สำรวจ 10 สังเวียนแข้ง ฟุตบอลยูโร 2016


 

สำรวจ 10 สนามฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือ ยูโร 2016 ที่จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม 2016 สนามใดรองรับเกมคู่ใด SmartSME จะทุกท่านไปทัวร์ดู 10 สนามที่จะต้อนรับทัพนักเตะจาก 24 ชาติกัน

ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือ ยูโร (Euro 2016) ครั้งนี้เป็นการจัดการแข่งขันครั้งที่ 15 โดยครั้งนี้การแข่งขันจะเกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งฝรั่งเศสได้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากได้ผลโหวตเอาชนะคู่แข่งอย่าง ตุรกี และอิตาลี ที่เสนอตัวเข้ามาขอจัดการแข่งขันในครั้งนี้ โดยทัวร์นาเมนท์นี้จะเริ่มขึ้นในวันที่ 10 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม 2016

การเป็นเจ้าภาพของฝรั่งเศส นับเป็นครั้งที่ 3 ที่ได้จัดมหกรรมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งชาติยุโรปรอบสุดท้าย จากก่อนหน้านี้ได้สิทธิ์ในปี 1960 และ 1984 ซึ่งฝรั่่งเศสเคยได้แชมป์รายการนี้ไป 2 ครั้งในปี 1984 และปี 2000 ขึ้นแท่นเป็น 1 ใน 3 ประเทศที่สามารถคว้าแชมป์ในการเป็นเจ้าภาพเองได้ เช่นเดียวกับ สเปน และอิตาลี โดยครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่มีการเพิ่มทีมในการแข่งรอบสุดท้ายจาก 16 ทีมเป็น 24 ทีม

3

ก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า (Uefa) ได้ประกาศชื่อ มาสคอต ที่จะใช้เป็นตัวแทนของการแข่งขันในครั้งนี้คือ ซูปแปวิตอร์ (Super Victor) โดยได้รับการโหวตจากทั่วโลกโดยชนะอีก 2 ชื่อ คือ โกลีซ (Goalix) และ ดริบโลว (Driblou) จากคะแนนโหวดทั้งหมด 107,790 คะแนน ซูปแปวิตอร์ได้คะแนนสูงสุดคือ 51,781 คะแนน โกลีซ (Goalix) ได้คะแนน 29,331 คะแนน และดริบโลว (Driblou) ได้ไป 26,678 คะแนน โดยซูปแปวิตอร์ มีนิยามคือเป็นเด็กหนุ่มที่เกิดในเมืองเล็กๆ ของประเทศฝรั่งเศส มีคุณพ่อเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง ตนเองจึงมีความรักในกีฬาฟุตบอล แล้วพยายามฝึกฝนพัฒนาตนเองและเล่นฟุตบอลด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม ซึ่ง ซูปแปวิตอร์ได้รับมอบหมายหน้าที่เพื่อมาให้ความสุขกับแฟนๆ ฟุตบอลทั่วโลกอีกด้วย

4

ขณะที่สังเวียนฟาดแข้งในการแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส มี 10 เมืองที่ถูกเลือกให้ใช้ในการแข่งขันโดยผ่านการรับรองจากยูฟ่า (Uefa) มีดังนี้ บอร์กโดซ์ (Bordeaux), ล็องส์ (Lens), ลีลล์ (Lille), ลียง (Lyon), มาร์กเซย (Marseille), นีซ (Nice), ปารีส (Paris), แซ็งต์ เดอนี (Saint-Denis), แซ็งต์เอเตียน (Saint-Étienne), ตูลูส (Toulouse) ซึ่งแต่ละเมืองก็มีสนามที่ใช้ในการแข่งขันที่มีเอกลักษณ์ความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นแตกต่างกันไป

5 เมือง บอร์กโดซ์ (Bordeaux) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ใช้สนาม นูโว สตาด เด บอร์กโดซ์ (Nouveau Stade de Bordeaux) ซึ่งเป็นสนามเหย้าของสโมสร ฌีร็องแด็งซ์ เด บอร์กโดซ์ (Girondins de Bordeaux) สามารถรองรับผู้ชมได้ 42,115 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 4 เกม ประกอบด้วย

เวลส์ – สโลวาเกีย
โครเอเชีย – สเปน
ออสเตรีย – ฮังการี
รอบ 8 ทีมสุดท้ายอีก 1 เกม

6

เมือง ล็องส์ (Lens) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของฝรั่งเศส ใช้สนาม สตาด เฟลิกซ์ โบลลาร์ต (Stade Bollaert Delelis) เป็นสนามเหย้าของสโมสรล็องส์ (Lens) สามารถรองรับผู้ชมได้ 38,223 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ประกอบด้วย

แอลเบเนีย – สวิตเซอร์แลนด์
อังกฤษ – เวลส์
สาธารณรัฐเช็ก – ตุรกี
รอบ 16 ทีมสุดท้ายอีก 1 เกม

7
เมือง ลีลล์ (Lille) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของฝรั่งเศสใช้สนาม สตาด ปีแยร์ โมรัว (Stade Pierre Mauroy) เป็นสนามเหย้าของสโมสรลีลล์ (Lille) สามารถรองรับผู้ชมได้ 50,186 คน ใช้ในการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม 4 เกม ประกอบด้วย

สวิตเซอร์แลนด์ – ฝรั่งเศส
รัสเซีย – สโลวาเกีย
เยอรมัน – ยูเครน
อิตาลี – สาธารณรัฐไอร์แลนด์
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม
รอบ 8 ทีมสุดท้าย 1 เกม

8

เมือง ลียง (Lyon) เป็นเมืองอยู่ทางตะวันออกตอนกลางของฝรั่งเศส ใช้สนาม ปาร์ก โอลมปิก ลียง (Parc Olympique Lyonnais) สามารถรองรับผู้ชมได้ 59,286 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 4 เกม ประกอบด้วย

โรมาเนีย – แอลเบเนีย
ยูเครน – ไอร์แลนด์เหนือ
เบลเยียม – อิตาลี
ฮังการี – โปรตุเกส รอบ 16 ทีม
รอบรองชนะเลิศ 1 เกม

9

เมือง มาร์กเซย (Marseille) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ใช้สนาม สตาด เวลอดรอม (Stade Velodrome) เป็นสนามเหย้าของสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย (Olympique de Marseille) สามารถรองรับผู้ชมได้ 67,394 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ประกอบด้วย

ฝรั่งเศส – แอลเบเนีย
อังกฤษ – รัสเซีย
ยูเครน – โปแลนด์
รอบ 8 ทีมสุดท้าย 1 เกม
รอบรองชนะเลิศ 1 เกม

10

เมือง นีซ (Nice) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ใช้สนาม อลิอันซ์รีวิเอรา (Allianz Riviera) สามารถรองรับผู้ชมได้ 35,624 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ประกอบด้วย

โปแลนด์ – ไอร์แลนด์เหนือ
สเปน – ตุรกี
สวีเดน – เบลเยียม
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม

11

เมือง ปารีส (Paris) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ใช้สนาม ปาร์ก เด แพร็งส์ (Parc des Princes) เป็นสนามเหย้าของสโมสรปารีส แซ็งต์ แฌร์กแม็ง (Paris Saint-Germain) สามารถรองรับผู้ชมได้ 48,712 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 4 เกม ประกอบด้วย

โรมาเนีย – สวิตเซอร์แลนด์
ไอร์แลนด์เหนือ – เยอรมัน
ตุรกี – โครเอเชีย
โปรตุเกส – ออสเตรีย
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม

12
เมือง แซ็ง เดอนี (Saint-Denis) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ใช้สนาม สตาด เดอ ฟรองซ์ (Stade de France) ซึ่งเป็นสนามกีฬาแห่งชาติ สามารถรองรับผู้ชมได้ 81,338 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 4 เกม ประกอบด้วย

ฝรั่งเศส – โรมาเนีย
เยอรมัน – โปแลนด์
สาธารณรัฐไอร์แลนด์ – สวีเดน
ไอซ์แลนด์ – ออนเตรีย
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม
รอบ 8 ทีมสุดท้าย 1 เกม
รอบชิงชนะเลิศ 1 เกม

13เมือง แซ็งต์เอเตียน (Saint-Étienne) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนกลางของฝรั่งเศส ใช้สนาม สตาด ฌอฟฟรัว กีชาร์ (Stade Geoffroy-Guichard) เป็นสนามเหย้าของสโมสรแซ็งต์เอเตียน (Saint-Étienne) สามารถรองรับผู้ชมได้ 41,965 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ประกอบด้วย

สโลวาเกีย – อังกฤษ
สาธารณรัฐเช็ก – โครเอเชีย
โปรตุเกส – ไอซ์แลนด์
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม

14

เมือง ตูลูส (Toulouse) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ใช้สนาม สตาดียอม มูนีซีปาล เด ตูลูส (Stadium municipal de Toulouse) เป็นสนามเหย้าของสโมสรตูลูส สามารถรองรับผู้ชมได้ 33,150 คน ใช้ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม 3 เกม ประกอบด้วย

รัสเซีย – เวลส์
สเปน – สาธารณรัฐเช็ก
อิตาลี – สวีเดน
รอบ 16 ทีมสุดท้าย 1 เกม

1 เดือนต่อจากนี้ไปเรามาดูกันว่าผลงานใครจะเป็นยังไงกันบ้าง แชมป์เก่าอย่างสเปนจะสามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้หรือไม่ หรือจะเป็นเจ้าภาพอย่างฝรั่งเศส หรืออาจจะเป็นแชมป์หน้าใหม่รวมไปถึงทีมม้ามืดที่พลิกความคาดหมายอย่างที่เราเคยเห็นกันมาในอดีตก็ได้ เรามาร่วมกันลุ้นว่าใครจะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศแล้วคว้าถ้วยแชมป์ไปครองสำเร็จ รักใครชอบใครเรามาร่วมกันเชียร์ทีมที่ตัวเองชื่นชอบหรือนักเตะที่รักกันใน ยูโร 2016 กัน ขอให้ดูฟุตบอลกันให้สนุก

By : ภาวิณี กรเกษม