Chatty Bag กระเป๋า Indy Idea สร้างรายได้ เดือนละ 50,000 – 60,000 บาท


ความสำเร็จในการประกอบธุรกิจนั้น ปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่ที่สามารถประสบผลสำเร็จในทางธุรกิจมีเป็นจำนวนมาก จากงานประจำมาประกอบธุรกิจส่วนตัวด้วยความฝันที่อยากจะมีอาชีพที่เป็นของตัวเอง จึงสร้างผลิตภัณฑ์กระเป๋าที่เป็นเอกลักษณ์ของตนภายใต้คอนเซ็ปต์ Indy Idea โดยมีแบรนด์ชื่อว่า Chatty Bag

จุดเริ่มต้นธุรกิจ

คุณสุพจน์ เหมพรวิสาร (พจน์) และ คุณปริฉัตร ภระมรทัต (ฉัตร) คู่หนุ่มสาวเจ้าของร้าน “285 Shop” เล่าถึงที่มาว่า เดิมที่ทำงานประจำอยู่ แต่มีแนวคิดที่อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งตอนนั้นที่บ้านของ คุณพจน์ ผลิตกระเป๋าแฟชั่นส่งตามประตูน้ำ สำเพ็ง อยู่แล้ว ด้วยความที่ทั้งคู่เป็นคนที่มีแนวคิด มีไอเดียสร้างสรรค์จึงเริ่มออกแบบกระเป๋า แล้วลองทำขายโดยใช้ความรู้จากธุรกิจของที่นำมาผสมผสานดัดแปลงในชิ้นงานที่แตกต่างจากท้องตลาด

ความโดดเด่นของแบรนด์ Chatty Bag อยู่ที่

ดีไซน์ ที่มีรูปแบบการใช้งานที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในกระเป๋าหนึ่งใบจะสามารถนำมาใช้ได้ถึง 2 รูปแบบ อย่างเช่นกระเป๋าสามเหลี่ยมสะพายข้าง ก็สามารถปรับให้เป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมที่สามารถใส่ของได้เยอะขึ้น ด้วยความตั้งใจที่อยากจะให้กระเป๋ามีความแตกต่างจึงออกแบบมาให้มีลักษณะการใช้งานได้ 2 แบบ ในใบเดียวกัน หรือ 2 IN 1 นั่นเอง หรืออีกรูปแบบก็คือ ทรงถุงทะเล ก็ยังสามารถปรับให้เป็นรูปแบบสะพายข้างที่มีพื้นที่ใส่ของได้มากขึ้น เพียงแค่ปรับสายสะพายเท่านั้น

ซึ่งความโดดเด่นเพียงแค่รูปแบบดีไซน์ วัสดุที่นำมาใช้ก็ทนทาน เป็นวัสดุอย่างดี ที่คุณพจน์ และคุณฉัตร เลือกใช้วัสดุอย่างดีนั้น เพราะต้องการให้กระเป๋าทุกใบออกมามีคุณภาพ เหมาะสมกับราคา และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า วัสดุหลักที่นำมาทำกระเป๋าจะแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ผ้าแคนวาส และหนังเทียม หรือ PVC ซึ่งทุกชิ้น ทุกใบ เป็นงานที่ออกแบบดีไซน์เองทั้งหมด เป็นงานแฮนด์เมดทุกชิ้น ราคาขายก็ไม่แพง มีเริ่มต้นที่ 280 – 1,600 บาท นอกจากนี้ยังสามารถนำกระเป๋ากลับมาซ้อมแซมใหม่ได้อีกด้วย

ในส่วนกำลังการผลิตนั้น

คุณพจน์ บอกว่า จะสามารถผลิตได้อยู่ที่เดือนละ 100 ใบขึ้นไป สาเหตุที่จำนวนไม่เยอะเพราะเป็นงานแฮนด์เมด จะต้องมีความประณีตกับชิ้นงาน ส่วนของต้นทุนแต่ละใบจะอยู่ที่ประมาณ 50% – 60% ของราคาขาย ต่อเดือน คุณพจน์ และคุณฉัตร มีรายได้อยู่ที่เดือนละ 50,000 – 60,000 บาท นอกจากนี้ยังมีส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว และส่งให้ผู้ที่สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายในราคาส่ง ซึ่งตัวแทนจำหน่ายสามารถไปตั้งราคาขายได้ถึงเท่าตัว อย่างเช่น กระเป๋าราคาหน้าร้าน 590 บาท ราคาส่งจะอยู่ที่ 280 บาท เป็นต้น

กลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์

จะเป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย หรือ กลุ่มคนที่ชอบงานแฮนเมด แผนพัฒนาธุรกิจในอนาคต คุณพจน์ และคุณฉัตร วางแผนไว้ว่ากลังจะพัฒนาจากหนังเทียมให้เป็นหนังแท้ เพื่อลองรับลูกค้าชาวต่างชาติ และการส่งออก เพราะต่างชาติชอบในรูปแบบของหนังแท้มากกว่า ที่สำคัญกำลังการซื้อของคนต่างชาติมีมาก ซึ่งถ้าเจาะกลุ่มนี้ได้มากขึ้นก็จะเป็นการเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้นอีกด้วย อีกทั้งจะประชาสัมพันธ์ แบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และจะมีการออกแบบใหม่ๆ ออกมาอยู่เรื่อยๆ

ธุรกิจของ คุณพจน์ และคุณฉัตร ดำเนินมาเป็นเวลา 4 ปี แล้ว แน่นอนว่าจะต้องพบเจอกับอุปสรรค์ ปัญหาในการทำธุรกิจอย่างแน่นอน คุณพจน์ เล่าว่า ปัญหาที่เจอคือ กำลังการผลิตไม่ทัน เพราะกลุ่มที่ผลิตนั้นเป็นกลุ่มเพื่อนที่เข้ามาช่วยกันทำ ฉะนั้นจึงไม่สามารถกำหนดให้ผลิตได้มากขึ้น เพราะทุกคนมีงานประจำกันอยู่แล้ว และอีกหนึ่งปัญหาก็คือ จะมีช่วงที่ขายได้ไม่มาก จะเป็นช่วงหน้าฝนแต่หลังจากหน้าฝนลูกค้าจะมีความต้องการเยอะมากจนทำไม่ทัน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการจ้างคนนอกมาช่วยผลิตเพิ่มขึ้นกว่าจะมาถึงความสำเร็จในวันนี้ คุณพจน์ เล่าว่า จะต้องมีความขยัน ขยันคิด ขยันหางาน ขยันหาแรงบันดาลใจ ยิ่งเป็นงานประเภทใช้ไอเดียด้วย หากไม่มีไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้นงานก็จะไปต่อไม่ได้

คุณพจน์ ยังฝากถึงคนที่อยากจะเริ่มต้นทำธุรกิจ ว่า

“อย่างแรกเราต้องหาตัวเองให้เจอเสียก่อน ถ้าเรารู้ว่ามีความชอบทางด้านไหน ถนัดทางด้านอะไรเราก็ควรจะเริ่มจากตรงนั้นเสียก่อน แต่จริงแล้วแค่จุดเล็กที่เราลงมือทำ ซักวันมันอาจจะใหญ่ขึ้นมาก็ได้ อย่างผมที่เริ่มต้นจากบ้านที่ทำกระเป๋า ผมไม่เคยที่จะขึ้นจักร ไม่เคยลงมือไปทำอย่างจริงจัง เพียงแค่ช่วยเล็กๆ น้อยๆ จากการลงมือทำเพียงแค่จุดเล็ก ก็สามารถนำมาพัฒนาให้มันใหญ่ขึ้น จนสามารถประสบความสำเร็จได้”

สำหรับผู้ที่สนใจในกระเป๋า Chatty Bag หรือ อยากจะเป็นตัวแทนจำหน่ายก็สามารถไปได้ที่ สวนจตุจักร โครงการ 21 ซอย 1 เปิดเฉพาะ เสาร์ – อาทิตย์ หรือ โทร.08-4876-1443 หรือคลิก facebook.com/Chatty Bag

[บทความทั้งหมด] | [คลิปรายการทั้งหมด]