จากน้ำอ้อยคั้นสดธรรมดาๆ สู่การยกระดับให้เป็นสินค้าพรีเมี่ยม


         คุณสุธาทิพย์ เหรียญทอง ทายาทรุ่นที่ 2 ที่สืบทอดกิจการและเข้ามาบริหารกิจการน้ำอ้อยไร่ไม่จน โดยทางคุณสุธาทิพย์เอง ได้บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมากว่าจะมาเป็นน้ำอ้อยไร่ไม่จนที่ทุกคนรู้จักผ่านทางรายการ Smart Focus ไว้ว่า 

         

         โดยจุดเริ่มต้นมาจากคุณพ่อเป็นเกษตรกรที่ทำไร่อ้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใน 1 ปีจะตัดอ้อยเพื่อส่งขายยังโรงงานน้ำตาลแค่ปีละครั้ง ทำให้ได้รายได้แค่เพียงก้อนเดียวต่อปีและต้องจัดสรรเงินใช้ให้พอในปีๆนึง ด้วยความที่คุณพ่อมีอ้อยเป็นวัตถุดิบอยู่แล้ว จึงเล็งเห็นว่าจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับอ้อยที่ตัวเองมีอยู่ จึงได้ลองผิดลองถูกจนมาได้เป็นเครื่องดื่มน้ำอ้อยคั้นสด เริ่มต้นจากการส่งขายตามร้านอาหารเล็กๆแถวบ้าน และได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี แต่ทว่าก็มีปัญหาเข้ามาให้แก้ไขคือ น้ำอ้อยคั้นสดมีอายุการเก็บรักษาที่ไม่นาน ทำให้ร้านค้าตีกลับน้ำอ้อยที่เสียมาเป็นจำนวนมาก 

          จากปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ทางคุณพ่อได้ไปปรึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาจาก ม.เกษตร และได้คำแนะนำมา เนื่องจากอ้อยเป็นพืชที่ปลูกด้วยดิน จึงทำให้มีเชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ถ้าไม่ผ่านการต้มหรือพาสเจอร์ไรซ์ก็จะทำให้เสียง่าย ทางอาจารย์จึงแนะนำให้คุณพ่อไปต้มตามอุณหภูมิที่กำหนดเพื่อที่จะยืดอายุการเก็บรักษาให้นานยิ่งขึ้นจาก 6 ชั่วโมงเป็น 2 สัปดาห์แทน 

          

         กว่าที่น้ำอ้อยจะสามารถเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรดได้ต้องผ่านอุปสรรคและปัญหามากมาย อาทิเช่น การเพิ่มบุคคลากรการผลิตให้มีมากขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มีสูงขึ้น การมีไอเดียความคิดที่จะทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากเจ้าอื่น 

         โดยปัจจุบัน ทางน้ำอ้อยไร่ไม่จนได้คิดค้นน้ำอ้อยที่มีความแปลกใหม่ได้มาเป็นเครื่องดื่ม 3 อย่างที่น่าสนใจ นั่นก็คือ 1.นมน้ำอ้อย 2.น้ำอ้อยเกล็ด และ 3.วุ้นน้ำอ้อย ซึ่งเครื่องดื่มทั้ง 3 อย่างก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้มีผู้ที่สนใจอยากที่จะทำธุรกิจนี้ ทำให้ทางคุณพ่อเล็งเห็นช่องทางที่จะมีรายได้เพิ่มจึงได้เปิดเป็นกิจการแฟรนไชส์ในเวลาต่อมา ซึ่งกว่าที่น้ำอ้อยไร่ไม่จนจะสามารถประสบความสำเร็จนั้นก็มีทางภาครัฐที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนมาโดยตลอดซึ่งก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้น้ำอ้อยของทางคุณสุธาทิพย์สามารถพัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้

         

         ซึ่งภายในระยะเวลา 1 ปี ทางคุณสุธาทิพย์ได้วางเป้าหมายที่จะขยายแฟรนไชส์ออกไปกว่าเท่าตัวจากตอนแรกที่มีแฟรนไชส์กว่า 100 สาขา ก็จะเพิ่มเป็น 200 กว่าสาขา หรืออาจจะเพิ่มรายได้ที่มากขึ้นมาอีกเท่าตัว โดยการขยายฐานตลาดไปยังโรงเรียน โดยมีราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดที่นักเรียนสามารถซื้อได้ ซึ่งก็เป็นช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับทางน้ำอ้อยไร่ไม่จนอีกช่องทางนึง ซึ่งก็ถือว่าธุรกิจเครื่องดื่มไร่ไม่จนก็มีการพัฒนาทั้งทางด้านของสินค้าและการบริหารงานเพื่อที่จะรองรับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่มีมากขึ้น ทั้งยังสามารถสานต่อธุรกิจของคุณพ่อให้ประสบความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไป

          ซึ่งหลักในการบริหารธุรกิจที่ทางคุณสุธาทิพย์ได้แนะนำให้กับผู้ประกอบการทุกคน คือ การไม่ย้ำอยู่กับที่ ต้องมีความกล้าที่จะพัฒนาศักยภาพ อาทิเช่น การเข้าขอคำแนะนำหรือคำปรึกษาจากทางภาครัฐ เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจของเราก้าวไปข้างหน้าและประสบความสำเร็จได้อย่างธุรกิจ น้ำอ้อยไร่ไม่จน

 

สามารถติดตามความสำเร็จของแบรนด์ “น้ำอ้อยไร่ไม่จน” ในรายการ Smart Focus ออกอากาศวันที่ 12 กันยายน 2558 เพิ่มเติมได้ที่ http://smartsme.tv/vod_detail.php?gid=19&id=4049

 

               

หรือจะร่วมสนุกลุ้นรางวัลกับทาง Smart SME แค่คุณคลิกก็มีรางวัล >> http://www.smartsme.tv/news-detail.php?id=524