สร้างรอยยิ้ม สร้างความสุข กับสวนสนุกดรีมเวิลด์


ถ้าพูดถึงสวนสนุกแล้ว คงจะมีใครหลายๆคนนึกถึงสวยนสนุกดรีมเวิลด์ที่ถูกเนรมิตขึ้นมาให้เป็นโลกแห่งความสุขสำหรับครอบครัว ภายใต้สโลแกนที่ว่า “โลกแห่งความสุขสนุกทั้งครอบครัว” ซึ่งหลายคนคงเคยได้สัมผัสกับเครื่องเล่นต่างๆ พร้อมกับชมการแสดงที่สุดแสนประทับใจ หรืออาจมีโอกาสได้แวะเวียนเข้าไปพักผ่อนกับบรรยากาศที่ร่มรื่นกันมาแล้ว เชื่อว่า “ดรีมเวิลด์” คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่แห่งความทรงจำเมื่อครั้งวัยเยาว์ของหลายคนเป็นแน่

“อำพล สุทธิเพียร” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท อมิวส์เม้นท์ ครีเอชัน จำกัด ผู้บริหารสวนสนุกดรีมเวิลด์ ก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลที่ได้มีโอกาสมีความทรงจำร่วมกับสวนสนุกแห่งนี้ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยังเป็นแดนเนรมิตด้วยซ้ำไป เนื่องจากในขณะที่ได้ศึกษาอยู่คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น แดนเนรมิตมีสโมสรให้เด็กได้เข้าไปร่วมกิจกรรม ซึ่งผู้บริหารคนนี้ก็ได้มีโอกาสเข้าไปทำพาร์ตไทม์เรื่อยมาจนถึง ณ ปัจจุบันนี้ “ผมมาอยู่ดรีมเวิลด์ตั้งแต่ยังเป็นแดนเนรมิต ซึ่งในตอนนั้นประเทศไทยยังไม่มีสวนสนุก ผมได้เดินทางไปดูสวนสนุกในต่างประเทศอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นดิสนีย์แลนด์ หรือแม้แต่สวนสนุกในแถบยุโรป ผมก็เคยได้มีโอกาสไปดูงานมา ซึ่งในช่วงที่สร้างดรีมเวิลด์ประเทศไทยเรียกได้ว่ายังไม่มีสวนสนุกแบบนี้เลยด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวแล้วก็เป็นคนชอบเที่ยว เพราะเป็นการเปิดหูเปิดตาให้กับตัวเอง การได้ไปดูสวนสนุกตามประเทศต่างๆ ทำให้เราเห็นจุดไหนดีและจุดไหนที่ไม่ดี แล้วนำมาปรับใช้กับทางเรา” นายอำพลเริ่มเล่าถึงการเดินทางของตนก่อนสร้างสวนสนุกดรีมเวิลด์

สำหรับ “ดรีมเวิลด์” เป็นที่รู้กันว่าคือสวนสนุก ผู้คนในทุกเพศ ทุกวัย สามารถเข้าไปร่วมกิจกรรมกันได้ และสิ่งที่เรามักพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในการเที่ยวชมสวนสนุก นั่นคือรอยยิ้มของนักท่องเที่ยวที่เข้ามานั่นเอง “ดรีมเวิลด์ เป็นธุรกิจที่ขายความสุขให้กับลูกค้า บางคนเรียนเครียด ทำงานหนัก สวนสนุกก็อาจเป็นตัวเลือกที่คนจะเลือกเข้ามาพักผ่อนอีกที่หนึ่ง ดรีมเวิลด์จึงได้ถูกออกแบบให้สามารถเป็นได้ทั้งที่พักผ่อน มีการแสดง มีเครื่องเล่น และมีที่ถ่ายรูป ซึ่งใครก็ตามที่เข้ามาแล้วได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในดรีมเวิลด์กลับไปแล้วต้องมีความสุข นอกจากนี้สวนสนุกยังเป็นที่ในการรวมตัวกันทำกิจกรรมของคนในครอบครัว เพราะบางกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นการเดินห้างหรือการร่วมรับประทานอาหาร บางทีคนในครอบครัวก็อาจแยกกันทำ แต่การเที่ยวสวนสนุกไม่ใช่แบบนั้น”

การดำเนินธุรกิจที่มอบแต่ความสุขและสนุกให้แก่ลูกค้า แน่นอนว่าสิ่งที่ยึดเป็นหลักในการทำงานก็คงไม่ได้ต่างกันมากนัก “การทำงานต้องทำงานอย่างมีความสุข ถ้าเรามีความสุขกับงานที่ทำแล้ว แน่นอนงานมันย่อม ออกมาดี” โดยส่วนตัวที่วาดฝันเอาไว้คืออยากให้เป็นโลกอีกแห่งที่มีแต่ความสุขตามสโลแกนที่ว่า “โลกแห่งความสุขสนุกทั้งครอบครัว” ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาจะได้พบกับโลกอีกใบหนึ่ง เป็นโลกแห่งความฝันด้วยสิ่งต่างๆ ที่เรามีอยู่ภายในสวนสนุก โดยที่ในอนาคตเราก็อยากให้ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับว่า Know How ของเราอาจเทียบกับทางต่างประเทศไม่ได้ ในขณะเดียวกันธุรกิจนี้การลงทุนค่อนข้างสูง ต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด ซึ่งหากต้องการกำไรที่เยอะก็ต้องมีการลงทุนที่สูงตามไปด้วย รวมถึงบริเวณพื้นที่ในการให้บริการ ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนอยู่ทุก 2-3 ปี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเครื่องเล่นหรือแม้แต่สวนที่อยู่ภายในพาร์คก็ต้องมีการปรับปรุงเพื่อหาสิ่งใหม่ๆ ให้คนที่เข้ามาภายในดรีมเวิลด์อยู่เสมอ” ด้วยแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดนิ่ง ทำให้สวนสนุกดรีมเวิลด์ประสบความสำเร็จมาได้อย่างยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน