“ความชรา” เป็นธรรมชาติแท้ที่มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะได้ แต่เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถช่วย “ชะลอชรา” ได้ ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ที่สังคมโลกกำลังจะก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างเต็มรูปแบบในเวลาอีก 34 ปีข้างหน้านี้นั่นคือปี พ.ศ.2593
ถ้าคุณมีชีวิตอยู่จนถึงวันนั้น คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่ 1 ใน 5 ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ชนชราแห่งอนาคตจะมีมากกว่า 2.1 พันล้านคนทั่วโลกแต่เมื่อเทคโนโลยีการแพทย์ก้าวหน้า ช่วยให้มนุษย์ชะลอความเสื่อมสภาพของร่างกาย งานออกแบบซึ่งสร้างสรรค์มาตอบสนองแต่ละวิถีชีวิต เปิดทางให้มนุษย์พึ่งพาตนเองได้นานขึ้นกว่าแต่ก่อน ร่างกายที่ซ่อมแซมได้ และข้าวของเครื่องใช้ที่พร้อมอำนวยความสะดวก ชนชราแห่งอนาคตจึงต้องดูแลตัวเองและผงาดขึ้นมาเป็นแรงงานแห่งศตวรรษนี้
TCDC จึงจัดนิทรรศการ “ชนชราแห่งอนาคต :นิยาม โอกาส และความท้าทายใหม่”ให้เราได้เดินสำรวจความพร้อมที่จะรับมือความชรา ในเส้นทาง 5 โซน ดังนี้
โซนที่ 1 อายุเป็นเพียงตัวเลข
ขณะที่แต่ละประเทศกำลังมุ่งหน้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วยอัตราเร็วที่ต่างกัน ญี่ปุ่นนำหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในระดับสุดยอดไปแล้วเป็นประเทศแรกในโลก ส่วนไทยและสิงคโปร์กำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก่อนใครในเอเชีย สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเหมือนกันทั่วโลกคือ ทัศนคติและมุมมองต่อความชราที่มีชัดเจนขึ้นมากกว่าอดีต “อายุ” จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลข ความพร่าเลือนเรื่องอายุนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มาพร้อมกับชนชราแห่งอนาคต
โซนที่ 2 แก่ช้าลงและพึ่งพาตนเองได้นานขึ้น
การพัฒนาอันก้าวกระโดดของเทคโนโลยีการแพทย์ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20 ช่วยให้มนุษย์ต่อสู้กับความเสื่อมสภาพตามธรรมชาติของร่างกายได้ เช่น ความสามารถผ่าตัดซ่อมแซมปลูกถ่ายอวัยวะ การพิมพ์เนื้อเยื่อสามมิติ เพื่อทดแทนผิวหนังชั้นนอกไปจนถึงอวัยวะภายใน เป็นต้น ดังนั้นการออกแบบสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือบริการใหม่ ๆ จะช่วยให้ชีวิตของชนชราแห่งอนาคตมีความสะดวกและใช้งานง่ายมากขึ้น
โซนที่ 3 มีส่วนร่วมในส่วนรวม
เมื่อจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น จึงส่งผลให้การออกแบบเมืองและการบริการต่าง ๆ ภายในเมือง จำเป็นต้องคำนึงถึงผู้ใช้งานกลุ่มใหญ่กลุ่มใหม่นี้ เช่น คนขับแท็กซี่ที่พร้อมบริการช่วยเหลือผู้สูงอายุได้ตลอดการเดินทาง โรงเรียนที่เปิดสอนคนวัยหลังเกษียณให้เรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์ขั้นพื้นฐาน โลกออนไลน์เปิดพื้นที่ใหม่ให้กลุ่มผู้สูงอายุมากขึ้น ช่วยให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กันในโลกเสมือนได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
โซนที่ 4 ผู้บุกเบิกบทบาทใหม่
เมื่อชนชราแห่งอนาคตมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น ก็จะกลายเป็นคนที่มีพลังในการใช้ชีวิต และดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ได้มากเท่าที่ต้องการ และยังนำต้นทุนที่ตนเคยมี เช่น ทักษะการทำงาน ประสบการณ์ สติปัญญา ความรู้ความสามารถ เงินทุนที่เก็บสะสมมา เครือข่ายพรรคพวกเพื่อนฝูง เป็นต้น มาใช้ผลิตและสร้างสรรค์งานในรูปแบบต่าง ๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
โซนที่ 5 ออกแบบอย่างเข้าใจ
การออกแบบอนาคต เพื่อให้รองรับและอำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตของชนชราแห่งอนาคต จะต้องอาศัยกระบวนการคิดเชิงออกแบบ บนพื้นฐานของความเข้าใจในวิถีชีวิตผู้สูงอายุฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่ชนชราแห่งอนาคตอย่างเรา ๆ จะทำได้ ก็คือ ลงมือสร้างสรรค์อนาคตที่ทุกคนพร้อมจะแก่ด้วยตัวเอง
นิทรรศการ “ชนชราแห่งอนาคต” จึงไม่ใช่เป็นการเปิดประเด็นมาตอกย้ำ “ข่าวร้าย” ว่าทุกคนต้องแก่ แต่เป็นการสะกิดบอก “ข่าวดี” ว่าโลกแห่งความชราในอนาคตนั้น มีสิ่งดี ๆ รองรับอยู่ จงอย่าได้กลัว ซึ่งทางผู้จัดฯ ยังได้นำเสนอคลิปสัมภาษณ์บุคคลหลากหลายอาชีพ และภาพยนตร์สั้น 2 เรื่อง นำเสนอให้เห็นถึงความยากง่ายในการใช้ชีวิตประจำวันของบุคคลที่มี “ความชรา” รออยู่เบื้องหน้ารวมทั้งนำเสนออุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในวัยชราอีกด้วย
ถ้าอยากรู้ว่า “ข่าวดี” นั้นมีอะไรบ้างที่นอกเหนือจากบทความนี้เอ่ยถึง จึงขอเรียนเชิญผู้ที่มีความชรารออยู่ในอนาคต เดินทางไปสัมผัสสิ่งนี้ด้วยตนเอง
นิทรรศการฯ นี้เปิดโลกให้ได้ไปสัมผัสกันแล้วตั้งแต่วันที่24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ไปจนถึงวันหยุดสบาย ๆ ในวันอาทิตย์ 29 พฤษภาคม 2559ที่ TCDC ชั้น 5 ดิเอ็มโพเรียม สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ เปิดให้ได้รับรู้ “ข่าวดี” นี้ในเวลา 10.30-21.00 น. และปิดทุกวันจันทร์ โทร.02-664-8448 ต่อ 213, 214
อย่าชะล่ารอชรา !ให้เวลาอีก 34 ปีข้างหน้าหรือปี พ.ศ.2593 มาถึง เมื่อนั้นคุณอาจจะตั้งตัวไม่ทัน..ก็ได้
By : ชายเล็ก บดินทร์