ในปัจจุบันมีผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องของการดูแลสุขภาพร่างกายเป็นสำคัญ ทั้งออกกำลังกาย และเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นประโยชน์มากขึ้น โดยในปีที่ผ่านมาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสุขภาพส่วนใหญ่มีผลการเติบโตที่ดีมาก ทั้งในแง่ของรายได้และชื่อเสียงของแบรนด์เมื่อเทียบกับสินค้าในอุตสาหกรรมอื่นๆ
อย่างธุรกิจ “นมพร้อมดื่ม” ที่ตอนนี้ในประเทศไทยมีมูลค่าทางการตลาดสูงถึง 55,000 ล้านบาท ทั้งนมวัว, นมถั่วเหลือง, นมเปรี้ยว นมผสมมอลต์ที่เป็นยูเอชทีพาสเจอไรซ์ และสเตอริไลซ์ ซึ่งนับว่าเพิ่มกว่าปีก่อนถึง 3% ดังนั้นแนวโน้มการบริโภคเครื่องดื่มประเภทนมจะเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ธุรกิจ love milk ของคุณปรีดา มอญปาน มุ่งสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้สามารถดำเนินธุรกิจมานานกว่า 6 ปี และตอนนี้มีการเปิดสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 30 สาขา จนสามารถรวมสาขาที่เปิดได้ทั้งหมด 230 สาขา โดยกำไรของธุรกิจนี้จะอยู่ที่ราว 70% ของยอดขาย ซึ่งสะท้อนให้ถึงเห็นภาพความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ love milk เป็นอย่างมาก
“ทุกเมนูของ Love milk ไม่ว่าจะซื้อที่สาขาไหนก็ตามจะมีรสชาติที่อร่อยเหมือนกัน ซึ่งทางเราจะคงมาตรฐานให้ดีที่สุด ให้เครื่องดื่มทุกแก้ว ทุกเมนู ส่งถือมือลูกค้าอย่างน่าภูมิใจ ถึงแม้ธุรกิจ Love Milk จะกลายเป็นที่รู้จักของทุกคน แต่ทางเราก็ยังคงต้องโปรโมททำการตลาดแบรนด์ Love Milk อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่การออกงานอีเว้นท์ต่างๆ ทั้งในกทม. และต่างจังหวัด เพราะเชื่อว่าแม้วันนี้ธุรกิจจะมีกว่า 230 สาขาแล้ว แต่ก็เชื่ออีกว่ายังมีกลุ่มลูกค้าอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จักแบรนด์ของเรา” คุณปรีดา มอญปาน กล่าว
ส่วนสำหรับในเรื่องของการแข่งขันคุณปรีดา มอญปาน ได้บอกว่า ในวงการตลาดทั่วไปมีธุรกิจประเภทนี้จำนวนมาก แต่ส่วนมากเปิดมาก็มีปิดไปมากเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นเพราะแบรนด์ต่าง ๆ ทำธุรกิจโดยไม่ได้ศึกษาตลาดเชิงลึกมาก่อน หรือศึกษาเรื่องของระบบแฟรนไชส์ได้ไม่ดี ส่งผลให้การตอบรับออกมาไม่ตรงตามที่คิด เพราะฉะนั้นตลอดเวลาที่ผ่านมาจุดแข็งของ Love Milk คือ เรื่องของดีไซน์รูปแบบร้านที่ไม่เหมือนใคร ที่มีทั้งแบบเคาน์เตอร์ และรถตู้โฟล์ค ซึ่งตัวโฟล์คนี้เองได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ love milk ไปแล้ว โดยลูกค้าสามารถจดจำกันได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญทางเรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษา มีทีมช่างออกแบบร้านส่วนตัว มีกราฟฟิกดีไซน์ มีเครื่องพิมพ์ที่สามารถผลิตป้ายหน้าร้าน หรือ ป้ายธงรูปแบบต่างๆ ดังนั้นไม่ว่าจะต้องการเปิดร้านขนาดใหญ่เงินลงทุนหลักล้าน หรือต้องการร้านเล็กๆ มีเคาน์เตอร์ มีรถตู้โฟล์ค ซึ่งทางเราสามารถตอบโจทย์เรื่องของการลงทุนได้หมด
ทั้งนี้คุณปรีดา ได้พูดถึงการงบประมาณการลงทุนแฟรนไชส์ของธุรกิจ love milk ว่า หากต้องการลงทุนแบบเคาน์เตอร์นั้น จะมีให้เลือกหลายระดับ ทั้งแบบเคาน์เตอร์ขนาดเล็ก 1.3×1.5 ม. พร้อมอุปกรณ์ เงินลงทุนจะอยู่ที่ 55,000 บาท เคาน์เตอร์ขนาดกลาง 1.6 x 1.6 ม. (ตัว L) พร้อมอุปกรณ์ + โต๊ะ 2 ชุด เงินลงทุน 75,000 บาท และถ้าเป็นเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ 1.9 x 2.4 (ตัว L หรือ U) พร้อมอุปกรณ์ +ตู้ซิงค์ด้านหลัง และโต๊ะ 2 ชุด เงินลงทุนจะอยู่ที่ 120,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการลงทุนแบบรถตู้โฟล์ค Volkswagen ซึ่งถ้าหากเป็นรถตู้ที่ขับไม่ได้ พร้อมอุปกรณ์ + โต๊ะ 6 ชุด เงินลงทุน 200,000 บาท ส่วนรถตู้ที่ขับได้มีทะเบียนพร้อมอุปกรณ์ + โต๊ะ 6 ชุด เงินลงทุน 350,000 บาท และถ้าเป็นแบบรถตู้เล็ก รวมอุปกรณ์และตกแต่งพร้อม + โต๊ะพับ 4 ชุด เงินลงทุน 455,000 บาท (รถใหม่ป้ายแดง ราคารถ 355,000+อุปกรณ์แฟรนไชส์ ฯลฯ 100,000 บาท) เพราะฉะนั้นการลงทุกรูปแบบจะรวมทั้งอุปกรณ์การขายและวัตถุดิบต่างๆพร้อมเปิดขายได้ทันที เช่นเคาน์เตอร์-ป้ายร้าน-ป้ายเมนู-สูตรเครื่องดื่มร้อน-เย็น-ปั่น ต่างๆ อุปกรณ์ เตาปิ้ง หม้อนึ่ง เครื่องปั่น กระติกน้ำร้อน วัตถุดิบ กว่า 40 รายการ นอกจากชุดลงทุนดังกล่าวแล้ว ทางร้านยังออกแบบร้านให้ตามสถานที่ และตามงบประมาณอีกด้วย
ส่วนเป้าหมายการสร้างความสำเร็จในปี 2558 ก็คงต้องพยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ต้องรักษาคุณภาพให้คงที่ อย่าให้เกิดความผิดพลาด ส่วนแผนการที่จะขยายออกสู่ต่างประเทศนั้น ก็มีนักลงทุนทั้งจากมาเลเซีย และสปป.ลาว ติดต่อมา แต่อยู่ในช่วงของการพูดคุย นอกจากนี้ในภายปีนี้ ได้มีโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์อาหารใหม่เกิดขึ้น คือ แฟรนไชส์ “ไอ แอม ซูชิ & สเต็กข้างทาง” ส่วนเหตุผลที่มาทำธุรกิจนี้ เพราะตั้งใจที่จะเปิดร้านซูชิมาตั้งนานแล้ว แต่ตอนนั้นยังต้องทุ่มเทและดูแล Love Milk ก่อน สำหรับคอนเซ็ปท์ของ “ไอ แอม ซูชิ & สเต็กข้างทาง” ก็คือซูชิ หรือสเต็ก จะทำบนรถโฟล์ค หรือในร้านจะมีรถโฟล์คโชว์เป็นสัญลักษณ์เลย ช่วยให้ร้านดูน่าสนใจ และดึงดูดสายตาของลูกค้า ทั้งนี้ในเรื่องของรูปแบบการตกแต่งร้านก็จะเป็นสไตล์ญี่ปุ่น ส่วนเรื่องรสชาติ และคุณภาพของเมนูรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้าหากลูกค้าคนใดสนใจที่จะเข้ามาเป็นหนึ่งในธุรกิจกับเรา ลูกค้าสามารถซื้อแฟรนไชส์เฉพาะ ซูชิ หรือ สเต็ก หรือจะซื้อทั้งหมด รวมถึง Love Milk ก็ได้ ซึ่งภายในปีนี้คาดกว่าแฟรนไชส์ “ไอ แอม ซูชิ & สเต็กข้างทาง” จะมีถึงราว 20 สาขาได้