ล้มแล้วลุก จากอาหารอิตาเลียน เปลี่ยนเป็นเบอร์เกอร์ อร เดอะโรสด์

        “ปาณิศา เกลล์” หรือคุณอร ผิดพลาดจากธุรกิจร้านอาหารอิตาเลียนที่ดำเนินการมีกว่า 30 ปี แต่แล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่ โดยทำรถขายอาหารเคลื่อนที่แทน

        ธุรกิจเบอร์เกอร์ทั้งหลายควรต้องรู้ เพราะการขายตามหน้าร้านธรรมดานับว่าเป็นสิ่งที่จืดชืดไปเสียแล้ว เมื่อเจอกับการขายแบบรถเคลื่อนที่ ‘Orn The Road Burger’ พร้อมจัดวัตถุดิบคุณภาพอย่างดีเสิร์ฟลูกค้า อีกทั้งสูตรการทำยังมาจากอเมริกาอีกด้วย ซึ่งทำให้ปัจจุบันธุรกิจไต่สู่ยอดการค้าได้อย่างสง่างาม รวมไปถึงขยายกิจการแฟรนไชส์ทั่วไทยแล้ว

        รถขายอาหารเคลื่อนที่เป็นอีกหนึ่งความนิยมที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย “ปาณิศา เกลล์” หรือคุณอร ได้ไอเดียรถขายเบอร์เกอร์สัญชาติอเมริกัน โดยได้สูตรจากลูกสาวที่ไปเรียนต่อยังต่างประเทศมาทำ แต่ว่าก่อนที่จะดำเนินธุรกิจนี้ได้ คุณอรเคยล้มจากธุรกิจร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนมาแล้ว ทำให้ต้องตัดสินใจล้มเลิกธุรกิจที่เธอรักและทำมานานกว่า 30 ปีไป เพราะทนพิษเศรษฐกิจในปี 2555 ที่ผ่านมาไม่ไหว ดังนั้นจึงหันหน้าเข้าสู่ธรรมะปฏิบัติธรรมเพื่อกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในปี 2557 แต่ในความโชคดีของตนที่มีลูกค้าเสนอไอเดียให้เปิดร้านขายเบอร์เกอร์ โดยใช้รถขายอาหารเคลื่อนที่ (Food Truck) มาเป็นจุดดึงดูดลูกค้า พร้อมเน้นคุณภาพวัตถุดิบ และรสชาติเป็นสำคัญ 

        ส่วนทางด้านกระบวนการทำเบอร์เกอร์เริ่มจากการเลือกขนมปังที่เป็นสีดำสร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พร้อมมีส่วนผสมของผักเป็นสูตรเฉพาะที่สั่งตรงจากร้านเบอร์เกอร์สัญชาติอิตาเลียน พร้อมกับเครื่องเทศที่นำเข้าจากอเมริกา ส่วนเนื้อวัวและเนื้อหมูเน้นคุณภาพ โดยต้องมีความหนาขนาด 1 นิ้ว เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสชาติเนื้อเต็มๆ ซึ่งความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือ น้ำซอสจะเป็นสูตรของทางร้านที่ผลิตขึ้นเอง มีรสละมุม หอมกรุ่น ชวนให้คนในละแวกใกล้เคียงอดใจไม่ไหวต้องแวะเข้ามาชิม ดังนั้นเมนูเบอร์เกอร์มีให้เลือกถึง 8 เมนูคุณภาพ ได้แก่ 1. เพลนเบอร์เกอร์ 2. แบงค็อกเบอร์เกอร์ 3. แบล็กแอนด์บลูเบอร์เกอร์ 4. เคเจ้นเบอร์เกอร์ 5. ดั๊กซี่ เบอร์เกอร์ 6. นิวออร์ลีนส์ 7. ซานฟรานซิสโก และ 8. สยามเบอร์เกอร์นอกจากนั้นยังมีเครื่องเคียง เช่น เบคอน หอมใหญ่ ชีส พริกเม็กซิกันดอง เฟรนช์ฟราย อีกด้วย

        ฉะนั้นเมนูเบอร์เกอร์ของทางร้านส่วนใหญ่จะมีรสชาติเฉพาะตัว อย่าง เพลนเบอร์เกอร์ จะเป็นรสชาติดั้งเดิม, แบงค็อกเบอร์เกอร์ รสชาติจะเผ็ดจัดจ้าน มีส่วนผสมของมะนาว น้ำปลา สไตล์คนไทยชอบ, แบล็กแอนด์บลูเบอร์เกอร์ (ขายดี) จะเน้นเครื่องเทศ หอมหัวใหญ่ ราดด้วยซอสบลูชีส, เคเจ้นเบอร์เกอร์ เป็นเบอร์เกอร์เน้นครื่องเทศเคเจ้น ส่วนดั๊กซี่เบอร์เกอร์ (ขายดี) จะราดด้วยซอสบาร์บีคิวผสมเหล้าเคี่ยวนาน 4 ชั่วโมง, นิวออร์ลีนส์เบอร์เกอร์ เน้นซอสกระเทียม รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ ขณะที่ ซานฟรานซิสโกเบอร์เกอร์ จะราดด้วยซอสใบพาร์สลีย์ และชิ้นสุดท้ายสยามเบอร์เกอร์ จะราดด้วยซอสมะขาม รสชาติเหมือนน้ำจิ้มแจ่ว โดยราคาแบบธรรมดาจะอยู่ที่ชิ้นละ 140 บาท ส่วนพรีเมียมชิ้นละ 240 บาท 

         นอกจากความโดดเด่นในเรื่องรสชาติและคุณภาพของอาหารแล้ว รถที่คอยบริการเคลื่อนที่’Orn The Road Burger’ จะมีสีส้มจัดจ้านสามารถดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยประมาณ 70% ทุกเพศทุกวัยที่เป็นขาประจำ อีก 15% เป็นชาวยุโรป อเมริกัน และที่เหลือเป็นชาวญี่ปุ่นประมาณ 15%  ดังนั้นการที่เราเลือกรถเคลื่อนที่เป็นหน้าร้านก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีคือ ไม่ต้องเสียค่าเช่าร้านค้า เคลื่อนย้ายไปตามทำเลต่างๆ ได้คล่องตัว และสะดวกต่อการออกร้านนอกสถานที่ แต่ขณะเดียวกันข้อเสียคือ ต้องหาทำเลที่เหมาะสมไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น และบางครั้งต้องเสียค่าบำรุงท้องที่ด้วย เพราะเราใช้พื้นที่ฟุตบาทและถนน ทำให้ขณะนี้ที่จอดรถแบบประจำยังไม่มี เพราะเดิมใช้พื้นที่ในซอยทองหล่อ ระหว่างซอย 11 กับ 13 เป็นที่ตั้งร้าน แต่ล่าสุดทำเลดังกล่าวเปลี่ยนเจ้าของทำให้ต้องย้ายที่ขายไป ส่วนแผนธุรกิจในอนาคตคุณอรบอกว่า ตอนนี้ได้เปิดขายแฟรนไชส์ให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเจรจาธุรกิจได้ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยรูปแบบเป็นรถขายอาหารเคลื่อนที่ ใช้เงินลงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท ฝึกอบรมประมาณ 1 เดือน ใช้วัตถุดิบของทางร้านทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันมีผู้สนใจแล้วหลายราย แต่เมนูอาหารก็จะเพิ่มใหม่ทุกเดือน เมนูไหนขายไม่ได้จะถูกตัดออกเพื่อให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด