ฟูจิ เป็นไปได้!…ธุรกิจลงทุนด้วยเงินหมื่นทะยานสู่สิบล้าน


         กล้าที่จะลงทุน พร้อมที่จะเสี่ยง อย่างธุรกิจแบรนด์ฟูจิที่ลงทุนด้วยเงินหนึ่งหมื่นบาท จนทำให้ปัจจุบันธุรกิจก้าวกระโดดสู่เงิน 10 ล้าน กับการนำนวัตกรรมใหม่ที่เป็นผลิตภัณฑ์ “ครีมพิษผึ้ง” แบรนด์ฟูจิมานำเสนอ บวกกับการบริหารธุรกิจที่ชาญฉลาด รู้จักหลักการตลาด และศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค จนกระทั่งประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี

         ครีมหอยทากและครีมพิษผึ้ง เป็นหนึ่งในสินค้าที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์ “ฟูจิ” ในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติของสินค้าที่เห็นผลได้เร็วทันใจ ไร้สารเคมี แถมยังมีราคาที่ย่อมเยาอีกด้วย และที่สำคัญสินค้าแบรนด์ฟูจิได้มีโอกาสวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อชื่อดังในรูปแบบซองสะดวกใช้งาน ที่มีราคาเพียง 35-39 บาทเท่านั้น ส่งผลยอดขายในปัจจุบันทะลุ 10 ล้านบาท ฉะนั้นถึงแม้การดำเนินธุรกิจจะสามารถเติบโตมาได้เป็นอย่างดี แต่เส้นทางธุรกิจนี้ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะต้องแลกมาด้วยความอดทนและพยายามในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยคุณสุธีตา บุนนาค หรือคุณก้อย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟูจิครีม ดอทคอม จำกัด ซึ่งเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่วัยเพียง 30 ต้น ๆ แต่สามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้มาจากสิ่งใกล้ตัวที่ ทั้งนี้เพราะคุณก้อยเป็นคนมีผิวพรรณที่แพ้ง่ายต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของเด็กมาโดยตลอด กระทั่งเพื่อนของคุณก้อยได้เดินทางไปญี่ปุ่นพอดีแล้วซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสาหร่ายมาให้ทดลองใช้ และพบว่าไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือผื่นแดงเลย จึงทำให้มีความคิดที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทยบ้าง

         พอหลังจากนั้นก็เริ่มมีความคิดที่จะนำเข้าวัตถุดิบเพื่อเอามาผลิตเป็นเครื่องสำอางอื่น ๆ แทน แต่เมื่อทำไปได้สักพักก็ถูกลอกเลียนแบบและมีของปลอมเกลื่อนตลาด ดังนั้นจึงต้องทำให้สินค้าและธุรกิจมีความแตกต่างด้วยนวัตกรรม สิ่งนี้เองที่ทำให้คุณก้อยพยามยามหาวัตถุดิบต่าง ๆ มาทดแทน โดยศึกษาจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น พร้อมวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์แบรนด์ฟูจิเป็นเครื่องสำอางสไตล์เกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อเกาะเทรนด์ความดังในช่วง ๆ นั้นก่อน แถมราคาก็ยังไม่แพงเช่นกัน อย่าง“ครีมหอยทาก”นี้ที่ช่วยให้ใบหน้าเต่งตึงขึ้น ซึ่งสามารถการันตีด้วยรางวัล 7innovation Awards เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาได้นั่นเอง ต่อมาเพื่อให้ตลาดของสินค้ากว้างขึ้น จึงต้องมีการขยายฐานลูกค้า โดยหันมาเจาะตลาดกลุ่มคนวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 35-40 ปี ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย และหน้าตึงใส แทนการทำโบท็อกซ์ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้นเพื่อให้เกิดการตอบสนองแก่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยนี้ จึงพยายามคิดหาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาจำหน่ายอีกทาง

         ดังนั้นคุณก้อยจึงได้พัฒนาครีม’พิษผึ้ง’จากเหล็กในขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในกลุ่มเป้าหมายคนทำงาน โดยได้นำเข้าจากประเทศเกาหลี ขณะที่กระบวนการทำงานคือ นำพิษของผึ้งจากเหล็กในเป็นส่วนผสม ใส่ในปริมาณที่พอเหมาะให้ผิวหน้าตึงไม่ถึงกับบวม ซึ่งสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ และจะรู้สึกว่าหน้าเต่งตึงขึ้น กระจ่างใส ซึ่งครีมพิษผึ้งฟูจิ ถูกนำมาบรรจุลงซองขายในราคาเพียง 35-39 บาทเท่านั้น ตามร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อเพื่อทดลองใช้ได้ง่าย และให้คนที่ซื้อได้ย้อนกลับมาซื้อใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้รูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่เป็นซองถือว่าเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยเพิ่มยอดขายในผลิตภัณฑ์ในเครือแบรนด์ฟูจิได้ในเวลาอันรวดเร็ว เพราะผลิตภัณฑ์ชนิดซองนอกจากราคาจะย่อมเยาแล้ว ลูกค้ายังได้ใช้ครีมที่สดใหม่ซึ่งแตกต่างจากการใช้ครีมแบบกระปุกในปริมาณมาก ที่เสี่ยงต่อเชื้อโรคปนเปื้อนจากนิ้วมือและใบหน้า ขณะเดียวกันกระบวนการผลิตครีมกระปุกจำเป็นต้องใส่สารกันเสียและกลิ่นของครีมในปริมาณที่มากกว่าครีมแบบซอง เพื่อให้คงคุณภาพได้นานตลอดอายุการใช้งาน เพราฉะนั้นครีมแบรนด์ฟูจิจึงมีการใส่สารกันเสียที่น้อยมาก และลูกค้าสามารถใช้ครีมจากซองได้หมดจนหยดสุดท้ายเลยทีเดียว ถึงอย่างไรก็ตามในอนาคตมีการเตรียมผลิตบอดี้เซรัมจากหอยทากในราคาเพียง 59 บาท แต่ตอนนี้สัดส่วนการทำตลาดในประเทศอยู่ที่ 90% และอีก 10% เป็นตลาดต่างประเทศ ได้แก่ จีน สิงคโปร์ กัมพูชา และลาว ส่งผลให้ยอดขายโดยรวมอยู่ที่ 10 ล้านบาทต่อเดือน อีกทั้งยังต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นต่อไปอีก เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลุกค้าให้ได้มากที่สุด