คิดว่าคุณรู้จัก AP THAILAND ดีแล้วหรือยัง!


หลายท่านอาจจะรู้จักเอพี ไทยแลนด์ ผ่านอสังหาริมทรัพย์ที่ท่านถือครองเป็นเจ้าของ หรือกำลังหาข้อมูล เพื่อตัดสินใจซื้อเริ่มเป็นลูกค้าใหม่ ยิ่งตอนนี้เอพีกำลังเปิดตัวคอนโดใหม่ที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับตลาด อย่างมากกับ Life สุขุมวิท 48 ด้วยราคาเปิดตัวที่สะเทือนวงการ จนทำให้ sold out ภายใน 2 วันแรกของการพรีเซล วันนี้ถือโอกาสเอพีครบรอบ 25 ปี พาสมาชิกทุกท่านไปย้อนดูเรื่องราวของบริษัทนี้ ใครจะรู้ว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์เล็กๆ ในวันนั้น จะเติบใหญ่ฝ่าหลายวิกฤตจนมาเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศไทย มาได้ ผู้นำเค้ามีมุมมองในการบริหารและการกล้าคิดต่างอย่างไร

ทำความรู้จักเอพี ก่อนย้อนอดีต

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดย 2 เพื่อนสนิทอย่าง ‘อนุพงษ์ อัศวโภคิน’ และ ‘พิเชษฐ วิภวศุภกร’ กับพันธกิจสำคัญในการมุ่งพัฒนานวัตกรรมการ อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ภายใต้ Core Brand Value คือ การสร้างพื้นที่ชีวิตที่เข้าถึงทุกไลฟ์สไตล์ ผ่านกระบวนความคิดที่ลึกซึ้งในทุกขั้นตอนการออกแบบ ผสานกับความเชื่อที่ว่าจุดเริ่มต้นของคำว่า บ้าน ไม่ว่าจะ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโดมิเนียม ทั้งหมดเริ่มต้นจาก… ‘พื้นที่’ ภายใต้ 3 ปรัชญาการออกแบบ สเปซที่ว่า Space Maximize                ประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่ เพื่อเปลี่ยนแนวคิดด้านข้อจำกัด Space Privacy พื้นที่ใช้สอยร่วมกัน ที่ต้องรักษาความเป็นส่วนตัว และ Space Connect เชื่อมโยงความอบอุ่นภายในบ้าน และเชื่อมต่อสิ่งสำคัญผ่านทำเลที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นพื้นฐานความสำเร็จของเอพี

AP_K-ANUPONG_K-PICHET1

‘พิเชษฐ วิภวศุภกร’ และ ‘อนุพงษ์ อัศวโภคิน’ 

1991

AP Begins with SPACE

จุดเริ่มต้นของวันนี้

จากการแนะนำของผู้ใหญ่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เชื่อมโยง อนุพงษ์ อัศวโภคิน และพิเชษฐ วิภวศุภกร ให้มาพบกัน จากต่างคนต่างที่มาแต่ด้วยวิธีคิดและวิสัยทัศน์ที่เหมือนกัน ทั้ง 2 ท่านจึงตกปากรับคำที่จะร่วมสร้างธุรกิจไปด้วยกัน โดยเริ่มจากการสร้างวิธีคิดใหม่ในการใช้ ‘พื้นที่’ กับการเปิดตัวทาวน์โฮมโครงการแรกภายใต้ชื่อ พิชาดา ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยในอดีตไปอย่างสิ้นเชิง

 “การที่เราจะแตกต่างจากคู่แข่งได้ เราก็ต้องทำสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้า การพัฒนาคอนโดมิเนียม และ ทาวน์เฮ้าส์ในเมือง เป็นแนวคิดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มธุรกิจ และเราก็ต้องเป็นเจ้าแรกๆ ในตลาดที่พัฒนา โครงการในเมืองก่อนผู้ประกอบการรายอื่นๆ” นี่คือวิสัยทัศน์ที่ผู้บริหารทั้ง 2 ท่านวางไว้ ณ วันแรกของ การทำธุรกิจร่วมกัน เมื่อปี 1991

“ทุกคนพร้อมช่วยกัน” คุณภมร ประเสริฐสรรค์ Chief Business Group – TH เล่าถึงการทำงานในตอน นั้นว่า ตนเองเข้าทำงานเป็นวิศวกรคุมงานก่อสร้าง แต่ก็ต้องมาช่วยเรื่องงานขายด้วย เพราะตอนนั้น บริษัทมีพนักงานไม่มาก ตอนไปคุมงานก่อสร้าง ก็ต้องไปช่วยขายด้วยเรียกว่าต้องทำทุกอย่าง ซึ่งทุกคนก็เต็มที่  เพราะขนาดคุณพิเชษฐ กับคุณอนุพงษ์ ก็ลงมาช่วยงานขายด้วยตนเอง

1994

FIRST DEVELOPER TO CONNECT LIVING SPACE WITH MASS TRANSIT SYSTEM

รายแรกที่จุดพลุให้ตลาดคอนโดติดรถไฟฟ้า                              

หลังจากที่ทาวน์โฮมในทำเลต่างๆ เดินหน้าประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เอพีเดินหน้าไปอีกขั้นตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้กับการเป็นเจ้าแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ขยับมาจับตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งสวนทางกับความเป็นจริง ณ ขณะนั้นที่รถไฟฟ้าเพิ่งเริ่มวางแผนก่อสร้าง และการอยู่คอนโดมิเนียมถือเป็นเรื่องใหม่อย่างมากในตอนนั้น

แต่สัญชาติญาณของผู้บริหารทั้ง 2 สองบอกว่าใช่! การมาของรถไฟฟ้าจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ต่อวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย แต่ติดปัญหาตรงที่ เงินทุน จะหาเงินจากไหนมาซื้อที่ดินและก่อสร้าง การกู้เงินจึงเป็นหนทางเดียวที่ทำให้เป้าหมายของทั้งสองพาร์เนอร์เป็นจริง

“สิ่งที่ทำให้คณะกรรมการสินเชื่อของเรามั่นใจและตัดสินใจปล่อยสินเชื่อให้กับเอพี คือ ความตั้งใจในการทำงานของผู้บริหารทั้งสองท่าน ซึ่งทำให้เราเชื่อว่าโครงการปทุมวัน รีสอร์ท นี้จะไปได้” คุณศิริพงษ์ สมบัติศิริ ซึ่งอดีตเป็นผู้บริหารบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ธนสยาม เล่าให้เราฟังถึงเหตุผลที่อนุมัติสินเชื่อ

“โครงการปทุมวัน รีสอร์ท คอนโดมิเนียมตึกแรกที่อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้า เปิดตัวด้วยมูลค่าสูงถึง 1,900 ล้านบาท มูลค่ามากกว่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทฯ หลายร้อยเท่า ราคาขายที่ 45,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งถือว่าสูงมาก ณ ขณะนั้น ต้องยอมรับว่าตอนนั้นเราใจกล้ามาก คุณพิเชษฐเชื่อว่าโครงการขายได้แน่เพราะอยู่ในเมืองและอยู่ติดรถไฟฟ้า ผมก็มั่นใจว่าเราทำได้ โครงการนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัทในการกล้าคิดต่างอย่างก้าวกระโดดจริง”

1994

โครงการปทุมวันรีสอร์ท

1999

A SOLID WALK THROUGH CRISIS

รายแรกที่ฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจ

วิกฤตการเงินครั้งใหญ่ในปี 1997 ส่งผลกระทบต่อเอพีโดยตรง ถึงแม้บริษัทฯ จะไม่มีเงินกู้สกุลต่างประเทศ แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาสภาพคล่อง ลูกค้าถูกเลิกจ้าง รายได้ลด ทิ้งดาวน์ ไม่โอน พร้อมกับการแบก ภาระหนี้ที่สูงถึง 1,000 ล้านบาท แต่มีเงินในบริษัทไม่ถึง 100 ล้าน สารพัดวิธีถูกนำมาใช้ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้กับบริษัท ซึ่งนำมาซึ่งปี 1999 เอพีเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่ฟื้นตัวจากวิกฤติ โดยสิ่งที่อนุพงษ์ และพิเชษฐไม่เคยทิ้งเลยคือ พนักงาน

“ตอนนั้นมีโครงการที่ยังขายไม่หมดอยู่ทั้งสิ้น 3 โครงการคือ บ้านมนวดี บ้านเงาไม้ และปทุมวัน รีสอร์ท เมื่อเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน จึงตัดสินใจยอมปรับลดราคาบ้านลงมา  20% และลดราคาขาย โครงการปทุมวัน รีสอร์ท จาก 45,000 มาอยู่ที่ 35,000 บาท/ตร.ม. ขายแล้วยังเหลือกำไรนิดหน่อย ดีกว่าแบกภาระดอกเบี้ยไว้ โครงการก็ขายไม่ได้”

“ปัญหาที่เกิดขึ้นพนักงานระดับบริหารทุกคนรับรู้ คุณอนุพงษ์ คุณพิเชษฐเรียกทุกคนไปคุย เราทุกคนก็บอกว่าเราจะเดินไปด้วยกัน รู้ว่าตอนนั้นมีความเสี่ยง แต่เรามั่นใจว่าผู้บริหารทั้งสองท่านจะนำพาองค์กรให้ผ่านวิกฤตไปได้” กิตติยา พงษ์ปูชนีย์กุล หนึ่งในผู้บริหารที่ดูแลด้านบัญชีในขณะนั้นพาเราย้อนไปสัมผัสถึงความเชื่อที่พนักงานทุกคนมีต่อผู้บริหารทั้งสอง

“บริษัทอยู่ได้เพราะพนักงาน ตอนนั้นเราปรับลดค่าใช้จ่ายหลายอย่าง แต่ที่เราไม่ลดคือ เงินเดือนของพนักงานระดับกลางและระดับปฎิบัติการ ซึ่งเราไม่ลดและก็ไม่มีการปลดพนักงาน ความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกคน ทำให้เราผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดมาได้  คุณอนุพงษ์กล่าวถึงเรื่องการดูแลพนักงานในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง

2000

SPEED UP & PUBLICLY LISTED

ฟื้นตัวก่อนใคร เดินหน้าเป็นบริษัทมหาชน

วิกฤติต้มยำกุ้งทำให้หลายบริษัทหายไปจากวงการ ขณะที่หลายบริษัทยังอยู่ในกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ แต่เอพีรอด! เพราะความกล้าในการตัดสินใจประกอบกับการคิดหาหนทางเดินหน้าอย่าง ไม่ยอมแพ้ของสองผู้บริหาร จากวิฤกติทำให้ราคาที่ดินตกอย่างมาก อนุพงษ์และพิเชษฐเลย ตัดสินใจเปิดไพ่ใบสุดท้าย ด้วยการใช้เงินที่เหลือซื้อที่ดินจากปรส. มาทำโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ บ้านกลางกรุง และบ้านกลางเมือง พร้อมเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ในการพัฒนาโครงการ ซึ่งนำมาสู่ยุค เฟื่องฟูของเอพีจนขยับตัวเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชนในที่สุด

“ตอนนั้นคิดกันเยอะว่าจะใช้ชื่ออะไร ผมบอกกับทีมงานไม่ต้องคิดมากสื่อสารตรงๆ ไปเลย ว่าบ้านเดี่ยวก็เป็น บ้านกลางกรุง ทาวน์เฮ้าส์ก็เป็นบ้านกลางเมือง วันแรกที่เราเปิดขายบ้านกลางเมือง รามคำแหง ต้องแจกบัตรคิว” คุณอนุพงษ์กล่าว

“เราเปลี่ยนวิธีคิดในการทำโครงการจัดสรรใหม่หมด หมุนการวาง Master Plan โครงการให้กลับกัน เดิมหลายบริษัทฯ จะเก็บที่ดินพื้นหน้าโครงการไว้เพื่อทำเป็นแปลงขาย แล้วดัน Clubhouse ไปไว้แปลงหลังสุด เพราะที่ดินถูกกว่า เรามองต่างมุม เห็นมูลค่าของ Facilities ที่เป็นตัว ดึงดูดให้คนอยากอยู่ในโครงการ เลยปรับการออกแบบใหม่หมุนให้มาอยู่ด้านหน้า และก็ขายดีปิดโครงการได้อย่างรวดเร็ว”

 2002

SPACE BEYOND NORM

คิดจะเป็นผู้นำต้องกล้าที่จะต่าง

ทุกโครงการที่เปิดตัวล้วนประสบความสำเร็จ ส่งผลให้เอพีเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู เดินนำบริษัทอื่นๆ ไปหลายก้าว วิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างบ้านสำหรับคนเมืองที่ทั้งสองตั้งไว้ตั้งแต่วันแรกที่จับมือกันเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง แต่ทั้งสองก็ยังไม่หยุดที่จะท้าทายตัวเองต่อ เดินหน้าคิดการใหญ่ที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกที่อยู่อาศัย ของคนกรุงเทพ ด้วยการยกระดับการพัฒนาทาวน์เฮ้าส์ สู่การเป็น HI-END TOWNHOME สร้างความแตกต่างในการออกแบบ ใส่ใจในรายละเอียด ทั้งงานสถาปัตยกรรมภายนอกและ การจัดวางสเปซภายใน ตลอดจนงานภูมิสถาปัตยกรรมโดยรอบ ภายใต้คอนเซ็ปต์  BIG CITY  เพื่อมุ่งสร้างความภาคภูมิใจใน การอยู่อาศัย ท่ามกลางศักยภาพของทำเลกลางเมืองอย่างแท้จริง

 “เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีความต้องการที่แตกต่างกัน บ้านต้องสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้าน” คุณอนุพงษ์ เล่าถึงแนวคิดที่สะท้อนออกมาในการออกแบบโครงการบ้านกลางกรุง British Town ทองหล่อ โครงการต้นแบบของ HI-END TOWNHOME ที่สร้าง TALK OF THE TOWN ให้กับวงการอสังหาฯ

บ้านกลางกรุงทองหล่อ ดีไซน์

บ้านกลางกรุง ทองหล่อ

2007

AP NEXT CHAPTER

ความสำเร็จวันนี้ คงไม่ใช่สูตรความสำเร็จในวันพรุ่งนี้สำหรับ 2 ผู้บริหาร ก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 2 ของเอพีกับการเปลี่ยนเพื่อเติบโตไปอีกขั้น หลังจากชื่อเสียงของบริษัทได้ถูกแสตมป์ไว้กับการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมในเมือง ด้วยชื่อแบรนด์ที่ Strong มากอย่าง บ้านกลางเมืองและ บ้านกลางกรุงบทพิสูจน์ต่อไปคือ การรุกตลาดคอนโดมิเนียม เพื่อครองภาพการเป็นรายแรกที่พัฒนาคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า ขณะที่ตอนนั้นหลายบริษัทฯ ไม่มีใครสนใจสินค้านี้ LIFE CONDO ถือเป็นคอนโดมิเนียมที่สร้างชื่อเสียงให้เอพีอีกครั้ง กับจุดเด่นของแบรนด์ที่เข้าใจถึงความต้องการของ คนรุ่นใหม่อย่างลึกซึ้ง ทั้งภาพลักษณ์ที่สื่อสารออกมาผ่านแคมเปญโฆษณา จนสื่อมวลชนเขียนข่าวแซว ถึงวิธีคิดของผู้บริหารที่นำสีมาเป็น Gimmick ว่าคอนโดอะไรมาเป็นสีๆ รวมถึงความเจ๋งของตัวสินค้า ที่เรียกว่าไม่กี่ก้าวถึงรถไฟฟ้าจริงๆ

20070525-N-KT-LIFE-pg2(JUDPAKRAY)-Asian Property

 “ไม่มีความสำเร็จใดเป็นนิรันดร์ ความสำเร็จในวันนี้ไม่ใช่ความสำเร็จในวันพรุงนี้ ถ้าเราหลงอยู่กับความสำเร็จในอดีต เราก็จะไม่สามารถก้าวต่อไปในอนาคตได้ เพราะเราจะติดกับดักความสำเร็จของตัวเอง” คุณอนุพงษ์ กล่าวเพื่อกระตุ้นให้พนักงานในองค์กรกล้าที่จะเปลี่ยน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ยิ่งใหญ่

ไม่เพียงเท่านั้นเอพีเติบโตอย่างแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่หยุดที่จะพัฒนาสินค้าทั้งคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม และบ้านเดี่ยวผ่านหลากหลายแบรนด์ที่คุ้นหูคนกรุงเทพกันเป็นอย่างดี โดยมุ่งมั่นที่จะตอบสนองลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ในหลากหลายเซกเมนท์ ผ่านทำเลศักยภาพที่คัดสรรเป็นอย่างดี

2014

INTERNATIONAL PARTNERSHIP

เพิ่มมุมมอง พัฒนาสเปซอย่างไม่หยุดนิ่ง

ก้าวเข้าสู่ระดับสากล กับการลงนามในสัญญาร่วมทุนพัฒนาคอนโดมิเนียมร่วมกับกลุ่มมิตซูบิชิ เอสเตท บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสินทรัพย์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เพื่อนำปรัชญาแนวคิด ในการออกแบบสเปซจากทางญี่ปุ่นมาผสมผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทย เพื่อนำมาซึ่ง นวัตกรรมดีไซน์ที่ยกระดับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ไทยเทียบเท่าสากล

 “เราเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าตลอดเวลา และนั่นคือวิถีของเอพี”  

AP and MEG

2015

AP ACADEMY

เพราะคนคือทรัพยากรที่สำคัญที่สุดสำหรับเอพี

คน เป็นเรื่องที่ผู้บริหารทั้ง 2 ท่านคำนึงถึงเสมอ ไม่ว่าจะผ่านเหตุการณ์ร้ายดีมามากแค่ไหน สิ่งที่คุณอนุพงษ์และคุณพิเชษฐไม่เคยมองข้ามคือ พนักงานในองค์กร เมื่อองค์กรใหญ่ขึ้น จำนวนโครงการที่ต้องพัฒนาก็มากขึ้น ศักยภาพของคนก็ต้องได้รับการพัฒนาให้สอดรับเช่นกัน เมล็ดเงินการลงทุนกว่า 300 ล้าน ที่ 2 ผู้บริหารยอมทุ่ม เพื่อผลักดันให้ AP ACADEMY สถาบันเพื่อการเรียนรู้ครบวงจร ด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งแรกในประเทศไทยเกิดขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมายในการสร้างคนคุณภาพ ที่นำมาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพออกสู่สังคม

2016

AP THINK SPACE

25 ปีเอพี พื้นที่ชีวิต ที่คิดเพื่อคุณ

25 years

25 ปีกับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้จากหลักไม่กี่ร้อยล้านในวันเริ่มต้น พุ่งทะยานขึ้นสูงอย่าง ต่อเนื่อง วันนี้เอพีพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 25 กับการเดินหน้าสานต่อพันธกิจสำคัญขององค์กรในการมุ่ง พัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์พื้นที่ชีวิตที่เข้าถึงทุก ไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ AP SPACE เป็นมากกว่าพื้นที่ใช้งาน แต่คือที่สุดของประสบการณ์ในการอยู่อาศัย ที่ที่ทุกตารางนิ้วแฝงไว้ด้วยปรัชญาและวิธีคิดในการออกแบบที่สะท้อนถึงความเข้าใจในพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างลึกซึ้งแท้จริง ผ่านการผสานวิสัยทัศน์ร่วมกันระหว่างรุ่นก่อตั้งอย่าง นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เข้ากับมุมมองทีมบริหารและพนักงานรุ่นใหม่ ที่เป็นกำลังสำคัญขับเคลื่อน ให้กว่า 100 โครงการ  มูลค่ารวมเกือบ 112,000 ล้านบาท  ที่อยู่ในแผนงานธุรกิจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ เอพีคิดเสมอว่าทุกพื้นที่ๆเราออกแบบคือ”พื้นที่ชีวิต” จึงสรรค์สร้างสเปซที่ดีที่สุด เพื่อตอบทุกชีวิตที่คนเมืองต้องการ

#AP25YEARS #APSPACE #APTHINKSPACE