผลกำไรให้ได้นานที่สุด

รู้จักสินค้าของคุณให้มากพอ คือคุณต้องมีความรู้ ต้องเป็น..อับดุลเอ้ย ! ให้กับลูกค้าที่สอบถามในตัวสินค้าและธุรกิจของคุณ โดยถ้าคุณยิ่งรู้ลึกรู้จริง ยิ่งทำให้แบรนด์และตัวตนของคุณดูน่าเชื่อถือ ธุรกิจได้รับความเชื่อมั่น จะสามารถสร้างฐานลูกค้าได้เป็นวงกว้างและยืนหยัดอยู่ได้ในระยะยาว

ต้องใจถึง ! คำ ๆ นี้ใช้ได้สำหรับทุก ๆ ธุรกิจ และทุก ๆ ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะขายอาหาร ขนมหวาน ของว่างที่มีเครื่องเคียง ท็อปปิ้ง ยิ่งต้องให้เยอะ ๆ จัดหนัก ๆ ให้ลูกค้าร้องขอชีวิต ! เพราะแสดงถึงความคุ้มค่า ที่ลูกค้าพร้อมที่จะจ่าย หากได้รับความประทับใจในเรื่องรสชาติ เรื่องคุณภาพสินค้า เรื่องบริการของคุณกลับคืนมา.. เท่าไหร่ก็เท่ากัน !

Engagement เยอะ ๆ อย่าแผ่ว ! สร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าของคุณให้สม่ำเสมอ ใกล้ชิดประดุจเป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วลูกค้าของคุณจะรู้สึกประทับใจ จงรักภักดีกับแบรนด์ของคุณอย่างเหนียวแน่น เช่น ใครเกิดวันนี้ สั่งเมนูในร้านลด 50% หรือ ฟรี !! ไปเลย หรือ.. การตั้งคำถาม Q & A อาจจะเกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ ลูกค้าที่เข้ามาวอล์คอินหน้าร้านก็ได้ ตอบถูกได้รับส่วนลด หรือให้เป็น Gift Voucher สะสมคะแนนใช้ในโอกาสต่อไป เป็นต้น

การสร้างแบรนด์ การทำธุรกิจ ย่อมมีเกิด ตั้งอยู่ ดับไป เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การจะทำให้แบรนด์ตั้งอยู่ ดำรงอยู่ได้นาน ๆ และมั่นคงจริง ๆ ก็สามารถทำได้ ดังเช่นอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่กาลเวลาผ่านล่วงเลยกว่า 50-100 ปี ก็ยังคงดำเนินธุรกิจอยู่เช่นทุกวันนี้

โดยปัจจัยที่ทำให้แบรนด์อยู่ได้มีหลายอย่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น แต่เปอร์เซ็นต์สัดส่วนที่มากที่สุดที่เป็นตัวแปรและจุดเปลี่ยนสำคัญที่ชี้วัดว่า.. จะไปต่อ..หรือพอแค่นี้ คือ ‘ตัวคุณ’